คมชัดลึก :ผบช.ภ.3 ยันคุมม็อบเสื้อแดงบุกเขายายเที่ยงได้ ลั่นใช้กำลังบุกจับกุมหากนปช.บุกเข้าบ้าน”สุรยุทธ์” และทำผิดกฎหมาย พร้อมใช้แผนกรกฏ 52 ควบคุมตัวผู้กระทำความผิดดำเนินคดี
(10ม.ค.) ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 พล.ต.ท.เดชาวัต รามสมภพผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3
เปิดเผยถึงการเตรียมรับมือกลุ่มนปช.ที่จะเคลื่อนพลเข้าพื้นที่เขายายเที่ยง อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา ในวันที่ 11 ม.ค. ว่า กรณีการชุมนุมที่เขายายเที่ยงนั้น ทางตำรวจภูธรภาค 3 ได้มีการดำเนินการตั้งศูนย์อำนวยการร่วมเพื่อแก้ไขปัญหาการชุมนุมที่เขายายเที่ยง ร่วมกับฝ่ายปกครองของจังหวัดและทหารกองทัพภาคที่ 2 เพื่อประสานงานในเรื่องของการข่าวสืบข่าวเป็นหลัก โดยมีการตั้งศูนย์อำนวยการประสานงานด้วยกันหลายแห่ง ประกอบด้วย ศูนย์ปฏิบัติการหลักแก้ไขปัญหาการชุมนุมเขายายเที่ยง ของตำรวจภูธรภาค 3 อยู่ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 อ.เมือง จ.นครราชสีมา ,กองอำนวยการร่วมแก้ไขปัญหาฯ
ส่วนหน้าที่ สภ.คลองไผ่ อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา และกองอำนวยการแก้ไขปัญหา ที่บริเวณระหว่างรอยต่อพื้นที่บ้านเขายายเที่ยงเหนือ
ใกล้กับสถานีเครื่องส่งช่อง 7 สี หมู่ที่ 6 และบ้านเขายายเที่ยงใต้หมู่ที่ 10 บนยอดเขายายเที่ยงห่างบ้านพักตากอากาศของ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรีประมาณ 400 เมตร นอกจากนี้ทางจังหวัดนครราชสีมา โดยนายประจักษ์ สุวรรณภักดี ผวจ.นครราชสีมา ก็ตั้งกองอำนวยการประสานงานร่วมแก้ไขปัญหาการชุมนุมเขายายเที่ยงที่ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมาเช่นเดียวกัน เพื่อเป็นจุดประสานงานร่วมระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองของจังหวัดนครราชสีมา ซึ่งสถานการณ์ล่าสุดจนถึงขณะนี้ยังไม่มีสิ่งบ่งชี้ว่าจะเกิดเหตุการณ์ความรุนแรงขึ้นในพื้นที่
ส่วนกลุ่มชาวบ้านในพื้นที่ทางตำรวจภูธรภาค 3 ก็ได้ส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจชุมชนสัมพันธ์รวมถึงเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองลงพื้นที่ทำความเข้าใจกับชาวบ้าน
เพื่อไม่ให้เกิดการกระทบกระทั่งกันระหว่างกลุ่มผู้ชุมนุมและคนในพื้นที่มาโดยตลอด ซึ่งผลตอบรับก็เป็นไปด้วยดี พล.ต.ท.เดชาวัต กล่าวว่า หากกลุ่มนปช.ที่จะไปชุมนุมมีการบุกรุกหรือกระทำผิดกฎหมาย เจ้าหน้าที่ตำรวจก็จำเป็นต้องดำเนินการตามมาตรการที่กำหนดไว้ ในแผนกรกฏ 52 ในการจับกุมควบคุมตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีทางกฎหมาย แต่สถานการณ์ ณ ขณะนี้ทางกลุ่ม นปช.เองก็ยังไม่มีข้อบ่งชี้ว่าจะมีการละเมิดกฎหมาย ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการเตรียมการไว้หมดแล้ว ทั้งการเตรียมกำลังการสืบหาข่าว และกรอำนวยความสะดวกต่างๆ ซึ่งจะสามารถรับมือการชุมนุมของกลุ่ม นปช.ได้หรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับสถานการณ์การสืบหาข่าวของ
ผบช.ภ.3ขู่เสื้อแดงบุกบ้าน”สุรยุทธ์”ถูกจับทันที
ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจและการปฏิบัติตนของกลุ่มนปช.เอง ซึ่งเท่าที่ทราบขณะนี้ยังไม่มีสถานการณ์หรือแนวโน้มก่อเหตุรุนแรง
