หลังจากแกนนำรัฐบาลและแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) หรือกลุ่มคนเสื้อแดง ร่วม "เรียลลิตี้ โชว์"
เวทีการเจรจาวันนั้นเปรียบเหมือนเทียบคู่มวยเสียมากกว่า
การเจรจาครั้งแรกนายกฯ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ย้ำชัด ไม่เชื่อว่า "การยุบสภา" จะเป็นทางออกของการแก้ปัญหา พร้อมกับบอกว่า ประชาชนบางส่วนก็ไม่เห็นด้วย
วันต่อมา "เรียลลิตี้ โชว์" ก็เกิดขึ้นอีกครั้ง มาครั้งนี้นายกฯ อภิสิทธิ์ ยืนกรานไม่รับข้อเสนอกลุ่มคนเสื้อแดง ที่จะยุบสภาภายใน 15 วัน ก่อนจบลงด้วยการขอเวลาให้รัฐบาล 9 เดือน เพื่อกระทำการในสองประเด็น
นั่นคือ ทำประชามติแก้ไขรัฐธรรมนูญ กับขอเวลาจัดทำงบประมาณปี 2554 ตรงนี้นายกฯ ให้เหตุและผลที่ฟังขึ้น โดยบอกว่า เราอยู่ในภาวะวิกฤติเศรษฐกิจโลก ที่มีผลกระทบ การฟื้นตัวหลายประเทศยังไม่แข็งแรง ต้องมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ หากปฏิทินงบประมาณชะงักจะมีปัญหา
ต้องบอกว่า เห็นด้วยอย่างยิ่งกับการลงเอย ที่รัฐบาลและกลุ่มคนเสื้อแดง มานั่งเจรจาหาทางออกให้กับประเทศ ลดทิฐิ ความขัดแย้งลง เพื่อหาทางออกให้ประเทศเดินหน้าได้ เชื่อว่าคนไทยทั้งประเทศชื่นชอบแน่ๆ ถ้าจำกันได้ วันแรกของการเจรจา 28 มี.ค.ที่ผ่านมา ทุกคนใจจด ใจจ่อ อยู่กับจอทีวี เพื่อชมการเจรจาของสองฝ่าย ลุ้นตัวโก่ง ภาวนาให้มีทางออก แต่เหตุไฉนการเจรจาวันที่สอง 29 มี.ค. นายกฯ อภิสิทธิ์ ถึงไปหยิบเงื่อนไขขอเวลาทำประชามติแก้ไขรัฐธรรมนูญขึ้นมาเป็นประเด็น เจรจาต่อรองเพื่อยืดอายุรัฐบาล