พัทยา 26 พ.ย.-“พล.อ.เตีย บันห์” พร้อมผู้นำทางทหารกัมพูชา เดินทางถึงไทยแล้ว ออกรอบตีกอล์ฟกับ “พล.อ.ประวิตร-ผบ.เหล่าทัพ” ก่อนประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย-กัมพูชา (จีบีซี) สมัยวิสามัญ พรุ่งนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.เตีย บันห์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมกัมพูชา
พร้อมด้วย พล.อ.โปล ซะเรือน ผู้บัญชาการทหารสูงสุด พล.อ.เมียะ สุ เพียะ ผู้บัญชาการทหารบก และ พล.ร.ท.เตีย วินน์ ผู้บัญชาการทหารเรือของกัมพูชา เดินทางถึงประเทศไทย เวลา 11.00 น.วันนี้ โดย พล.อ.นพดล อินทปัญญา เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะผู้แทน พล.อ.ประวิตรวงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของไทย ต้อนรับที่ท่าอากาศยานสุวรณภูมิ ท่ามกลางการดูแลความปลอดภัยจากศูนย์รักษาความปลอดภัย
คณะทั้งหมดได้เดินทางมาที่สนามกอล์ฟ สยามคันทรี่ คลับ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี
มี พล.อ.ประวิตร รอต้อนรับ พล.อ.เตีย บันห์ ได้ออกรอบตีกอล์ฟกับ พล.อ.ประวิตร พล.อ.อภิชาต เพ็ญกิตติ ปลัดกระทรวงกลาโหม พล.อ.ทรงกิตติ จักกาบาตร์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก พล.ร.อ.กำธร พุ่มหิรัญ ผู้บัญชาการทหารเรือ พล.อ.อ.อิทธพร ศุภวงศ์ ผู้บัญชาการทหารอากาศ ก่อนเดินทางเข้าที่พักที่โรงแรมดุสิตธานี ซึ่งเป็นสถานที่ประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย-กัมพูชา (จีบีซี) สมัยวิสามัญพรุ่งนี้ ซึ่งไทยเป็นเจ้าภาพ ด้วย
ช่วงค่ำ พล.อ.ประวิตร เป็นเจ้าภาพจัดเลี้ยงอาหารค่ำแก่คณะของกัมพูชา ขณะที่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยไม่อนุญาตให้ผู้สื่อข่าวเข้าไปรายงานข่าว
โดยแจ้งว่าเป็นการขอจากฝ่ายกัมพูชา เพราะต้องการให้งานเลี้ยงเป็นการพูดจากันแบบเป็นกันเอง สำหรับบรรยากาศบริเวณด้านหน้า รร.ดุสิตธานี ตำรวจภูธรภาค 2 ได้จัดตำรวจกว่า 100 นาย พร้อมโล่และกระบองมาดูแลความสงบเรียบร้อย ขณะเดียว พล.อ.อนุพงษ์ ได้จัดกำลังสารวัตรทหารจากมณฑลทหารบกที่ 14 และศูนย์รักษาความปลอดภัย (ศรภ.) จากกองบัญชาการกองทัพไทยมาดูแล เพื่อป้องกันเหตุการณ์ฉุกเฉิน
พ.อ.ธนาธิป สว่างแสง โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า การประชุมครั้งนี้กระทรวงกลาโหมไทยจะเน้นกรอบหารือ 5 เรื่อง
คือ 1.กำลังทหารของทั้ง 2 ฝ่าย ที่วางกำลังอยู่ตามแนวชายแดน ซึ่งจะอยู่กันอย่างฉันมิตร มีสัมพันธ์ใกล้ชิดและแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น และสามารถแก้ปัญหาทั้งในเหตุการณ์ปกติและไม่ปกติ รวมถึงการใช้แนวทางสันติวิธีผ่านผู้บังคับหน่วยในพื้นที่ 2.การทำการค้าร่วมตามแนวชายแดน และจุดผ่านต่าง ๆ ของประชาชนไทย-กัมพูชา บนพื้นฐานของผลประโยชน์และความเสมอภาคเท่าเทียมกัน 3.มาตรการป้องกันการกระทำผิดเงื่อนไขชายแดนตามข้อตกลงอย่างเคร่งครัด เพื่อยกปัญหาอาชญากรรมต่าง ๆ พร้อมทั้งสกัดกั้นยาเสพติด การโจรกรรมทรัพย์สิน การทำลายทรัพยากรธรรมชาติ การต่อต้านการก่อการร้าย 4.แนวทางความร่วมมือด้านต่าง ๆ ระหว่างฝ่ายทหารของไทย -กัมพูชา เพื่อสนับสนุนและส่งเสริมให้มีความร่วมมือและแลกเปลี่ยนการเยือนระหว่างผู้นำระดับสูงของกองทัพอย่างสม่ำเสมอ รวมถึงการส่งเสริมการปฏิบัติงานของศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดของทั้ง 2 ประเทศ ให้เป็นรูปธรรมโดยเร็ว โดยร่วมกันจัดทำแผนการเก็บกู้ทุ่นระเบิด และ 5.ประเด็นการหารืออื่น ๆ การเร่งรัดการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนทางบก การเจรจาให้มีความคืบหน้าเกี่ยวกับพื้นที่อ้างสิทธิทางทะเล
“นอกจากนี้ การหารือนอกรอบอาจมีการยกประเด็นความช่วยเหลือวิศวกรชาวไทย และปัญหาการปิดน่านน้ำที่เกาะกง มาหารือ เพื่อลดปัญหาความขัดแย้งของทั้ง 2 ประเทศ โดยใช้กรอบของกองทัพเป็นตัวเชื่อมสัมพันธ์ระหว่าง 2 ประเทศ” พ.อ.ธนาธิป กล่าว.-สำนักข่าวไทย