สำหรับในส่วนของการที่มีข่าวลือว่าอาจจะมีการนำกลุ่มคนเสื้อน้ำเงินจาก จ.บุรีรัมย์เข้ามาเป็นมือที่ 3 เพื่อสร้างความรุนแรงให้เกิดขึ้นในพื้นที่นั้น จากการรายงานทางการข่าวยังไม่พบว่ามีการเคลื่อนไหวของกลุ่มดังกล่าว นอกจากนี้ยังรวมไปถึงกลุ่มอื่นๆมีเพียงกลุ่ม ของนปช.เองที่จะขึ้นไปทำกิจกรรมบนเขายายเที่ยงตามที่ได้ประกาศไว้ และกลุ่มของชาวบ้านเขายายเที่ยงเหนือ หมู่ที่ 6 และเขายายเที่ยงใต้หมู่ที่ 10 ซึ่งอยู่ในพื้นที่เองเท่านั้นซึ่งก็ยังไม่มีการแสดงท่าทีต่อต้านหรือรวมตัวเป็นกลุ่มแต่อย่างใด โดยชาวบ้านทุกคนยังใช้ชีวิตตามปกติ เนื่องจากเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนได้ทำความเข้าใจกับกลุ่มชาวบ้านเรียบร้อยแล้ว
ส่วนกรณีที่ พลตรีขัตติยะ สวัสดิผล หรือเสธแดง ออกมาแสดงความเป็นห่วงว่าอาจจะมีการใช้กำลังปิดล้อมกลุ่ม นปช.ขณะอยู่บนเขายายเที่ยงนั้น ยังไม่ได้รับรายงาน และตำรวจภูธรภาค 3 ไม่มีแผนที่จะทำเช่นนั้น
พล.ต.ท.เดชาวัต กล่าวอีกว่า การเตรียมกำลังเพื่อรักษาความสงบในการชุมนุมครั้งนี้นั้น อยู่ในแผนการรักษาความสงบเรียบร้อย ซึ่งก็มีการประสานกำลังกันทั้งในส่วนของเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่และหน่วยอื่นๆที่อยู่ข้างเคียง ฝ่ายปกครองและทหาร รวมทั้งเจ้าหน้าที่ป่าไม้ แต่ว่าการจะใช้กำลังมากน้อยแค่ไหนนั้น ก็ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ ซึ่งกำลังที่ใช้ส่วนใหญ่ก็จะเป็นกำลังเจ้าหน้าที่ในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมาเอง ส่วนกำลังจากจังหวัดใกล้เคียง อย่างเช่น จ.บุรีรัมย์ สุรินทร์ และชัยภูมิ ก็จะเตรียมพร้อมอยู่ในพื้นที่ ยังไม่มีการเกณฑ์กำลังมาประจำจุด เพราะเจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงต้องทำหน้าที่รักษาความสงบและความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ของตนเองเช่นกัน
และการชุมนุมครั้งนี้หากใครก็ตามที่กระทำการละเมิดกฎหมาย ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็จำเป็นต้องปฏิบัติตามหน้าที่อย่างเคร่งครัด
ดังนั้นการชุมนุมครั้งนี้ก็ขอให้ทุกฝ่ายดำเนินกิจกรรมอยู่ภายใต้กฎหมาย ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเองมีหน้าที่ในการรักษาความสงบเรียบร้อย และควบคุมการชุมนุมให้อยู่ในความสงบเรียบร้อยและให้เป็นไปตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ โดยปราศจากอาวุธเน้นความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน สถานที่ราชการ
ดังนั้นหากมีการกระทำผิดละเมิดกฎหมาย เจ้าหน้าที่ตำรวจก็จำเป็นที่จะต้องดำเนินการตามกระบวนการของกฎหมาย
แต่ยืนยันว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะไม่มีการใช้ความรุนแรงกับกลุ่มผู้ชุมนุมอย่างเด็ดขาด โดยในการเตรียมกำลังก็จะไม่มีการติดอาวุธจะมีเพียงโล่กำปังเพื่อป้องกันตัวเท่านั้น สำหรับเส้นทางและพื้นที่ที่กลุ่มผู้ชุมนุมจะสามารถชุมนุมได้นั้นต้องเป็นพื้นที่และเส้นทางสาธารณะเท่านั้น ไม่เป็นการล่วงละเมิดในสิทธิของบุคคลอื่นๆและ ไม่กระทำผิดกฎหมาย การชุมนุมจะต้องปราศจากอาวุธ ซึ่งหากกระทำตามกฏนี้แล้วก็สามารถที่จะดำเนินการในกิจกรรมของตนเองได้ “พล.ต.ท.เดชาวัต กล่าว”