สมศักดิ์รีบโต้ พบวินัย อ้างข่าวปล่อย

"ไม่ใช่เรื่องจริงเลย"


วันที่ 31 ต.ค. เมื่อเวลา 11.00 น. ที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน แกนนำกลุ่มวังน้ำยม แถลงถึงกรณีที่มีข่าวว่า มีการเบิกเงินจากธนาคารกว่า 2 พันล้านบาท โดยแบ่งเงินส่วนหนึ่งเพื่อสนับสนุนการลงพื้นที่ของอดีต ส.ส.พรรคไทยรักไทย ในภาคอีสาน และอีกส่วนหนึ่งมีการนำไปใช้เพื่อล็อบบี้ในการเลือกประธานสภานิติบัญญัติที่ผ่านมาว่า ไม่ทราบว่าข่าวดังกล่าวมีวัตถุประสงค์อะไร

แต่หากปล่อยเรื่องนี้ให้ผ่านเลยไป จะยากต่อการแก้ไข กลายเป็นภาพติดตัวของเราไป ที่ผ่านมาเป็นคนพูดน้อย ไม่ค่อยแก้ข่าวอะไรที่เป็นเรื่องเล็กน้อย แต่ครั้งนี้เป็นเรื่องที่อ้างคำพูดของตนซึ่งไม่ใช่เรื่องจริงเลย เพราะในข้อเท็จจริงแล้วไม่ทราบและไม่เคยพูดกับใครในเรื่องดังกล่าวเลย

ฉุนถูกไอ้โม่งโยงใยกับ พจมาน

นายสมศักดิ์กล่าวต่อว่า ส่วนเรื่องคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภรรยา พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ก็ไม่เคยพูดคุยหรือติดต่อทางโทรศัพท์เลย เรื่องทั้งหมดเป็นความเท็จโดยสิ้นเชิง และกรณีที่อ้างว่าตนพูดว่าคุณหญิงพจมานไปพบกับ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ จะทำให้ทุกอย่างเรียบร้อย เพราะ พล.อ.เปรมเป็นผู้ใหญ่ที่ คมช.เคารพนับถือ และสั่งการอะไรได้นั้น เรื่องนี้ก็ไม่เคยพูด แต่ก็เขียนให้ร้ายมากมาย ถ้าตนไม่ชี้แจงจะทำให้เกิดความเสียหายกับผู้ใหญ่หลายท่านในบ้านเมือง

ด่าแหลกคนให้ร้ายไล่ไปนุ่งผ้าถุง


นายสมศักดิ์กล่าวว่า ส่วนตัวไม่เคยพูด ไม่เคยได้ พบปะแหล่งข่าวใดๆทั้งสิ้น แหล่งข่าวตรงนั้นถ้าไม่เอาเรื่องจริงมาพูด ก็ไปเอาผ้าถุงมานุ่งดีกว่า เพราะว่าเป็นการสาด โคลน ให้ร้ายต่อกัน ข่าวที่ออกมาดูแล้วเขายังไม่รู้เลยด้วย ว่าตนอยู่ข้างไหน แต่เขียนออกมาแบบนี้ก็เสียทั้ง 2 ข้าง เขาคงคิดว่าแพ้ตน ซึ่งก็คิดว่าต้องแพ้จริงๆด้วย ถึงได้ออกมาให้ข่าว เมื่อถามถึงสาเหตุที่มีการปล่อยข่าวโจมตีกลุ่ม วังน้ำยม นายสมศักดิ์ตอบว่า อาจเป็นเพราะว่าในกลุ่มที่ตนคุยกันอยู่มี ส.ส.เป็นจำนวนมาก ถ้าไม่รีบทำลาย หรือดิสเครดิตกันก่อน ก็จะทำให้ความฝันของเขาไม่สัมฤทธิผล ต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อให้ประชาชน หรือคนที่เกี่ยวข้องในข่าวนั้นดูแล้วไม่สบายใจต่อพวกของตน เพราะถ้าปล่อย ให้เดินอย่างนี้ตลอดไปก็อาจจะทำให้กลุ่มอื่นๆเสียโอกาส ขอให้จับจ้องดูว่าในเรื่องของการไปกินข้าวกับผู้ใหญ่ในคมช.นั้น ถ้าไม่ใช่ตนแล้วเป็นใคร

