1 เดือนผ่านไปยังไร้วี่แวว ป.ป.ช.ลงดาบฟันคดีใหญ่

"แถลงผล 1 เดือนที่ผ่านมา"


นายปานเทพ กล้าณรงค์ราญ ประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) พร้อมด้วยกรรมการ ป.ป.ช. ทั้ง 7 คน ขาดเพียงนายวิชัย วิวิตเสวี กรรมการ ป.ป.ช. แถลงผลการทำงานครบ 1 เดือน วานนี้ (2 พ.ย.) โดยนายปานเทพ กล่าวถึงผลงานที่ออกมายังไม่มีคดีที่เป็นคดีใหญ่ หรืออยู่ในความสนใจของประชาชน ว่า การทำงานที่ผ่านมา คณะกรรมการฯ ทำงานเต็มที่ โดยยึดหลักความถูกต้อง ความเที่ยงธรรม ดังนั้น ผลงานที่จะออกมา ต้องออกมาตามหลักกฎหมาย และความยุติธรรม ส่วนในแง่ของสังคม เป็นเรื่องที่จะพิจารณากันเอง

เมื่อถามถึงกรณีที่สังคมคาดหวังการทำงานของ ป.ป.ช.ไว้สูง แต่ 1 เดือนที่ผ่านมา ยังไม่มีผลงานที่เป็นรูปธรรม รู้สึกกดดันหรือไม่นั้น ประธาน ป.ป.ช. กล่าวว่า ไม่รู้สึกกดดัน เพราะทำงานเต็มที่ และคิดว่าผลงานที่ออกไป หากสังคมมองดูอย่างมีเหตุมีผล จะต้องยอมรับว่าได้ทำงานอย่างเต็มที่

"อีก 1-2 เดือนน่าจะเห็นชัดกว่านี้"


เหมือนกับการเล่นฟุตบอล คนที่เป็นกองเชียร์อยากให้เรายิงลูกให้เข้า แต่เราต้องอยู่ในกติกา เพราะถ้าไม่อยู่ในกติกา ก็จะถูกใบเหลืองใบแดงได้ นายปานเทพ กล่าว และว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช. ให้ความสำคัญกับเรื่องการป้องกันมาก โดยจะวางกรอบเรื่องการป้องกันต่าง ๆ ทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค โดยการสร้างเครือข่ายเชื่อมโยงเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันตั้งแต่แรก

นายกล้านรงค์ จันทิก กรรมการ ป.ป.ช. กล่าวว่า งานของ ป.ป.ช.ที่ออกมาเป็นรูปธรรมทั้งหมด และ ป.ป.ช.จะปรับปรุงการปฏิบัติงาน คิดว่าอีกประมาณ 1-2 เดือน จะเห็นเป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น

"ที่ผ่านมาการบริหารมีความเสียหายใหญ่หลวง"


นายวิชา มหาคุณ กรรมการ ป.ป.ช. กล่าวว่า ป.ป.ช.ไม่ได้พิจารณาสำนวนคดีอย่างเดียว แต่มีการบริหารองค์กรด้วย เพราะช่วงเวลา 1 ปี 11 เดือน ที่ไม่มีคณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้สร้างความเสียหายอย่างใหญ่หลวงในการดำเนินงาน การบริหารองค์กรขาดส่วนหัว มีแต่ตัวกับหางที่ดำเนินการ และไม่มีการพัฒนาองค์กร ดังนั้น สิ่งที่ต้องดำเนินการ คือ การพัฒนาบุคลากรขององค์กร ซึ่งทางคณะกรรมการ ป.ป.ช. เห็นชอบให้จัดตั้งสถาบันพัฒนาข้าราชการ ป.ป.ช. เพื่อทำให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น และจัดตั้งศูนย์สารสนเทศ ที่สามารถเชื่อมโยงและทำบัญชีตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินอย่างมีประสิทธิภาพ

นายวิชา ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการไต่สวนการทุจริตโครงการบ่อบำบัดน้ำเสียคลองด่าน แถลงถึงความคืบหน้าการสอบสวนว่า ได้รับมอบหมายให้สอบสวนในส่วนการทุจริตการยึดเอาที่ดินหลวงไปเป็นของส่วนตัว ของบริษัท ปาล์ม บีช รีสอร์ท คดีมีความคืบหน้าอย่างมาก เพราะพนักงานสอบสวนดำเนินการสอบสวนได้ถึงร้อยละ 80 ก่อนจะส่งมาให้ ป.ป.ช. ขณะนี้ได้วางกรอบการทำงาน และประชุมคณะอนุกรรมการไต่สวน เพื่อรวบรวมข้อมูลที่เหลืออยู่ คิดว่าจะใช้เวลาประมาณ 2 เดือน น่าจะเรียบร้อย

"ผลงานใน 1 เดือน"


ส่วน น.ส.สมลักษณ์ จัดกระบวนพล กรรมการ ป.ป.ช. ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการไต่สวนเรื่องการกล่าวหาเจ้าหน้าที่กรมสรรพากร ช่วยเหลือในการตรวจสอบภาษีการรับโอนหุ้นของบริษัท ชิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) แถลงถึงความคืบหน้าในคดีดังกล่าวว่า ได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง และเรียกเจ้าหน้าที่ที่เชี่ยวชาญด้านภาษีมาสอบถามไปได้ร้อยละ 80 แล้ว ซึ่งจะรวบรวมและเสนอเข้าที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช.ได้ไม่เกิน 2 เดือน

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า สำหรับผลงานของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ตั้งแต่เข้ารับหน้าที่เมื่อวันที่ 6 ต.ค. จนถึงวานนี้ ตรวจสอบบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีในรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จำนวน 217 บัญชี ตรวจสอบบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ จำนวน 7 บัญชี ตรวจสอบบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีในรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชุดที่ 2 จำนวน 36 บัญชี ระหว่างวันที่ 14-28 พ.ย. 2549 ตั้งอนุกรรมการไต่สวนคดีต่าง ๆ ทั้งหมด 15 คณะ เช่น คณะอนุกรรมการไต่สวนเรื่องกล่าวหาเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ร่วมกันทุจริตเกี่ยวกับการออกเอกสารสิทธิที่ดินใช้จัดทำโครงการจัดการน้ำเสียเขตควบคุมมลพิษ จังหวัดสมุทรปราการ และคณะอนุกรรมการไต่สวนเรื่องการกล่าวหาเจ้าหน้าที่กรมสรรพากร ช่วยเหลือในการตรวจสอบภาษีการรับโอนหุ้นของ บมจ.ชิน คอร์ปอเรชั่น เป็นต้น และมีมติชี้มูลความผิดทางวินัย ทางอาญา ร่ำรวยผิดปกติ จำนวน 11 เรื่อง อาทิ ชี้มูลความผิดว่าร่ำรวยผิดปกติอดีตอธิบดีกรมธนารักษ์ กระทรวงการคลัง


แหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์