"พล.อ.อนุพงษ์"เผยยังมีทหารที่แตกแถว ฝากผบ.ทบ.คนใหม่สานต่อ ยันตลอดระยะเวลาที่ดำรงตำแหน่ง ไม่เคยสิ้นคิดจัดตั้ง”บูรพาพยักฆ์”เพราะสถาบันกองทัพเป็นอำนาจหลักไม่ใช่ของส่วนตัว....
พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. ให้สัมภาษณ์ถึง ทิศทางกองทัพภายหลังเกษียณอายุราชการในปี 2553ว่า
ไม่ว่าใครจะรับตำแหน่งในหน้าที่ใดก็แล้วแต่ ทุกคคนส่วนใหญ่ต้องคิดว่า ภายใต้บทบาทภารกิจในหน่วยงานของตัวเองที่ตัวเอง รับผิดชอบจะทำอย่างไรให้หน่วยงานนั้นมีความเจริญและสามารถปฎิบัติหน้าที่ตาม บทบาทภาระกิจได้ตามบทบาท ทั้งนี้ตนก็ได้มีการพูดคุยกับกำลังพลถึงการำเนินการในด้านต่างๆว่าจะดำเนิน งานไปในทิศทางใด การที่เราจะปฎิบัติหน้าที่ตามบทบาทเราต้องไปดูว่าจะต้องทำอย่างไรให้องค์กร มีขีดความสามารถที่จะทำเช่นนั้นได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องกำลังพล ด้านการสร้างอุดมการณ์ที่จะให้กำลังพลยึดมั่นใน ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และประชาชน เรียกว่าการเตรียมกำลัง อีกส่วนหนึ่งก็คือในเรื่องการฝึกหัดกำลังพลให้สามารถปฎิบัติหน้าที่ได้ เพราะบทบาทภาระกิจหลักของเราก็คือการป้องกันประเทศ รักษาอธิปไตยของประเทศ ในส่วนของยุทธปกรณ์ก็ยังคงใช้ของเดิมอยู่
ผู้สื่อข่าวถามว่า เหลือเวลาอีก 8 เดือน ก่อนจะเกษียณอายุราชการ มีงานอะไรที่ยังไม่ได้ทำ พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า เรื่องการจัดเตรียมกำลังให้พร้อมปฎิบัติ
ตนถือว่าการปลูกฝังอุดมการณ์ของคนเป็นเรื่องสำคัญและต้องทำให้ดีกว่านี้ สาเหตุเจ้าหน้าที่โครงของเราก็คือนายทหารและนายสิบไม่ค่อยมีปัญหา จะมีนอกแถวนอกลู่ไปบ้างก็ว่าไปตามกฎระเบียบ วัตถุดิบมาจากสังคมในประเทศเราจึงต้องประเมินว่าค่านิยมวัยรุ่นในตอนนี้เป็น อย่างไร แต่ไม่ใช่ว่าจะไม่ดีไปเสียหมด แต่แนวคิดจะเปลี่ยนไปจากเดิม สังคมเปลี่ยนไป ยึดถือวัตถุมาขึ้น คิดแต่สิ่งใกล้ตัวของตัวเอง ผลประโยชน์ของตนเอง ความอดทนน้อย รักความสบายมากขึ้น ก็ต้องพยายามฝึกเขาให้อยู่ในกรอบที่จะทำเพื่อชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ เหมือนในอดีต บพรรชนของเราที่ทำกันคนสมัยก่อนไม่มีวาระอย่างอื่นมีวาระอย่างเดียวก็คือทำ เพื่อชาติ ศาสนาและพระมหากษัตริย์ที่เคารพยิ่ง พวกเขาจึงได้เป็นห่วงสัมคมในปัจจุบัน เรื่องนี้ต้องเดินนห้าต่อไปเรื่อยๆ ใครที่ขึ้นมาดำรงตำแหน่ง ผบ.ทบ.คนต่อไปก็ต้องทำไปเรื่อยๆ หยุดไม่ได้
“อย่างไร ก็ตามกองทัพก็ต้องอยู่ต่อไปไม่ว่าใครจะมาเป็น ผบ.ทบ. สถาบันกองทัพไม่ใช่ของผม หรือใครที่ชอบเอามาอ้าง มันไม่ใช่ คนที่คิดแบบนั้นไม่เข้าใจ เป็นเหมือนอำนาจสถาบันหลักไม่ใช่ของส่วนตัว ใครที่มาปกครองอย่าคิดแบบตื้นๆ ผมอยากจะเรียนให้คนตาสว่างว่า เพราะอะไรผมจึงปกครองกองทัพได้และไม่กลัวการปฎิวัติ ไม่เคยกลัวแม้แต่นิดเดียว อยากจะยกตัวอย่างเรื่องที่มีการวิพากวิจารณ์ว่าผม ตั้งบูรพาพยักฆ์ ผมไม่ตั้งบูรพาพยักฆ์ เพราะการตั้งบูรพาพยักฆ์ เป็นการสิ้นคิดที่สุดคือตั้งพวกกันเองถ้าคุมไม่ได้ก็โดนปฎิวัติล้าน เปอร์เซ็น ผมทำอย่างนั้นไม่ได้ ไปดูรายละเอียดในเรื่องการปรับย้ายนายทหารในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ไม่มีข้อติฉินนินทาทุกส่วนก็ต้องเติบโตขึ้นมา จัดแบบนี้ไม่มีการปฎิวัติ สำคัญที่สุดคือต้องมีคุณธรรมและให้ทุกส่วนมีโอกาสเติบโตขึ้นมาตามธรรมชาติ ของเขา เอาคนบูรพาพยักษ์มาสุมหัวกันปฎิวัติแน่นอน คนฉลาดไม่ทำแบบนั้น ผมก็มั่นใจว่า ผบ.ทบ.คนต่อไปก็ไม่ทำเช่นนั้น"ผบ.ทบ.กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายวานว่า กลุ่มนายทหารที่เรียกกันว่า "บูรพาพยักฆ์" ประกอบไปด้วย
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รองผบ.ทบ. พล.ท.คณิต สาพิทักษ์ แม่ทัพภาคที่1 พล.ต.วลิต โจรนภักดี ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ ซึ่ง ทั้งหมดเป็น”ทหารเสือพระราชินี “จากกองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ (พล.ร.2 รอ.) ค่ายพรหมโยธี จ.ปราจีนบุรี ซึ่ง นายทหารเหล่านี้ เป็นผู้ดำรงตำแหน่งสำคัญของกองทัพบกในปัจจุบัน จนมีการวิพากวิจารณ์ กันว่า การรวมตัวกันอย่างเหนียวแน่น เกิดจาก การดำเนินการของ พล.อ.อนุพงษ์ เพื่อต้องการให้กองทัพมีความเป็นปึกแผ่น โดยใช้ความสัมพันธ์บวกกับการไว้เนื้อเชื่อใจที่มีไม่ว่าจะเป็นในฐานะผู้ บังคับบัญชา กับผู้ใต้บังคับบัญชาก พี่น้องร่วมสังกัด พื่อป้องกันการถูกปฎิวัติและการต่อรองทางการเมือง
เมินตั้งบูรพาพยักฆ์อนุพงษ์ลั่นกองทัพไม่ใช่ของส่วนตัว
หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ข่าวการเมือง เมินตั้งบูรพาพยักฆ์อนุพงษ์ลั่นกองทัพไม่ใช่ของส่วนตัว
เครดิต : ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!