ยันอดีตบิ๊ก ทรท.ไม่เคยพบ วินัย

ส่วนกระแสข่าวที่ระบุว่าได้ไปพบกับ พล.อ.วินัย ภัททิยะกุล เลขาธิการ คมช.เพื่อตั้งพรรคการเมืองใหม่นั้น หัวหน้ากลุ่มวังน้ำยมกล่าวว่า ขอยืนยันว่าไม่เคยได้พบกัน โดยเฉพาะหลังมีการปฏิรูปฯ ไม่เคยพบหรือโทรศัพท์ ถึงกัน การที่ท่านจะไปกินข้าวกับใครนั้น ไม่ทราบแต่ไม่ ใช่ตนแน่นอนร้อยเปอร์เซ็นต์ รวมทั้งนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ นายสุชาติ ตันเจริญ นายสรอรรถ กลิ่นประทุม หรือนายสนธยา คุณปลื้ม ก็มั่นใจ ว่าบุคคลเหล่านี้ไม่เคยพบเช่นกัน ขอให้มองไปที่ท่านอื่น ที่ชอบให้ร้ายป้ายสี

ว้ากไม่ชอบแนวทางสามัคคีธรรม


นายสมศักดิ์กล่าวว่า สำหรับการตั้งพรรคการเมืองใหม่นั้น จะไม่ใช้ชื่อพรรคเสรีไทยแน่นอน คำว่าเสรีไทยนั้นเป็นการพูดและอุปโลกน์ขึ้นมาโดยใครไม่รู้ และแนวทาง แบบพรรคสามัคคีธรรมในอดีตก็ไม่เป็น การดำเนินการทางการเมืองของตนนั้น ตั้งใจว่าจะเดินในลักษณะของความ สมานฉันท์ เป็นสายกลาง โดยนิสัย บุคลิกปกติของตนไม่ ชอบทะเลาะกับใคร ใครดีก็คบหาด้วย แต่ถ้าดูแล้วใครไม่ใช่ ผู้ดี หรือไม่ใช่คนที่มีเจตนาดีต่อประเทศชาติ ก็จะเลี่ยง โดยจะไม่คบหาสมาคมด้วย ไม่ใช่คนอ่อนแอ แต่มีจุดยืนของตัวเองคือ เป็นคนที่นอบน้อมถ่อมตน สำหรับทิศทางของกลุ่มวังน้ำยมหลังจากนี้ ต้องรอให้สถานการณ์การเมืองมีความชัดเจนก่อน ขณะนี้ยังเคลื่อนไหวอะไรไม่ได้ ต้องรอรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ส่วนกรณีที่นายสมคิดจะเข้ามารับเป็นหัวหน้าพรรคให้ก็ยังไม่ใช่ ผู้สื่อข่าวถามว่า มีแนวโน้ม ว่าจะตั้งพรรคใหม่ หรือเข้าร่วมกับพรรคการเมืองอื่น นาย สมศักดิ์ตอบว่า เป็นไปได้ทั้ง 2 อย่าง เรายังไม่ปิดโอกาส ที่ผ่านมาก็มีการคุยกับอดีต ส.ส.จำนวนมาก ต้องดูว่าใคร ที่มาอยู่ด้วยกันแล้วจะไม่เป็นปัญหา ถ้าอะไรที่เป็นปัญหา เราก็จะหลีกเลี่ยง แต่ยืนยันว่าไม่ใช่เสรีไทย และความเกี่ยวข้องของทหารก็ไม่มีแน่นอน

