ศอฉ.ตั้งกองกำลังผสม เพื่อสกัดแดงจากตจว.
พ.อ.สรรเสริญ กล่าวด้วยว่า จากกรณีการปฏิบัติการเพื่อขอคืนพื้นที่บริเวณเชิงสะพานผ่านฟ้าเมื่อวันที่ 10 เมษายน ซึ่งทำให้เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ และผู้ชุมนุมได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก จากการปะทะกันและถูกลอบทำร้ายโดยกลุ่มก่อการร้ายนั้น ถือเป็นเครื่องยืนยันว่า พื้นที่การชุมนุมเป็นพื้นที่ไม่ปลอดภัย ศอฉ.จึงต้องเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัย ด้วยการให้กองกำลังผสมไปตั้งจุดตรวจและจุด จุดสกัดทั้งในกรุงเทพฯ และปริมณฑลอย่างน้อย 2 ชั้น เพื่อไม่ให้ประชาชนในส่วนภูมิภาคเดินทางเข้ามาในพื้นที่ไม่ปลอดภัย
พ.อ.สรรเสริญ กล่าวว่า หากใครฝ่าฝืน เจ้าหน้าที่จะออกใบแจ้งเตือนลักษณะคล้ายใบสั่ง เพื่อให้มารายงานตัวที่สถานีตำรวจ แต่ถ้ายังพยายามฝ่าฝืนเข้ามาในพื้นที่การชุมนุมอีก เจ้าหน้าที่ก็จำเป็นต้องผลักดันตามกฎการใช้กำลัง 7 ประการ โดยเริ่มจากเบาไปหาหนัก
"เราจะไม่ให้ผู้ชุมนุมทำร้ายเจ้าหน้าที่รัฐ ยึดยานพาหนะ หรืออาวุธยุทโธปกรณ์ใดๆ อีก หากมีความพยายามทำร้ายเจ้าหน้าที่ เจ้าหน้าที่ก็จำเป็นต้องใช้อาวุธเพื่อปกป้องชีวิต" พ.อ.สรรเสริญ กล่าวและว่า หากบุคคลที่ได้รับใบแจ้งเตือนไม่ยอมเข้ารายงานตัวที่สถานีตำรวจ จะทำให้ไม่สามารถต่อทะเบียนภาษีรถยนต์ประจำปีได้
ศอฉ.ส่ง จนท.เฝ้า"ตึกสูง"รอบย่านราชประสงค์
พ.อ.สรรเสริญ กล่าวว่า ศอฉ.จะจัดส่งชุดควบคุมเฝ้าระวังพร้อมอาวุธไปควบคุมตามอาคารสูงต่างๆ บริเวณพื้นที่ชุมนุมตั้งแต่วันที่ 18 เมษายนเป็นต้นไป เพื่อป้องกันผู้ไม่หวังดีไปสร้างสถานการณ์ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารที่ไปปฏิบัติการจะสวมเครื่องแบบชัดเจน มีบัตรประจำตัว ซึ่งขณะนี้ได้ประสานงานกับเจ้าของอาคารบริเวณดังกล่าวแล้ว ขณะเดียวกันเจ้าของอาคารทั้งหลาย ต้องไม่ปล่อยให้กลุ่มไม่หวังดีไปพักพิง หรือใช้สถานที่เพื่อสร้างสถานการณ์ ไม่เช่นนั้นจะถือว่ามีความผิดฐานสนับสนุนกลุ่มการก่อการร้าย ธุรกิจจะมีปัญหา
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากการ์ดกลุ่มคนเสื้อแดงไม่ยอมให้เจ้าหน้าที่ขึ้นไปปฏิบัติการตามอาคารสูงจะทำอย่างไร พ.อ.สรรเสริญ กล่าวว่า ไม่ได้ อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด จะทำทุกวิถีทางให้ขึ้นไปได้ และถ้าการ์ดเสื้อแดงจะขอขึ้นไปบนยอดอาคารด้วย ก็ต้องจับ เพราะไม่ใช่เจ้าหน้าที่
เมื่อถามว่า เป็นห่วงหรือไม่ว่ากลุ่มก่อการร้าย อาจแฝงตัวไปสร้างสถานการณ์ แล้วใส่ร้ายว่าเป็นฝีมือของเจ้าหน้าที่ชุดควบคุมอาคารสูง พ.อ.สรรเสริญกล่าวว่า ต้องดูพื้นฐานการเข้าไปปฏิบัติการเพื่อดูแลความปลอดภัย และเจ้าหน้าที่ทุกนายก็มีหลักฐานแสดงตัวที่ชัดเจน
"สรรเสริญ"ยัน ศอฉ.ยังไม่คิดประกาศใช้กฎอัยการศึก
พ.อ.สรรเสริญ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มีความจำเป็นต้องประกาศใช้กฎอัยการศึก เพราะคิดว่า พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินมีความเพียงพอแล้ว เพียงแต่ต้องลงไปดูรายละเอียดการปฏิบัติ และเจ้าหน้าที่ทุกคนต้องมีความกล้าหาญในการปฏิบัติและบังคับใช้กฎหมาย ทำอย่างตรงไปมาทุกขั้นตอน ต้องทำให้เห็นว่า เราพยายามอย่างถึงที่สุดแล้วที่จะใช้มาตรการจากเบาไปหาหนัก แต่ถ้ามีความจำเป็นต้องใช้อาวุธ ก็ต้องใช้ อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด และจนขณะนี้ไม่มีความจำเป็นต้องขยายการประกาศพ.ร.ก. ฉุกเฉินไปยังพื้นที่อื่นๆ
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากเกิดเหตุปะทะกันขึ้นใครจะเป็นผู้รับผิดชอบ ระหว่างนายสุเทพ กับพล.อ. อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. พ.อ. สรรเสริญ กล่าวว่า
ต้องรับผิดชอบร่วมกัน วันนี้ต้องถามว่าการที่กลุ่มเสื้อแดงปล่อยให้ผู้ก่อการร้ายเข้าไปแฝงตัวอยู่ในกลุ่มผู้ชุมนุมจะรับผิดชอบอย่างไร อย่าเอาแต่ถามว่าเจ้าหน้าที่จะรับผิดชอบอย่างไร คนเป็นเจ้าหน้าที่เกิดมาก็มีเคราะห์แล้ว ส่วนคนที่สร้างความเสียหายไม่ต้องรับผิดชอบเลยหรือ