โฆษกมาร์ค ไม่หวั่น พท.-เสื้อแดง บีบกกต.ยุบพรรค

“โฆษกมาร์ค”ไม่หวั่นเพื่อไทย-เสื้อแดงบีบ กกต.ยุบประชาธิปัตย์ยันเป็นกรรมการบริหารบรรคช่วงเกิดเรื่องไม่มีเงินไหลเข้า ปัดตอบ เด็กประชาธิปัตย์รับมีกรรมการบริหารพรรคบางคนเอี่ยว.....

นาย เทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์

ให้สัมภาษณ์ถึง ความเคลื่อนไหวของพรรคเพื่อไทยและกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการ แห่งชาติ (นปช.) ที่กดดันคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้ยุบพรรคประชาธิปัตย์จากกรณีเงินบริจาค 258 ล้านบาทว่า เรื่องนี้พรรคไม่เคยหวั่นไหว เพราะได้ผ่านร้อนผ่านหนาว มรสุมทางการเมืองมาหลายครั้ง แต่ด้วยความที่พรรคประชาธิปัตย์ได้ยึดหลักความถูกต้อง และปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัดมาโดยตลอดจึงมาอายุยาว 63 ปี โดยเฉพาะกรณีการยุบพรรคประชาธิปัตย์ ก็เคยพิจารณาจากศาลรัฐธรรมนูญมาแล้ว และได้ต่อสู้ด้วยเหตุผลจนศาลยกคำร้อง
ดังนั้น ครั้งนี้พรรคยังเชื่อมั่นในความบริสุทธิ์และอยากให้กกต.พิจารณาเรื่องนี้โดย อิสระ โดยปราศจากแรงกดดันใดๆ และไม่ควรหวั่นไหวในคำขู่ที่จะยื่นถอดถอนและฟ้องคดีกกต. เพราะถ้ากกต.ชุดนี้ปฏิบัติหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา ก็สามารถที่จะชนะคดีต่างๆ ได้

ส่วน ที่ส.ส.พรรคเพื่อไทย เรียกร้องให้ประธานกกต.ถอนตัวจากการพิจารณาในคดีนี้ โดยให้เหตุผลว่า
 
เป็นเพื่อนรุ่นเดียวกับนายบัญญัติ บรรทัดฐาน กรรมการสภาที่ปรึกษาพรรคนั้น นายเทพไทกล่าวว่า เป็นเหตุผลที่ฟังไม่ขึ้น ถ้าหากจะใช้บรรทัดฐานเช่นนี้ จริงๆ แล้วไม่ใช่แค่เป็นเพื่อร่วมรุ่นกับนายบัญญัติ แต่เป็นเพื่อนกับนักการเมืองในซีกพรรคพื่อไทยหลายคน กกต.ทั้ง 5 คน บางก็เคยเรียนร่วมรุ่น บางคนก็เคยรู้จักกัน ก็จะต้องถอนตัวจากการพิจารณาคดีนี้ทั้ง 5 คน และจะมีใครทำหน้าที่กกต.ต่อไป “ขณะที่เกิดเรื่องนี้ ผมก็เป็นกรรมการบริหารพรรคคนหนึ่ง ไม่เคยรับรู้รับทราบ และไม่เคยมีมติใดๆ เกี่ยวกับเงินบริจาค 258 ล้านบาท จึงยืนยันได้ว่าพรรคบริสุทธิ์และไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้อย่างแน่นอน” นายเทพไท กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า นางรัชฎาภรณ์ แก้วสนิท ส.ส.สัดส่วน พรรคประชาธิปัตย์ ระบุว่า
 
มีอดีตกรรมการบริหารพรรคมีส่วนได้เสียเงิน 258 ล้านบาท นายเทพไทกล่าวว่า ตนไม่ทราบว่านางรัชฎาภรณ์หมายถึง กรรมการบริหารพรรคคนใด แต่เมื่อพิจารณาจากสำนวนสอบสวนของดีเอสไอก่อนส่งเรื่องให้ กกต.พิจารณา ก็ไม่เห็นมีชื่ออดีตกรรมการบริหารพรรคคนใดเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่ที่มีชื่อเกี่ยวข้องในสำนวน ส่วนใหญ่เป็นชื่อญาติพี่น้องของส.ส.พรรคประชาธิปัตย์บางคน และไม่ได้ปรากฎชื่อส.ส.และกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์เข้าไปเกี่ยวข้อง ดังนั้น พรรคจะมีความผิดได้อย่างไร.

เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์