ลั่นเดินสายกลางไม่ขอเป็นนอมินี

ผู้สื่อข่าวถามว่า การตั้งพรรคใหม่จะไม่มีทหาร หรืออดีต คมช.มาเข้าร่วมพรรคใช่หรือไม่ นายสมศักดิ์ ตอบว่า ในขณะนี้ไม่มีการติดต่อทาบทาม หรือพูดคุยกับ ใครทั้งสิ้น และในอนาคตก็ไม่น่าจะมี เมื่อถามถึงแนวโน้มที่จะจับมือกับ พ.ต.ท.ทักษิณอีก มีความเป็นไปได้มากน้อยเพียงใด นายสมศักดิ์ตอบว่า ไม่มีการติดต่อพูดคุยกัน ได้สอบถามกับนายสมคิดแล้ว ก็ไม่ได้ติดต่อพูดคุย เมื่อถามว่า หากในอนาคต พล.อ.วินัยจะเข้ามาร่วมงานการเมือง ด้วยจะเป็นได้หรือไม่ นายสมศักดิ์ตอบว่า เชื่อว่าไม่เป็นอย่างนั้น เพราะส่วนตัวไม่เคยคุยและไม่เคยทานข้าวด้วยกันเลย การเมืองเป็นเรื่องของอนาคต แต่จะเลือกเดินสายกลาง ทำงานอย่างตรงไปตรงมา ไม่แอบแฝง เพราะตนไม่ใช่ คมช. ไม่ใช่ทักษิณ ไม่ใช่พันธมิตรฯ และไม่ใช่ตัวแทนของใคร ทั้งนั้น แต่ไม่ปิดโอกาสใคร เป็นมิตรกับทุกคน ยังเคยคิด จะตั้งชื่อพรรคการเมืองใหม่ว่า พรรคมัชฌิมาด้วยซ้ำ

ระบุแตะมือ 4 ส.กันอย่างลึกซึ้ง


นายสมศักดิ์กล่าวอีกว่า ส่วนที่มีกระแสข่าวว่ามีการจับมือกันกับนายสนธยา คุณปลื้ม หัวหน้ากลุ่มชลบุรีและนายสรอรรถ กลิ่นประทุม เพื่อตั้งพรรคการเมืองใหม่ นั้น จริงๆเราแตะมือกันไว้ มีอะไรก็พูดคุยกัน ปรึกษากันโดยตลอด ส่งข้อมูลถึงกัน แต่ไม่ได้หมายความว่าจะต้องอยู่ด้วยกัน แต่เป็นการแตะมือกันอย่างลึกซึ้ง ไม่รู้จะอธิบายอย่างไรให้เห็นภาพ เรื่องการเมืองอยู่ที่วินาทีสุดท้าย เมื่อถามว่า กลุ่มที่แตะมือกันไว้มีใครบ้าง นายสมศักดิ์ตอบว่า ที่เป็นข่าวก็คงตรง ในส่วนของต่างจังหวัดมีนายสนธยา นายสรอรรถ นายสมชาย สุนทรวัฒน์ นายสุชาติ ตันเจริญ ส่วนกลุ่มใน กทม.ก็จะมีการพูดคุยกันอีกครั้ง ส่วนกรอบเวลาที่ชัดเจนในการตั้งพรรคการเมืองใหม่นั้น ต้องรอความชัดเจนก่อน ประชาชนยังบอกให้ใจ เย็นๆก่อน เขารู้ว่าสถานการณ์เป็นอย่างไร เขายังกลัวว่าตนจะใจร้อนไปด้วยซ้ำ การตั้งพรรคใหม่ก็คงจะต้องรอให้มีการยกเลิกกฎอัยการศึกก่อน

วังน้ำยมรับกติกาไม่มีคลื่นใต้น้ำ

นายสมศักดิ์กล่าวถึงความกังวลของฝ่าย คมช. เกี่ยวกับกรณีคลื่นใต้น้ำว่า พื้นที่ประเทศไทยนั้นกว้างจะตอบว่ามีหรือไม่มีนั้นตอบไม่ได้ ในส่วนอดีต ส.ส.พรรคไทยรักไทยก็มีตั้ง 370 กว่าคน แต่ในวังน้ำยมด้วยกัน หรือกลุ่มคนที่ตนคุยอยู่ไม่มีเรื่องคลื่นใต้น้ำแน่นอน ทุกคนยอมรับว่าเมื่อกติกาเป็นอย่างนี้แล้วก็ต้องคิดว่าจะทำ อย่างไรเพื่อให้เราเดินต่อไปได้ อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวก็ไม่อึดอัดกับเรื่องนี้ คนที่น่าอึดอัดคือ คมช. เรื่องกฎอัยการศึกนั้น ทุกคนที่อยู่ในระบอบประชาธิปไตยก็อึดอัดด้วยกันทั้งนั้น แต่เราจะทำอย่างไรให้สามารถดำเนินการทางการเมืองโดยให้เงื่อนไขเหล่านั้นเป็นภาระกับเราให้น้อยที่สุด


แหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์