คมชัดลึก :วงเสวนา "ผู้นำยุคใหม่" ชี้ "อภิสิทธิ์"เก่งแต่ไม่เด็ดขาด แก้ปัญหาประเทศได้แค่ "ชั่วคราว" แต่หนี้พุ่งสูงขึ้น ห่วงผู้นำไร้วิสัยทัศน์พาสังคม "วิกฤต"
(26ธ.ค.) ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มีการจัดสัมมนาเรื่อง “ ผู้นำการเมืองยุคใหม่เพื่อพัฒนาประเทศไทย” โดยมีนายวิชา มหาคุณ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริต นายวิทยากร เชียงกูล คณบดีวิทยาลัยนวัตกรรมสังคม มหาวิทยาลัยรังสิต โดยมีประชาชนสนใจเข้าร่วมรับฟังประมาณ 60 คน
นายวิชา กล่าวว่า ปัจจุบันสังคมไทยมีปัญหาที่เกิดจากการมีผู้นำทั้งระดับประเทศ และระดับท้องถิ่น รวมถึงระดับสูงในระบบราชการเอกชนที่ขาดความเข้าใจในระบบประชาธิปไตย โดยมีแนวคิดที่ยึดวัฒนธรรมการเมืองเก่าอย่างเหนียวแน่นมีรากฐานความคิดในการแสวงหาอำนาจ มีความอิจฉาริษยาทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้มาซึ่งตำแหน่งที่ต้องการ โดยเฉพาะตำแหน่งผู้นำระดับประเทศ ซึ่งเป็นบุคคลที่ต้องมีหน้าที่ทำเพื่อประโยชน์ของสาธารณะ ทำให้ประชาชนมีสุขและต้องมีความเสียสละ แต่ในปัจจุบันผู้นำมีแต่ความอิจฉาริษยามีความทะยานอยาก จนในที่สุดก็นำไปสู่ความล่มจมในระบอบประชาธิปไตย ล่าสุดสิ่งที่จะทำลายระบอบประชาธิปไตยอย่างแท้จริง คือระบบทุนนิยมที่เริ่มมีการเข้ามาเกี่ยวข้องกับระบบประชาธิปไตย ซึ่งระบบทุนนิยมนี้ไม่ได้เพิ่งเกิดขึ้นในยุคนี้ แต่เกิดมานานคู่กับมนุษย์มาช้านานตั้งแต่โบราณที่ผู้นำมีการแจกจ่ายเงินทองให้ประชาชน ซื้อเสียงเพื่อให้ได้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองผู้นำจึงกลายเป็นสิ่งเลวร้าย เพราะต้องทำทุกอย่างเพื่ออำนาจ จนเกิดกฎหมู่ขึ้น ไม่ใช้กฎหมายจึงนำไปสู่ความเหลวแหลกในสังคม
นายวิชา กล่าวอีกว่า ตนยืนยันว่าการเลือกตั้งไม่ใช่สูตรสำเร็จในระบอบประชาธิปไตย และขณะนี้คนไทยยังขาดการศึกษาที่ถูกต้องในคำว่าประชาธิปไตย เพราะการพัฒนาประเทศจะพัฒนาได้ต้องมีผู้นำที่มีความฉลาดทุกด้าน ความฉลาดนี้ไม่ใช่แค่เก่ง มีความรู้ ปกครองคนได้ แต่ต้องมีคุณธรรม จริยธรรม มีจิตสำนึกในการทำหน้าที่เพื่อประโยชน์ส่วนรวมอย่างแท้จริง
“ สังคมไทยให้แค่การศึกษา แต่ไม่ได้ให้มีการคิดวิเคราะห์แยกแยะได้ แต่มุ่งเน้นสั่งสอนให้รู้จักกตัญญูรู้คุณคนถึงจะเป็นคนดี มันจึงเกิดระบบอุปถัมภ์ขึ้นเพราะต้องตอบแทนผู้มีบุญคุณ ผมถือว่าการศึกษาของสังคมไทยล้มเหลว เพราะไม่มีการสอนให้รู้จักการแยกแยะระหว่างประโยชน์ส่วนตัวกับประโยชน์ส่วนรวมให้ออกจากกันได้ ” นายวิชา กล่าว
