นายกฯ ออกลีลา เมินคำขู่พรรคร่วม รบ.กดดันแก้ รธน. อ้างยังมีเวลาคุยกันหลังปีใหม่ ย้ำเป็นเอกสิทธิ์ เปลี่ยนขั้วการเมือง เชื่อพรรคร่วมอยู่กับความเป็นจริง ปรับแนวคิดแก้ รธน.จาก6เหลือ 2 ประเด็น
ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 28 ธ.ค. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวกรณีแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลกดดันให้แก้ไขรัฐธรรมนูญในมาตรา 190 และแบ่งเขตเลือกตั้งเป็นเขตเดียวเบอร์เดียว หากไม่เร่งดำเนินการ อาจไปจับมือพรรคเพื่อไทยในการแก้ไขรัฐธรรมนูญนำรัฐธรรมนูญ 2540 มาใช้ ว่าได้พบกับนายชุมพล ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ในฐานะหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา เมื่อวันที่ 27 ธ.ค. ได้พูดคุยเรื่องแนวทางก็ไม่เห็นปัญหาอะไร
ผู้สื่อข่าวถามว่า นายชาญชัย ชัยรุ่งเรือง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม หัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดิน ระบุว่าหากเสนอแก้รัฐธรรมนูญเข้าสู่สภาผู้แทนราษฎรแล้วพรรคร่วมรัฐบาลต้องไปในทิศทางเดียวกัน ไม่เช่นนั้นจะเกิดความแตกแยก
นายอภิสิทธิ์ กล่าวปัดว่าไม่ได้เสนอในนามรัฐบาล อีกทั้งเรื่องนี้ยังมีเวลาที่จะพูดคุยกัน เมื่อ
ถามว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญจะเป็นระเบิดเวลาในพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า คิดว่าไม่ แต่คิดว่าที่สุดทุกพรรคที่มาร่วมรัฐบาลต้องการที่จะเห็นบ้านเมืองเดินไปข้างหน้าได้ หากทำอะไรแล้วกระทบทำให้เกิดความขัดแย้งวุ่นวายขึ้นคงไม่เป็นประโยชน์กับใครทั้งสิ้น เราเห็นสภาพมาแล้วเวลาที่เกิดความขัดแย้งทางการเมืองรุนแรงมันไม่ได้มีประโยชน์อะไรกับใคร ไม่ว่าจะอยู่พรรคไหน ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายค้านหรือฝ่ายรัฐบาล ที่สำคัญประชาชนเดือดร้อน
ส่วนการประเมินสถานการณ์ที่อาจไม่ตรงกัน จะพูดคุยกัน แต่โดยหลักทุกคนน่าจะมองตรงกันว่ากรอบเดิมที่ทำในคณะกรรมการสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูปการเมืองและศึกษาการแก้ไขรัฐธรรมนูญ หากฝ่ายค้านไม่เข้าร่วมก็ไม่ได้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ ตนเห็นแยกออกมา 2 ประเด็น เมื่อแยกออกมา 2 ประเด็นบอกว่าเป็นเรื่องของสภาผู้แทนราษฎรส่วนแต่ละพรรคจะมีจุดยืนอย่างไรก็มาพูดคุยกันได้อีก
ต่อข้อถามว่า กรณีพรรคร่วมรัฐบาลมีเจตนารมณ์ทางการเมืองไม่ตรงกันจะอยู่ร่วมรัฐบาลได้นานแค่ไหน
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ก็ตรงกัน เจตนารมณ์คือต้องการที่จะทำงานให้ทุกอย่างเดินไปด้วยความเรียบร้อย แต่อาจจะประเมินสถานการณ์ไม่ตรงกัน ก็มาคุยกัน
เมื่อถามว่า หลังปีใหม่ จะสามารถหาจุดร่วมกันได้หรือไม่
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เป็นไปได้ ตนไม่คิดว่าเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ เพียงแต่ต้องมาแลกเปลี่ยนกัน บังเอิญตนยังไม่มีโอกาสคุยด้วยตัวเอง
เมื่อถามย้ำว่า เหมือนมีการบีบให้พรรคประชาธิปัตย์เห็นด้วยกับการแก้ประเด็นเขตเดียวเบอร์เดียว
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่มีใครบีบใคร ประเด็นนี้เป็นเรื่องเทคนิคของระบบ เพียงแต่ว่าความเห็นมันต่างกันว่าระบบไหนทำให้การเมืองดีกว่าหรือนักการเมืองมีคุณภาพกว่ากัน เมื่อถามว่า พรรคประชาธิปัตย์จะมีท่าทีอ่อนลงได้หรือไม่ หากพรรคร่วมต้องการ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนกล้าพูดได้เลยว่าประเด็นเลือกเขตเดียวเบอร์เดียวความเห็นในพรรคของตัวเอง เกือบทุกพรรคมีความเห็นไม่ตรงกัน เป็นประเด็นที่สามารถแลกเปลี่ยนกันได้อีก
ผู้สื่อข่าวถามว่า ในปี 2553 ระหว่างการแก้รัฐธรรมนูญกับการแก้ปัญหาชาติสิ่งไหนต้องทำก่อนนายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า การแก้รัฐธรรมนูญตนได้บอกไปแล้วว่าเป็นเรื่องของพรรคการเมืองเป็นเรื่องของรัฐสภา รัฐบาลจะเดินหน้าแก้ปัญหาต่างไป
เมื่อถามว่า ห่วงหรือไม่ว่าการแก้รัฐธรรมนูญจะนำไปสู่การเปลี่ยนขั้วทางการเมือง
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า "ผมเรียนว่าการตัดสินใจของแต่ละพรรคเมืองเป็นเอกสิทธิ์ ผมมีความมั่นใจว่าแนวทางที่จะพูดคุยกันเป็นแนวทางที่ทำให้การเมืองมี เสถียรภาพมากที่สุด ผมว่าเราต้องเก็บเกี่ยวบทเรียนจากปี 2551 ว่าหากไปหยิบประเด็นที่มีความละเอียดอ่อนและมีความขัดแย้งสูงในสังคม และคิดว่าจะผลักดันกันไปได้เพียงแต่มีเสียงในสภาฯสุดท้ายบ้านเมืองเดินต่อไปไม่ได้ก็ไม่มีประโยชน์อะไรกับใคร หากเราเรียนรู้จากบทเรียนปี 2551 เราจะจัดการและหาคำตอบได้"
เมื่อถามว่า ขณะนี้คิดว่าพรรคร่วมเรียนรู้กับบทเรียนที่เกิดขึ้นได้หรือไม่
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนคิดว่าเขาก็อยู่กับความเป็นจริงจึงได้ปรับแนวคิดจากการทำ 6 ประเด็นเหลือ 2 ประเด็น.
มาร์คติ๊ดชึ่ง รอปีใหม่ ผ่าทางตันแก้รธน.
เครดิต : ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!


กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
























กระทู้ล่าสุด


รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
















































Love illusion ความรักลวงตา เพลงที่เข้ากับสังคมonline
Love illusion Version 2คนฟังเยอะ จนต้องมี Version2กันทีเดียว
Smiling to your birthday เพลงเพราะๆ ไว้ส่งอวยพรวันเกิด หรือร้องแทน happybirthday