ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 16.30 น.วันที่ 7 พ.ค. ตัวแทนกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.)
ได้แก่ นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ และนายพิภพ ธงไชย เดินทางเข้าหารือนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ที่ห้องทำงานนายกรัฐมนตรี ชั้น 2 อาคารรัฐสภา 1 รัฐสภา ซึ่งภายหลังการหารือกันกว่า 2 ชั่วโมง นายปานเทพให้สัมภาษณ์ว่า ภาพรวมได้ชี้แจงจุดยืนของพันธมิตรที่ไม่เห็นด้วยกับการยุบสภาในกรณีที่จะผูกกับเรื่องการปฏิรูปประเทศ
"นอกจากนี้ได้นำข้อความที่นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรฝากมาถึงนายกฯหลายเรื่องบอกกับนายกฯ ได้แก่ 1.นายสนธิห่วงเรื่องความปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สินประชาชน โดยเห็นว่าการประกาศยุบสภาล่วงหน้าเช่นนี้จะทำให้ปัญหาเรื่องการก่อการร้าย การติดอาวุธ อันธพาลที่คุกคามประชาชน จะเกิดการเคลื่อนไหวต่อเนื่องและจะอันตรายต่อประชาชนอย่างร้ายแรงในอนาคต 2.ตำรวจไม่ทำหน้าที่ เพราะโอนให้นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯดูแล และยังติดขัดเรื่องกระบวนการคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ทำให้ข้าราชการตำรวจจำนวนมากละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ หากประกาศยุบสภาล่วงหน้าจะทำให้ข้าราชการใส่เกียร์ว่าง ซึ่งอันตรายอย่างยิ่ง" นายปานเทพกล่าว
นายปานเทพกล่าวว่า 3.นายสนธิฝากเรื่องการปฏิรูปการเมืองว่าเป็นเรื่องใหญ่มาก ทั้งการทุจริตคอร์รัปชั่น ทุจริตเลือกตั้ง ความยากจน ความเหลื่อมล้ำทางสังคมที่ต้องใช้เวลาเป็นปีไม่ใช่ 4 เดือนครึ่งถึงจะแก้วิกฤตได้ นอกจากนี้นายสนธิยังห่วงการใช้สื่อรัฐให้ประชาชนศรัทธาด้วยการนำเสนอข้อเท็จจริงมากที่สุดให้ประชาชนทุกกลุ่มติดตามชมได้
"สิ่งที่นายกฯอธิบาย ทั้งสิ่งที่พันธมิตรเป็นห่วงก็ดี นายกฯระบุว่าเมื่อถึงเวลาถ้าไม่มีความสงบเกิดขึ้น ประเทศชาติอยู่ในภาวะที่ไม่ปลอดภัย ประชาชนไม่ได้รับความปลอดภัยก็จะไม่ยุบสภา นายกฯพูดว่าถ้าไม่เกิดความปรองดองและความสงบจริง การยุบสภาย่อมเกิดขึ้นไม่ได้ นี่เป็นสิ่งที่นายกฯได้คุยกับเราวันนี้" นายปานเทพกล่าว และว่า นายกฯยังยืนยันว่าจะไม่แก้รัฐธรรมนูญในเรื่องประโยชน์ตัวเอง โดยเฉพาะมาตรา 237 เรื่องยุบพรรคประชาธิปัตย์เด็ดขาด
นานปานเทพกล่าวว่า สรุปคือ พันธมิตรกับนายกฯยังเห็นต่างกันในภาพรวมวิธีการยุบสภา พันธมิตรเห็นว่าการยุบสภาในระยะเวลา 4 เดือนครึ่งจากนี้ จะทำให้ปัญหาบานปลายในอนาคต จุดยืนของพันธมิตรต้องให้นายกฯทบทวน