นายกฯยอมรับเตรียมปรับครม.หลังศึกซักฟอก ชี้ "ทักษิณ" สร้างความวุ่นวาย หวังผลให้ต่างชาติเข้ามาแทรกแซงไทย ลั่นไม่ปรองดองกับขบวนการก่อการร้าย
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการปรับคณะรัฐมนตรี
ยังไม่ได้พูดคุยกับนายกอร์ศักดิ์ สภาวะสุ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ที่ก่อนหน้านี้ออกมาระบุในทวิตเตอร์เกี่ยวกับการปรับ คณะรัฐมนตรี โดยนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ต้องรอให้การอภิปรายไม่ไว้วางใจผ่านไปก่อน ซึ่งการอภิปรายไม่ไว้วางใจนั้นขอให้เป็นไปอย่างสร้างสรรค์และเกิดประโยชน์
ในขณะนี้ยังไม่ทราบว่าฝ่ายค้านจะวางตัวใครเป็นผู้อภิปรายบ้างรวมถึงนายจตุพร พรหมพันธ์ ส.ส.สัดส่วนและแกนนำ นปช.
โดยให้เหตุผลว่าเป็นผู้อยู่ในเหตุการณ์จริง ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับว่านายจตุพรจะพูดความจริงหรือไม่ ซึ่งอยากให้ประชาชนทุกกลุ่มเปิดใจกว้าง รับฟังทุกฝ่าย เพราะไม่มีใครหนีความจริงพ้น แม้จะนำเสนอข่าวสารต่างกัน ส่วนกรณี 6 ศพในวัดปทุมวนารามที่ฝ่ายค้านจะนำมาโจมตีรัฐบาลนั้น เชื่อว่าข้อเท็จจริงจะปรากฏภายหลังจากสถาบันนิติเวชได้ทำการพิสูจน์แล้ว
สำหรับกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะนำเรื่องละเมิดสิทธิมนุษยชนฟ้องศาลโลกนั้น
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เป็นยุทธศาสตร์ที่มีมาตั้งแต่ต้นเพื่อให้เกิดความวุ่นวาย หวังผลให้เกิดการแทรกแซงจากต่างประเทศ อย่างไรก็ตาม ในส่วนของ พ.ต.ท.ทักษิณเอง ก็ยังคงมีคดีการละเมิดสิทธิ กรณีการฆ่าตัดตอนอยู่ด้วย ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาของกระทรวงยุติธรรม ส่วนมติวุฒิสภาของประเทศสหรัฐอเมริกา มีมติสนับสนุนแผนปรองดองของรัฐบาล ก็จะเป็นประโยชน์ต่อการชี้แจงกับต่างประเทศ โดยเฉพาะในวันเสาร์ที่ 29 พ.ค. จะมีการชี้แจงต่อเอกอัครราชทูตและสื่อต่างประเทศ
สำหรับการยกเลิก พรก.ฉุกเฉิน ก็จะทำให้เจ้าหน้าที่ของรัฐทำงานหนักขึ้นในการดูแลรักษาความสวบเรียบร้อย โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ส่วนความชัดเจนในเรื่องการยุบสภานั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จะต้องใช้ดุลยพินิจ โดยเงื่อนไขสำคัญในการพิจารณาคือความสงบเรียบร้อย และหวังว่าทุกฝ่ายจะหันหน้าเข้าสู่กระบวนการปรองดองอย่างจริงจัง แต่ถ้าหากยังมีการสร้างความเกลียดชังในสังคม ก็คงทำให้การดำเนินการในเรื่องนี้เป็นไปได้ยากขึ้น นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวอีกว่า รัฐบาลจะไม่ปรองดองกับขบวนการก่อการร้าย แต่จะดำเนินการกฏหมายอย่างเด็ดขาด