"มาร์ค"ปลง"ฮุนเซน"วิจารณ์ปล่อยพูดไป เสียใจคนไทยขยันเติมเชื้อขัดแย้ง ลั่นไม่มีนโยบายรุกรานเพื่อนบ้าน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ “เชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯ อภิสิทธิ์” เมื่อวันที่ 27 ธ.ค. ถึงการบริหารความสัมพันธ์ระหว่างไทย-กัมพูชา หลังสมเด็จ ฮุนเซ็น นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ออกมาวิพากวิจารณ์รัฐบาลไทยหลายครั้ง ว่า “ผมคงไปบริหารการพูดของนายกฯ กัมพูชาไม่ได้ ท่านก็พูดไป แต่ผมไม่เอามาเป็นเรื่องที่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประชาชนกับประชาชน” ผู้ดำเนินรายการถามว่า เบื่อหรือไม่ นายอภิสิทธิ์อมยิ้มก่อนกล่าวว่า ก็ธรรมดา ก็มีคนที่วิพากษ์วิจารณ์ตนอยู่แล้ว ก็เพิ่มมาอีก 1 คน เมื่อถามว่า มีแนวคิดจะส่งเอกอัครราชทูตไทยกลับไปประจำกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา บ้างหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ถ้ากัมพูชาไม่ละเมิดระบบศาลไทย ทบทวนสิ่งที่ทำให้เป็นปัญหา ก็ไม่มีปัญหาเลย เพราะทุกอย่างตนได้พยายามทำให้เป็นปกติที่สุด ตอนเกิดเรื่องครั้งแรกคนกลัวกันมากว่าว่า 1. จะสู้รบหรือไม่ ซึ่งตนได้สั่งการกับฝ่ายทหารให้ระมัดระวังเป็นพิเศษไม่ให้เกิดความเข้าใจผิด จนนำไปสู่เหตุปะทะกัน 2. จะมีการปิดพรมแดนหรือไม่ ผ่านมากี่เดือนแล้ว ขณะนี้มูลค่าทางการค้าระหว่าง 2 ประเทศก็เหมือนเดิมทุกอย่าง 3. เรื่องการให้ความช่วยเหลือทางการกัมพูชา รัฐบาลไม่ได้เป็นคนไม่ให้ แต่เมื่อกัมพูชาไม่รับ ก็เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ ไทยก็พยายามบอกกับคนกัมพูชาว่าเราอยากช่วย แต่ผู้นำของเขาเองที่ตัดสินใจไม่ได้ ส่วนกรณีที่รัฐบาลกัมพูชาเตรียมส่งแผนบริหารจัดการพื้นที่รอบปราสาทพระวิหารเข้าสู่การพิจารณาขององค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก) ในเดือนกุมภาพันธ์ 2553 นั้น นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า เข้าใจว่านี่เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ผู้นำกัมพูชาไม่พอใจไทย แต่ยืนยันว่ารัฐบาลมีหน้าที่รักษาผลประโยชน์ของไทย การที่กัมพูชากำลังจะยื่นแผนบริหารจัดการพื้นที่รอบปราสาทพระวิหารที่ก้าวล่วงเข้ามาในพื้นที่ของไทย ตนคงอยู่เฉยไม่ได้ แต่มีหน้าที่ปกป้องสิทธิของเรา โดยจะดำเนินการภายใต้กรอบคณะกรรมการมรดกโลก “หากมาเรียกร้องว่าสัมพันธ์กับกัมพูชาต้องดี และบอกผมว่าถ้าอย่างนั้นก็ปล่อยเขาไปในเรื่องนี้ คนไทยยอมรับไหม คนไทยยอมรับไหมว่าถ้าอยากดีกับเขา ที่ตรงนี้ที่เคยบอกว่าเป็นที่ของเรา