นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงเมื่อวันที่ 29 มิ.ย. ว่า ในวันที่ 30 มิถุนายน ตนและฝ่ายกฎหมายของพรรคจะเข้ายื่นหนังสือต่อนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อให้รัฐบาลดำเนินการกับกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยคดีก่อการร้ายสากลในการปิดสนามบินสุวรรณภูมิและสนามบินดอนเมือง หลังจากที่ยังไม่สามารถออกหมายจับแกนนำกลุ่มพันธมิตรฯได้ ทั้งที่ระยะเวลาผ่านมา 1 ปี 6 เดือนแล้ว เพื่อให้เป็นมาตราฐานเดียวกันกับการดำเนินคดีกับกลุ่มนปช. และให้เป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างความปรองดองทั้ง 2 ฝ่ายที่จะต้องบังคับใช้กฎหมายอย่างเท่าเทียมและเป็นธรรม ตามรัฐบาลธรรมนูญมาตรา81 วรรค 1 และมาตรา 3 วรรค 2 ที่ไม่ให้เลือกปฎิบัติ อย่างไรก็ตามหากนายอภิสิทธิ์ เป็นนายกรัฐมนตรีที่ยึดหลักนิติรัฐก็ควรที่จะสั่งการในฐานะผู้นำฝ่ายบริหารให้ดำเนินการเร่งรัดคดีของกลุ่มพันธมิตรฯ พร้อมกันนี้จะเสนอให้นายอภิสิทธิ์ นำคดีดังกล่าวบรรจุในคดีพิเศษ เช่นดียวกับคดีของกลุ่มนปช.ด้วย
“การที่ศอฉ.และดีเอสไอได้ออกหมายเรียก 83 บัญชีทั้งนิติบุคคลและบุคคลเข้าชี้แจงเรื่องการทำธุรกรรมทางการเงินนั้น ผมเห็นว่าควรที่จะให้สอบท่อน้ำเลี้ยงของกลุ่มพันธมิตรฯ ด้วย ว่าการชุมนุม 3 เดือนเศษนั้น กลุ่มพันธมิตรฯนำเงินมาจากไหน รวมทั้งการปรากฎหลักฐานว่าสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ร่วมสนับสนุนและบริจาคสิ่งของให้กับกลุ่มพันธมิตรฯด้วย ซึ่งหากนายอภิสิทธิ์ไม่ดำเนินการจะถือว่าละเว้นการปฎิบัติหน้าที่ตามมาตรา 157 ต่อซึ่งพรรคเพื่อไทยจะยื่นหนังสือต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ปปช.) พร้อมกับให้ส.ส.ของพรรคเพื่อไทยเข้าชื่อถอดถอนต่อประธานวุฒิสภาด้วย”นายพร้อมพงศ์กล่าว