คมชัดลึก :3 ปีที่ ทักษิณ ชินวัตร อดีตพันตำรวจโท หมดอำนาจจากการเป็น นายกรัฐมนตรี เพราะถูกคณะปฏิวัติยึดอำนาจ ด้วยข้อหาฉกาจฉกรรจ์ ที่ชาวบ้านต่างก็เห็นพ้องด้วย จึงให้การสนับสนุนคณะปฏิวัติและรัฐบาลที่ตั้งตามมา...
ข้อหาฉกรรจ์ดังกล่าวถูกแปรสภาพเป็นคดีความมากมายหลายคดี บางคดีศาลพิพากษาลงโทษไปแล้ว เช่นคดีให้เมียซื้อที่ดินรัชดา ทำให้ทักษิณต้องหนีกระเซอะกระเซิง บ้านแตกสาแหรกขาด มีชีวิตอยู่ด้วยความคั่งแค้น พยายามที่จะแก้แค้น และหวนคืนสู่การมีอำนาจทุกวัน ทุกวิถีทาง ทำให้ประเทศชาติขาดความสงบสุข อย่างที่ไม่เคยมีอดีตนายกรัฐมนตรีคนใดแสดงความบ้าคลั่งอย่างนี้มาก่อน
ขณะนี้ ยังมีอีกหลายคดีความที่รอการพิพากษาตัดสิน อาทิ คดีที่ถูกยึดทรัพย์ 7.6 หมื่นล้านบาท ในข้อหาร่ำรวยผิดปกติ เป็นต้น ผมเคยสังเกตเห็นว่า ทุกครั้งที่คดีความของทักษิณถูกนำขึ้นมาพิจารณาและตกเป็นข่าว ชาวบ้านจะตื่นเต้นอยากรู้อยากเห็นว่าคดีความนั้นจะจบลงอย่างไร…บางคนฟังแต่ ทักษิณ และลิ่วล้อพูด ไม่เคยรู้ความชั่วของทักษิณมาก่อน ก็มีโอกาสได้รู้... ผมจึงขอเสนอให้ ปี 2553 เป็นปีประชาสัมพันธ์ความชั่วของทักษิณ รัฐบาลควรตั้งคณะทำงาน รื้อทุกคดีของทักษิณออกมาแถลงความคืบหน้าให้ชาวบ้านได้รับรู้ว่า มีทั้งหมดกี่คดี - เหลืออีกคดี แฉให้เห็นขั้นตอนและวิธีการยักยอกทรัพย์ของแผ่นดิน เช่นที่สื่อมวลชนนำรายละเอียดในคดีร่ำรวยผิดปกติมาตีแผ่ว่า ทำไมทักษิณจึงรวยแล้วรวยอีกนั่นแหละ
ที่ผ่านมาทักษิณ ได้เบี่ยงเบนความสนใจของชาวบ้านไปจากการโกงชาติโกงแผ่นดินด้วยการสร้างเรื่องให้ชาวบ้านลืม เช่น ยื่นข้อเสนอบ้าๆ บอๆ ขอให้นำรัฐธรรมนูญปี 40 มาใช้ ขอให้ยุบสภาเลือกตั้งใหม่ ฯลฯ ผมว่าปี 2553 รัฐบาลควรเป็นผู้ใหญ่กว่านี้ เลิกบ้าจี้กับทักษิณและลิ่วล้อนอกสภา และควรตอกย้ำผ่านสื่อถึงชาวบ้านบ่อยๆ ให้รู้ว่า ตอนทักษิณเป็นนายกฯ นั้นได้ทำความเลวระยำต่อชาติ และหมิ่นสถาบันฯ อย่างไรบ้าง… วันไหนทักษิณโฟนอินมา รัฐบาลก็นำ “ไส้ทักษิณ” ที่เตรียมไว้ออกมาประจานแทนการตอบโต้ด้วยวาจาจะดีกว่านะครับ…
คลี่ข่าวคลายปม
ภานุมาศ ทักษณา