นายวิชา ยังกล่าวอีกว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้คะแนนเต็มในส่วนที่ตั้งใจจะเป็นผู้นำมีความคิดอยากพัฒนาประเทศ แต่กลับไม่เกิดผลสำเร็จ เพราะในรัฐบาลชุดนี้มีหลายพรรค ซึ่งนายอภิสิทธิ์จะต้องตอบแทนบุญคุณ ทั้งๆที่บางอย่างตนเชื่อว่านายอภิสิทธิ์ ทราบดีว่าสิ่งใดถูกต้องควรทำหรือไม่ควรอนุมัติ แต่ก็ไม่สามารถตัดสินใจให้เด็ดขาดได้ เพราะต้องรักษาน้ำใจของคนร่วมรัฐบาล นายอภิสิทธิ์จึงยังขาดความเด็ดขาด ถือว่ายังไม่เข้าถึงหน้าที่ในด้านจิตสำนึกเพื่อสาธารณะ แต่หากท่านทำได้อย่างเด็ดขาดกับสิ่งที่ไม่ถูกต้องต่อสังคมส่วนรวมได้สมบูรณ์จะถือว่าท่านประสบความสำเร็จในการเป็นผู้นำอาจได้สูงถึง 8 คะแนนก็เป็นได้
นายวิทยากร กล่าวว่า ความคิดคนไทยตอนนี้ยังล้าหลังมาก เพราะไม่คำนึงถึงบทบาทหน้าที่ของผู้นำมีความสำคัญต่อการพัฒนาประเทศ เพราะผู้นำยุคใหม่ต้องเป็นบุคคลที่สามารถระดมคนให้มาร่วมมือในการพัฒนาประเทศได้มากที่สุด ไม่ใช่แค่ใช้คำสั่ง อีกทั้งต้องมีการติดตามผลการปฏิบัติว่ามีการเดินหน้าหรือไม่ใช้แค่คำว่า สั่งไปแล้ว ไม่ได้ สิ่งที่ทำให้ไทยพัฒนาได้ช้าเกินไปคือระบบอุปถัมภ์ที่ไม่สามารถตัดออกจากความเป็นคนไทยได้ ซึ่งตนเห็นว่านายอภิสิทธิ์ จะสามารถพัฒนาประเทศไปได้มากกว่านี้แต่นายอภิสิทธิ์ก็ทำได้แค่ประคองตำแหน่ง และทำประชานิยมเพื่อหาเสียงไปวันๆ เพื่อคุมพรรคร่วมรัฐบาล ขณะนี้ปัญหาของสังคมไทยเป็นปัญหาที่มีความซับซ้อนมากขึ้น เพราะเกิดจากการมีผู้นำที่ไม่มีความเป็นผู้นำที่ดี
“ ผมท้าคนไทยทุกคนให้ศึกษาผู้นำไทยทุกคนในอดีตจนถึงปัจจุบัน จะเห็นว่าไม่เคยมีใครสักคนที่พูดยอมรับว่าตัวเองไม่ทราบ แต่กลับต้องบอกตัวเองนั้นฉลาด ถึงแม้บางครั้งไม่รู้เรื่องอะไรเลยก็ต้องบอกว่ารู้เพราะกลัวคนอื่นหาว่าโง่เลยต้องอวดฉลาดเข้าไว้ทั้งที่พฤติกรรมแบบนี้ถือว่าโง่ที่สุด การเป็นนายกฯจะต้องสามารถชวนคนเก่งๆมาร่วมงานได้ แต่ที่เขาไม่มาร่วมงานด้วย เพราะพวกเขาไม่เชื่อความฉลาดของผู้นำต่างหาก” รศ . วิทยากร กล่าว
