คมชัดลึก :"สุรเกียรติ์"ให้ปากคำคดียึดทรัพย์"ทักษิณ" แฉ รัฐบาล"แม้ว"สั่ง"เอ็กซิมแบงก์"ปล่อยกู้พม่า 4 พันล้าน เอื้อธุรกิจชินแซทฯ ทักท้วงแล้วแต่ก็ไม่ยอมฟัง
(22ธ.ค.) ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เวลา 09.50 น. นายสมศักดิ์ เนตรมัย ผู้พิพากษาอาวุโสในศาลฎีกา
เจ้าของสำนวนยึดทรัพย์พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พร้อมองค์คณะรวม 9 คน ไต่สวนพยานอัยการ 2 ปากสุดท้าย ในคดีที่อัยการสูงสุด ยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งให้ทรัพย์สินของพ.ต.ท.ทักษิณ และครอบครัว รวมทั้งบุคคลใกล้ชิดที่มีชื่อเป็นเจ้าของทรัพย์สินรวม 22 ราย จำนวน 7.6 หมื่นล้านบาทเศษ ให้ตกเป็นของแผ่นดิน เนื่องจากพ.ต.ท.ทักษิณ ผู้ถูกกล่าวหามีพฤตการณ์ร่ำรวยผิดปกติ ขณะดำ รงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ใช้อำนาจหน้าที่ออกนโยบายเอื้อประโยชน์ธุรกิจของครอบครัว ซึ่งเป็นผลประโยชน์ขัดกัน
โดยช่วงเช้าอัยการนำนายสุรเกียรติ์ เสถียรไทย อดีตรองนายกรัฐมนตรี และอดีตรมว.ต่างประเทศ สมัยรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ไต่สวนเป็นปากแรก
เกี่ยวกับประเด็นการให้ความสนับสนุนรัฐบาลพม่า โดยการปล่อยกู้เงิน จำนวน 4 พันล้านบาท ผ่านธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้า หรือ เอ็กซิมแบงก์ เพื่อการพัฒนาประเทศพม่า เมื่อปี 2547
โดยนายสุรเกียรติ์ เบิกความยืนยันว่า ครั้งแรกในการขอกู้รัฐบาลพม่าได้เสนอวงเงิน 3 พันล้านบาท เพื่อนำไปใช้การพัฒนาประเทศ 5 เรื่อง
ประกอบด้วย การค้า การลงทุน, การเกษตรและอุตสาหกรรม, การเชื่อมโยงเส้นทางคมนาคม, การท่องเที่ยวและการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ โดยไม่มีการเจรจาความร่วมมือ เกี่ยวกับกิจการโทรคมนาคมแต่ภายหลังพม่าขอวงเงินกู้เพิ่มอีก 24 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยระบุจะไปใช้ในกิจการโทรคมนาคมแต่พยานในฐานะ รมว.ต่างประเทศ ที่ทำหน้าที่เจรจากับรัฐบาลในเรื่องดังกล่าว เสนอความเห็นต่อรัฐบาลพม่าและพ.ต.ท.ทักษิณ นายกฯขณะนั้น ว่า ไม่เห็นด้วยกับวงเงินกู้เพิ่มเพราะขณะนั้น ผู้นำรัฐบาลไทย ก็มีธุรกิจเกี่ยวข้องกับกิจการโทรคมนาคม
ดังนั้นจะเป็นที่ครหาเรื่องผลประโยชน์ขัดกัน ซึ่งพ.ต.ท.ทักษิณก็รับทราบและไม่ได้คัดค้านอะไร
ซึ่งภายหลังรัฐบาลพม่า ได้ทำหนังสือขอเงินกู้เพิ่มอีก 2,000 ล้านบาท รวมกับวงเงิน 3,000 ล้านบาทเดิม เป็น 5,000 ล้านบาท กระทั่งมีการเจรจาเหลือเพียงแค่ 4,000 ล้านบาท ขณะที่เรื่องของการลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ให้พม่าจากร้อยละ 5 เหลือร้อยละ 3 นั้น พยานได้แจ้งเรื่องที่พม่าขอลดอัตราดอกเบี้ยให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ทราบ ซึ่งนายกรัฐมนตรี ได้บอกว่า ให้พิจารณาด้วยความยืดหยุ่นเท่าที่จะทำได้ ซึ่งเหตุที่รัฐบาลพม่าขอปรับลดอัตราดอกเบี้ย อ้างเหตุที่ประเทศลาวและกัมพูชา ได้รับเงินกู้จากไทย โดยอัตราดอกเบี้ย ร้อยละ 2
สำหรับการไต่สวนพยานของอัยการ 2 ปากสุดท้ายในวันนี้ อัยการจะนำนายกล้านรงค์ จันทิก ป.ป.ช. ซึ่งอดีตเป็นคตส. เข้าไต่สวนในช่วงบ่าย
แฉแม้วสั่งเอ็กซิมแบงก์ปล่อยกู้พม่า4พันล.
เครดิต : ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!