ผ่าทางตัน...win-win ยุบสภา! กันยาฯ 53

หลังจากแกนนำรัฐบาลและแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) หรือกลุ่มคนเสื้อแดง ร่วม "เรียลลิตี้ โชว์"

เวทีการเจรจาวันนั้นเปรียบเหมือนเทียบคู่มวยเสียมากกว่า


การเจรจาครั้งแรกนายกฯ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ย้ำชัด ไม่เชื่อว่า "การ
ยุบสภา" จะเป็นทางออกของการแก้ปัญหา พร้อมกับบอกว่า ประชาชนบางส่วนก็ไม่เห็นด้วย

วันต่อมา "เรียลลิตี้ โชว์" ก็เกิดขึ้นอีกครั้ง มาครั้งนี้นายกฯ อภิสิทธิ์ ยืนกรานไม่รับข้อเสนอกลุ่มคนเสื้อแดง ที่จะยุบสภาภายใน 15 วัน ก่อนจบลงด้วยการขอเวลาให้รัฐบาล 9 เดือน เพื่อกระทำการในสองประเด็น


นั่นคือ ทำประชามติแก้ไขรัฐธรรมนูญ กับขอเวลาจัดทำงบประมาณปี 2554 ตรงนี้นายกฯ ให้เหตุและผลที่ฟังขึ้น โดยบอกว่า เราอยู่ในภาวะวิกฤติเศรษฐกิจโลก ที่มีผลกระทบ การฟื้นตัวหลายประเทศยังไม่แข็งแรง ต้องมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ หากปฏิทินงบประมาณชะงักจะมีปัญหา 


ต้องบอกว่า เห็นด้วยอย่างยิ่งกับการลงเอย ที่รัฐบาลและกลุ่มคนเสื้อแดง มานั่งเจรจาหาทางออกให้กับประเทศ ลดทิฐิ ความขัดแย้งลง เพื่อหาทางออกให้ประเทศเดินหน้าได้ เชื่อว่าคนไทยทั้งประเทศชื่นชอบแน่ๆ ถ้าจำกันได้ วันแรกของการเจรจา 28 มี.ค.ที่ผ่านมา ทุกคนใจจด ใจจ่อ อยู่กับจอทีวี เพื่อชมการเจรจาของสองฝ่าย ลุ้นตัวโก่ง ภาวนาให้มีทางออก แต่เหตุไฉนการเจรจาวันที่สอง 29 มี.ค. นายกฯ อภิสิทธิ์ ถึงไปหยิบเงื่อนไขขอเวลาทำประชามติแก้ไขรัฐธรรมนูญขึ้นมาเป็นประเด็น เจรจาต่อรองเพื่อยืดอายุรัฐบาล 


วันนั้นฟังอยู่จนสิ้นสุดการเจรจา แต่อดคิดไม่ได้ว่า พอพูดเรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญ ทำให้ต้องย้อนกลับไปคิดถึงเหตุการณ์ เมื่อ 26 ม.ค. 2553 ที่มีการประชุมกรรมการบริหารพรรค

วันนั้นเวลา 17.20 น. นายกฯ อภิสิทธิ์ ให้สัมภาษณ์ทันที ว่า ที่ประชุม ส.ส.พรรคมีมติเสียงส่วนใหญ่ 82:48 เสียง ไม่เห็นด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และเห็นควรไม่สนับสนุนการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญเรื่องเขตเลือกตั้ง นี่คือ จุดยืนของพรรคประชาธิปัตย์


มาวันนี้ จึงไม่แน่ใจว่าทำไมประชาธิปัตย์ถึงมากลับลำ สวนมติพรรคอย่างง่ายดาย ยอมที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญ แลกกับความอยู่รอดของรัฐบาลอย่างนั้นหรือ

ทั้งที่ก่อนหน้านี้ 5 พรรคร่วมรัฐบาล เดินสายล็อบบี้กันเกือบทุกอาทิตย์ เพื่อขอแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่ถูกปฏิเสธโดยสิ้นเชิงจากประชาธิปัตย์ แล้ววันนี้ จุดยืนของประชาธิปัตย์อยู่ตรงไหน


แม้มติต่อลมหายใจรัฐบาล 9 เดือน อาจจะเข้าล็อกพรรคการเมืองบางพรรคก็จริง แต่สถานการณ์อย่างนี้ มิอาจไว้วางใจได้


จริงๆ แล้ว เรื่องนี้ถ้าจะทำ ก็ควรทำมาเมื่อ 1 ปีที่ผ่านมาแล้ว ไม่ใช่เพิ่งมาคิดว่าต้อง "รักกัน" ท่ามกลางความขัดแย้งทางการเมือง เพื่อขอเวลาบริหารบ้านเมืองอีก 9 เดือน

งานนี้เชื่อขนมยายกินได้...เกมต่อลมหายใจบริหารประเทศรอบนี้ ยังไงก็แก้รัฐธรรมนูญไม่สำเร็จ...พรรคร่วม "โปรดฟังอีกครั้ง"...คุณอาจถูกหลอกอีกเช่นเคย

ว่ากันว่า งานนี้....โรดแมพ ยุบสภา 6 ธ.ค. 2553 เลือกตั้งใหม่ 23 ม.ค. ทำเอาพรรคประชาธิปัตย์แตกเป็นสองขั้ว 


อีกขั้วหนึ่งไม่อยากยืดเยื้อ เห็นควรใช้เงื่อนไขขอจัดทำงบประมาณ เงื่อนไขนี้น่าจะใช้เวลา 5 เดือนกว่า ไม่เกินเดือน ก.ย.ก็ยุบสภาได้ แบบ win-win ทั้งสองฝ่าย งบประมาณก็ผ่าน แต่งตั้งโยกย้ายก็จบ


อีกขั้วของประชาธิปัตย์ กลับไปสมคบ "ผู้เฒ่า" ลากเอาเงื่อนไขแก้รัฐธรรมนูญขึ้นมา เป็นข้อต่อรองหวังอยู่ยาว กับประเด็นการ
ยุบสภา


จริงๆ แล้ว การแก้ไขรัฐธรรมนูญ พรรคร่วมเองก็ยังมองไม่เห็นแสงสว่างปลายอุโมงค์อยู่เหมือนกัน


ฉะนั้นวันนี้...โรดแมพ ยุบสภา 6 ธ.ค. 2553 เลือกตั้งใหม่ 23 ม.ค. 2554 ไม่คิดว่า จะเป็นคำตอบสุดท้าย สำหรับรัฐบาลและกลุ่มคนเสื้อแดง แต่ ก.ย. 2553 น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดเวลานี้
 


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์