พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี สมาชิกพรรคเพื่อไทย (พท.) และอดีตรองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (รอง ผอ.รมน.)
กล่าวถึงกรณีกองทัพบกเตรียมดำเนินการทางวินัยกับ พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือเสธ.แดง ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก ว่า เรื่องทหารพรานปักธงชัย ความจริงคือ เป็นคนเรียกให้ พล.ต.ขัตติยะมาที่พรรคและพูดคุยเรื่องนี้กัน โดยทราบว่ามีทหารพรานหลายคนที่มีแนวคิดและอุดมการณ์เดียวกับ พท.ต้องการไปร่วมชุมนุมกับคนเสื้อแดงเมื่อวันที่ 10 ธันวาคมที่ผ่านมา เรื่องนี้ที่จริงต้องขอบคุณ พล.ต.ขัตติยะด้วยซ้ำ ที่เป็นคนห้ามไม่ให้ทหารพรานปะทะกัน
พล.อ.พัลลภกล่าวว่า กรณีที่โฆษกกองทัพบกระบุว่าจำนวนทหารพรานมีไม่ถึง 200 คนนั้น
ในอดีตมีบทเรียนในเรื่องนี้มามากที่นายต้องตายเพราะลูกน้องที่ประจบสอพลอ ที่บอกจำนวนคนแบบผิดๆ ทำให้ประเมินสถานการณ์ผิดพลาด และเป็นเหตุให้เกิดการนองเลือดในที่สุดเหมือนสมัย 14 ตุลาคม 2516 และพฤษภาทมิฬ ถือเป็นการทำลายผู้บังคับบัญชาทางอ้อม ดังนั้น ขอฝากไปถึงน้องชายที่รักอย่าง พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ซึ่งรู้สึกเป็นห่วงอย่างมาก ไม่อยากให้ต้องรับชะตากรรมอย่างที่ผ่านมา
พล.อ.พัลลภกล่าวว่า การลงโทษ พล.ต.ขัตติยะนั้น หากมองในฐานะที่เป็นทหารมองว่าไม่เหมาะสม
คนเป็นเพื่อนกันก็พูดกันรุนแรงไปบ้าง และขอเตือนว่าไม่ควรที่จะสองมาตรฐาน หากมีการกลั่นแกล้งกันก็มีสิทธิที่จะเกิดสงครามกลางเมืองสูงได้ ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้มีนายทหารกลุ่มหนึ่งไปตีกอล์ฟที่คุนหมิงกลับมาก็ได้เลื่อนยศเป็นนายพล
"ทหารพรานปักธงชัยพล.อ.ชวลิตยงใจยุทธประธาน พท. เป็นคนตั้งขึ้น เขานับถือ พล.อ.ชวลิตเหมือนพ่อ และมีแนวคิดเหมือนเรา คนพวกนี้มีอุดมการณ์ของเขาเอง ไม่ได้ไปดึงเขามา ทหารพรานเคยเสี่ยงตาย เสียสละเพื่อชาติ ความคิดแบบนี้ทำให้เขาออกมาร่วม ทั้งนี้ความรุนแรงต่างๆ อยู่ที่ความยุติธรรมเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นกรณีของ พล.ต.ขัตติยะ คดียึดทรัพย์ 7.6 หมื่นล้าน และคดียุบพรรคไทยรักไทย ที่แม้ผมนำพยานออกมาคดีก็ยังไม่คืบ คนไทยมีความอดทนต่อทุกอย่างได้แต่ทนความอยุติธรรมไม่ได้" พล.อ.พัลลภกล่าว
นายสุชาติ ลายน้ำเงิน รองโฆษกของ พท. กล่าวว่า ขอฝากไปยังผู้นำกองทัพและกระทรวงกลาโหมว่า ในการจะตำหนิหรือลงโทษใคร
เช่น กรณี พล.ต.ขัตติยะ ขอให้ดูคนข้างๆ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่ขาดราชการเพราะไปตีกอล์ฟที่เมืองคุนหมิง สาธารณรัฐประชาชนจีน แต่ไม่มีการลงโทษ กลับได้ดิบได้ดี