แฉทักษิณสุดแสบ!! ทิ้งทวนเก้าอี้นายก ละลายภาษีประชาชนกับอาหารมื้อละ 1.6 ล้าน

เก็บตกเสวนาการเมืองไทยที่ต่างแดน เจิมศักดิ์ แฉ ทักษิณ ทิ้งทวนเก้าอี้นายกฯ


ด้วยการละลายภาษีประชาชนกับอาหารมื้อละ 1.6 ล้าน สุดแสบสั่งเจ้าหน้าที่สนามบิน จอห์น เอฟ. เคนเนดี้ ปูพรมแดงต้อนรับก่อนถูกยึดอำนาจ ขณะที่อดีตแกนนำพันธมิตรฯ ประกาศเตรียมเคลื่อนไหวจี้ คมช.-อัยการสูงสุด-ผบ.ตร. หลังแอบยกฟ้องคดีพันธมิตรฯ ฟ้องทักษิณหมิ่นเบื้องสูง ลั่นต้องชี้แจงข้อเท็จจริงให้ประชาชนรับทราบ

รายการรู้ทันประเทศ ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม เอเอสทีวี คืนวันที่ 30 ตุลาคมที่ผ่านมา


ดร.เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง ได้สนทนากับ นายไกรศักดิ์ ชุณหะวัณ อดีต ส.ว.นครราชสีมา นายพิภพ ธงไชย คณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย และนายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ อดีตแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย

ถึงประเด็นการเดินทางไปร่วมเสวนาการเมืองไทย ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา

โดยดร.เจิมศักดิ์ กล่าวเปิดประเด็นไว้อย่างน่าสนใจว่า


พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยในสหรัฐได้หยิบยกเรื่องการปฏิวัติรัฐประหารขึ้นมาพูดด้วยความเป็นห่วง และไม่เห็นด้วยกับการยึดอำนาจในครั้งนี้ เพียงแต่เกิดความรู้สึกโล่งอกโล่งใจที่ระบอบทักษิณถูกทำลาย

อย่างไรก็ตามในความโล่งอกโล่งใจมันก็มีความเป็นห่วงตามมา ไม่ว่าจะเป็นอนาคตของประเทศ ที่ไม่รู้ว่าต่อไปจะเป็นอย่างไร

ผู้ดำเนินรายการท่านนี้ยังกล่าวด้วยว่า


เมื่อสัปดาห์ที่แล้วพันธมิตรฯในต่างแดนมีความเป็นห่วงว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยา จะกลับเข้ามาในประเทศไทยหรือไม่ เนื่องจากกลัวว่า ถ้าพ.ต.ท.ทักษิณ กลับเข้ามาจะมีเหตุเหมือนกับเหตุการณ์ที่ จอมพลถนอม กิตติขจร กลับมาประเทศไทยแล้วเกิดเหตุการณ์นองเลือด 6 ต.ค.16 ขึ้น

หรือจะเหมือนกับช่วงที่คณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ (รสช.)

ยึดอำนาจ พล.อ.สุจินดา คราประยูร พยายามตั้งพรรคการเมืองขึ้นมาเพื่อสืบทอดอำนาจ บ้านเมืองในเวลานี้กำลังเดินเข้าใกล้กับเหตุการณ์ในอดีต

ขณะเดียวคนไทยในต่างแดนยังมีความเป็นห่วงว่า

คณะปฏิรูปจะซูเอี๋ยกับ พ.ต.ท.ทักษิณ หรือไม่ อีกทั้งกลัวว่า ทีมงานที่ตั้งขึ้นมาตรวจสอบการทุจริตในรัฐบาลทักษิณจะล้มเหลวทั้งหมด ซึ่งเป็นจุดที่คนไทยในต่างแดนเป็นห่วงเป็นอย่างมาก

ดร.เจิมศักดิ์ กล่าวอีกว่า ก่อนที่จะเดินทางกลับประเทศไทย ต้องเดินทางไปรอเครื่องบินที่สนามบิน จอห์น เอฟ. เคนเนดี้ (John F. Kennedy)


บังเอิญไปถึงก่อนเวลา จึงมีโอกาสได้พูดคุยกับเจ้าหน้าที่ของสนามบิน และก็ต้องตกใจกับคำตอบที่ได้ เนื่องจากวันที่ พ.ต.ท.ทักษิณ เดินทางมาถึงสนามบิน จอห์น เอฟ. เคนเนดี้ มีการสั่งให้เจ้าหน้าที่สนามบินปูพรมแดงเพื่อต้อนรับ นอกจากนี้ในวันที่จะออกจากนิวยอร์ก ซึ่งเป็นวันที่เกิดการรัฐประหารขึ้นในประเทศไทย

คณะของ พ.ต.ท.ทักษิณ มีการเปลี่ยนแปลงเวลาขึ้นเครื่องถึง 5 ครั้ง

ทำให้การเตรียมอาหารฉุกระหุกไปหมด แต่ที่ร้ายไปกว่านั้นอาหารมื้อที่เตรียมไว้ให้คณะเจ้าหน้าที่กว่า 30 คน เป็นอาหารพิเศษ ไม่ว่าจะเป็นเป๋าฮื้อสดที่มีราคาแพง ไข่ปลาคาเวีย เนื้อประเภทพิเศษ โดยราคาอาหารมื้อนั้นสนนราคา 4 หมื่นเหรียญสหรัฐ คิดเป็นเงินไทยก็ตกประมาณ 1.6 ล้านบาท ซึ่งทั้งหมดก็เป็นเงินภาษีของประชาชนทั้งนั้น