แต่เขาบอกว่าเป็นของเขาและเขามีสิทธิจะบริหาร จะยอมหรือเปล่าล่ะ ถ้าเรายอม เขาบอกว่าดีและพอใจ แล้วมันถูกไหมล่ะ ถ้าถามว่าอยากให้ความสัมพันธ์ระหว่างไทย-กัมพูชาดีขึ้นหรือไม่ อยาก แต่ถ้าศักดิ์ศรีประเทศไม่ต้องปกป้อง อธิปไตยของประเทศไม่ต้องปกป้อง อีกทั้งจะเป็นแบบอย่างว่าต่อไปใครเข้ามาวิพากษ์วิจารณ์ศาลของเราได้ ผมว่ามันไม่ใช่ ดังนั้นเราจะยืนยันในสิ่งที่ถูกต้อง แต่ต้องยอมรับว่าความสัมพันธ์อาจจะไม่ราบรื่นเหมือนกับการไปยอมทุกสิ่งทุกอย่าง ดังนั้นก็จะพยายามบริหารไม่ให้ความสัมพันธ์กระทบกระทั่งจนประชาชนเดือดร้อน” นายอภิสิทธิ์กล่าว ผู้ดำเนินรายการถามว่า ที่ผ่านมามีเสียงวิจารณ์มากว่าไทยตื่นตูมมากเกินไป นายกฯ กล่าวสวนทันควันว่า ดีกว่าไปทำให้กระเทือนการค้า ดีกว่ามีการสู้รบ จะให้ทำอย่างไรล่ะ จะให้กัมพูชาวิจารณ์ประเทศไทย ศาลไทยไปเรื่อยๆ หรือ มันเป็นไปไม่ได้ เมื่อถามว่า จะทำอย่างไรไม่ให้ 2 ประเทศแขวะกันไปมา นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า “เราไม่ได้แขวะอะไร จริงๆ เราไม่ได้มีอะไร แต่ก็น่าเสียใจที่มันมีคนไทยไปช่วยเติมให้เขา ไปเพิ่มเงื่อนไขอยู่เรื่อย รัฐบาลไม่ได้ทำอะไรเลย รัฐบาลจบแล้วเพราะถือว่าเรื่องทูตก็ได้บอกกับกัมพูชาชัดว่าถ้าทบทวนที่มาปัญหา เราก็พร้อมทบทวนเรื่องนี้” ส่วนกรณีที่อินโดนีเซียเสนอตัวเป็นคนกลางในการไกล่เกลี่ยปัญหานั้น นายกฯ กล่าวว่า ผู้นำอาเซียนคงไม่อยากให้เป็นอย่างนี้ ส่วนผู้นำในประชาคมโลกจะเข้าใจการกระทำของไทยและกัมพูชาหรือไม่นั้น ต้องถามว่าคนไทยด้วยกันเองเข้าใจหรือไม่ ตอบอยากนะ เพราะเท่าที่จำความได้ ตนไม่เคยเห็นคนไทยเข้าไปเกี่ยวพันกับต่างประเทศ และมีผลย้อนกระทบกับประเทศไทย เมื่อถามว่า จำเป็นต้องชี้แจงข้อเท็จจริงกับนานาชาติหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ถ้าชี้แจงทุกเรื่อง ก็หาว่าไปตอบโต้กันไปมา ทั้งนี้ยืนยันว่าไทยไม่มีนโยบายรุกรานเพื่อนบ้าน ไม่ว่าจะเรื่องดินแดน หรือเรื่องการเมืองภายในของประเทศนั้นๆ
"อภิสิทธิ์"ไม่สน"ฮุนเซน"แขวะรบ.ไทยรายวัน มองมีคนวิจารณ์เพิ่มมาอีกคน กร้าวยอมไม่ได้กัมพูชาละเมิดศาลไทย-ยื่นแผนจัดการพื้นที่รอบพระวิหาร ขอป้องอธิปไตย ยืนยันสิ่งถูกต้อง เสียใจคนไทยบางคนเติมเชื้อไฟ เพิ่มเงื่อนไขอยู่เรื่อย ยันไทยไม่มีนโยบายรุกรานประเทศเพื่อนบ้าน
มาร์คปลงฮุนเซนวิจารณ์ปล่อยพูดไป เสียใจคนไทยขยันเติมเชื้อขัดแย้ง ลั่นไม่มีนโยบายรุกรานเพื่อนบ้าน
หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ข่าวการเมือง มาร์คปลงฮุนเซนวิจารณ์ปล่อยพูดไป เสียใจคนไทยขยันเติมเชื้อขัดแย้ง ลั่นไม่มีนโยบายรุกรานเพื่อนบ้าน