นายวิทยากร กล่าวอีกว่า จะเห็นได้ชัดเจนว่าในสังคมไทยผู้นำยังขาดความเข้าใจประชาชนอย่างแท้จริง แต่มักคิดว่าตัวเองเก่งและไม่ยอมฟังใคร มองแค่ด้านเดียวคิดว่าตัวเองดีหมดทำถูกหมด ซึ่งยืนยันว่าไม่มีใครวิเศษได้ขนาดนั้น อีกทั้งควรมองโลกอย่างสมจริงอย่ามองแง่บวกเกินไป ตนตั้งข้อสังเกตว่าผู้นำไทยไม่ค่อยฟังเสียงของฝ่ายค้าน ถึงแม้บางครั้งอาจไม่มีประเด็นเท่าที่ควร แต่บางเรื่องก็ควรรับฟังการท้วงติงบ้าง เช่น โครงการมาบตาพุด ที่เกิดปัญหาอยู่ในขณะนี้ รัฐบาลกลับมองว่าเป็นการสร้างเรื่องหรือตีรวนของฝ่ายค้าน หรือคนที่คัดค้านเป็นพวกอนุรักษ์นิยม เพราะต้องเข้าใจด้วยว่ามันส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม หรือทรัพยากรของไทยจริงหรือไม่ มิเช่นนั้นต่างประเทศคงไม่มาลงทุนเพื่อเลี่ยง เพราะไม่กล้าทำที่ประเทศของพวกเขาเอง ดังนั้นยืนยันว่าผู้นำที่ดีต้องฉลาดทางอารมณ์ ฉลาดทางจิตสำนึก อย่าบ้าเห่อแค่ความเป็นประชานิยม หรือการแข่งขันเพียงอย่างเดียว ปัญหาในสังคมไทยที่เกิดขึ้นขณะนี้ เพราะนักการเมืองขาดการศึกษาที่ถูกต้อง ในการเป็นผู้นำอย่างแท้จริงและถือว่าการศึกษาของไทยล้มเหลว แค่จบปริญญาตรีก็คิดว่าเป็นคนมีความรู้แต่มันเป็นแค่ใบเบิกทางให้โกงเก่งขึ้น ทุจริตเห็นแก่ตัวเก่งมากขึ้นเท่านั้น แต่ไม่ได้เป็นประโยชน์ต่อประเทศ
“ยอมรับว่าวิกฤตของไทยเกิดจากความคิดของผู้นำที่มองว่าเป็นแค่วิกฤตชั่วคราว ทั้งๆที่เรายังมีความเสี่ยงสูงในการเผชิญกับวิกฤตฟองสบู่ แต่มักปลอบใจสังคมว่าไม่เป็นปัญหาจะแก้ไขได้ เพราะผู้นำไทยยังเน้นอยู่กับระบบทุนนิยมพึ่งพาต่างประเทศ และเชื่อว่ารัฐบาลชุดนายอภิสิทธิ์จะสามารถแก้ไขปัญหาทั้งด้านเศรษฐกิจ การเมืองได้ แค่ชั่วคราวเท่านั้นแต่ไม่ใช่ระยาวเพราะยังมุ่งเน้นการทุ่มเม็ดเงิน โครงการประชานิยมแต่จะเพิ่มภาระหนี้ในประเทศเพิ่มมากขึ้น ทั้งที่ความจริงประเทศไทยมีขนาดประชากรอันดับที่ 21 ของโลก แต่กลับคิดว่าตัวเองเป็นแค่ประเทศที่กำลังพัฒนาทั้งที่ อังกฤษ หรืออิตาลี เล็กกว่าเรา 10 เท่า มีเงินฝากในประเทศกว่า 6 ล้านล้านบาท แต่รัฐบาลไม่รู้จักการพัฒนาคน หรือทรัพยากรที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์ ทั้งๆที่ไทยสามารถพึ่งพาตนเองได้เพราะมีทั้งทรัพยากร ทั้งบุคลากร มีเกษตรพลังงานทดแทน ตนเชื่อว่าหากรัฐบาลเข้าใจปัญหาโครงสร้างการปกครองจริงๆเชื่อว่าจะสามารถพัฒนาประเทศไปได้ แต่ตอนนี้สิ่งที่รัฐบาลทำได้คือแค่รอให้ต่างประเทศมาช่วยเหลือเท่านั้น"นายวิทยากร กล่าว