ด้านนายไกรศักดิ์ กล่าวว่า


คนไทยส่วนใหญ่ที่ย้ายไปอยู่ที่สหรัฐ เนื่องจากทนไม่ได้กับระบอบทักษิณ หลายคนเป็นวิศวกรเป็นหมอ โดยเฉพาะเมื่อพันธมิตรฯ ไปจัดเสวนาที่ชิคาโก ปรากฏว่า มีคนมาฟังราว 300 คน และ 80 เปอร์เซ็นต์ เป็นคนที่ถูกระบอบทักษิณกลั่นแกล้ง จึงต้องหันไปประกอบอาชีพที่สหรัฐ

นอกจากนี้ยังมีคนถามตนถึงคดีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ไปฉ้อโกงนักธุรกิจชาวอเมกัน

โดยเกิดความสงสัยถึงความยุติธรรมในกระบวนการในชั้นศาล อีกทั้งยังมองว่า ประเทศไทยยังไม่มีความยุติธรรม คนไทยในสหรัฐจึงเกิดความรู้สึกอึดอัดที่ไม่เห็นคณะรัฐประหารดำเนินการอะไรกับ พ.ต.ท.ทักษิณ เลย

ขณะที่นายพิภพ กล่าวว่า


การที่พันธมิตรฯเดินทางไปต่างประเทศ ได้เห็นกระบวนการของคนที่สนับสนุน พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งเราเชื่อว่ามีการสนับสนุนเงินทุนไปจากประเทศไทย เนื่องจากลำพังคนไทยจะไปพิมพ์เอกสารในแจกจ่ายในต่างประเทศเป็นจำนวนมาก

คงไม่มีคนไทยคนไหน สามารถควักเงินตัวเองเพื่อดำเนินการได้ นอกจากนี้ยังรู้อีกว่า ข้อความที่ระบุในเอกสารนั้นถูกส่งไปจากประเทศไทย

อย่างไรก็ตามตนเชื่อว่าระบอบทักษิณ

ยังทำงานเพื่อป้องกันตัวระบอบและตัว พ.ต.ท.ทักษิณ โดยมีการเคลื่อนไหวอย่างเป็นระบบ เมื่อเคลื่อนไหวในประเทศไม่ได้ ก็ไปเคลื่อนไหวในต่างประเทศ ซึ่งจะมีผลกระทบต่อคณะรัฐประหารอย่างแน่นอน

อดีตแกนนำพันธมิตรฯ ท่านนี้


ยังตั้งข้อสังเกตถึงคดีหมิ่นพระพระบรมเดชานุภาพ โดยล่าสุดอัยการสูงสุดได้ยกฟ้องคดีที่พันธมิตรฯ ดำเนินการฟ้องร้อง พ.ต.ท.ทักษิณ ไปแล้วว่า ก่อนวันที่ 19 ก.ย.49 ระบอบทักษิณ และ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ร่วมมือกับตำรวจและอัยการได้สั่งไม่ฟ้องเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยที่เราไม่รู้เรื่องเลย

เพราะฉะนั้นเรื่องนี้ พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และอัยการสูงสุด จะต้องชี้แจงให้ชัดเจน อีกทั้งคณะรัฐประหารจะต้องเข้าไปตรวจสอบเพื่อให้เกิดความถูกต้องในสังคมด้วย

นายสมเกียรติ กล่าวในเรื่องเดียวกันว่า


คลื่นใต้น้ำไม่เพียงแต่เกิดขึ้นในประเทศไทย ในสหรัฐก็ถูกแบ่งแยก โดยเฉพาะคลื่นที่ทรงพลังที่สุด คือ คลื่นของสถานีโทรทัศน์ ไอพีทีวี ซึ่งจะมีขาประจำที่จะด่าคณะรัฐประหารกับกลุ่มพันธมิตรฯ

นอกจากนี้ยังมีการออกเอกสารพิเศษถึง 9 ฉบับ

พิมพ์ออกมาหลานแสนเล่ม โดยมีรัฐมนตรีในรัฐบาลทักษิณ 2 คนเข้าไปพบกับกลุ่มที่จัดทำหนังสือฉบับนี้มาโดยตลอด

อดีตแกนนำพันธมิตรฯ กล่าวว่า


เราจะเห็นว่าพลังในต่างประเทศ เป็นพลังที่บันทอนกำลังของคณะรัฐประหาร ขณะเดียวกันคณะรัฐประหารต้องคลี่คลายความสงสัยของประชาชนทั้งในและนอกประเทศถึงการคอรัปชั่นของรัฐบาลชุดก่อน ต้องรีบทำให้เป็นรูปธรรมออกมา โดยเฉพาะคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพที่พันธมิตรฯ แจ้งความอดีตนายกรัฐมนตรีถึง 5 คดี แต่อัยการสูงสุดกลับมีคำสั่งไม่ฟ้อง เก็บเรื่องเงียบไว้

แต่ในขณะเดียวกันเลือกที่จะฟ้องนายสนธิ ลิ้มทองกุล คดีเดียว

ดังนั้นเพื่อให้ทุกอย่างเกิดความชัดเจน ตนจะเข้าไปศึกษาประเด็นนี้อย่างจริงจัง พร้อมทั้งเตรียมการเคลื่อนไหวเพื่อเรียกร้องความถูกต้องต่อไป




สนับสนุนข้อมูลข่าวโดย: ผู้จัดการออนไลน์

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์