ศิริโชคจวกปุระชัยหมดความน่าเชื่อถือ เห็นแก่พวกมากกว่าสถาบัน ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิชี้ฝากตร.ไม่เสียหาย


ศิริโชคออกโรงจวกปุระชัยแฉหลักฐานฝากโยกย้ายตำรวจ เห็นแก่พวกพ้องมากกว่าสถาบัน หมดความน่าเชื่อถือแล้ว ย้อนถามไม้บรรทัดที่ตรงงอแล้วหรือ ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิ แจงไม่ใช่เรื่องเสียหาย แค่แนะนำคนดี

"ศิริโชค"สงสัย"ปุ"เพิ่งโต้แย้ง


 นายศิริโชค โสภา ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) คนใกล้ชิดนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ที่เคยให้สัมภาษณ์เรื่องการซื้อขายตำแหน่งในการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจระดับรองผู้บังคับการ(รองผบก.)ลงมา แถลงที่ ปชป.เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน กรณี ร.ต.อ.ปุระชัย เปี่ยมสมบูรณ์ คณะกรรมการข้าราชการตำรวจ(ก.ตร.)ผู้ทรงคุณวุฒิ นำหลักฐานที่บอร์ดกลั่นกรอง และอนุ ก.ตร.ฝากการแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจสมัยพล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ  เป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) ขึ้นมาสอบถามที่ประชุม ก.ตร.ว่าเป็นการกระทำที่ผิดจริยธรรม หรือกฎก.ตร.หรือไม่ พร้อมเรียกร้องให้อนุ ก.ตร.ที่ฝากตำรวจลาออกจากอนุก.ตร.และก.ตร. ทำให้การประชุม ก.ตร.ล่ม เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายนที่ผ่านมาว่า การกระทำของร.ต.อ.ปุระชัย เป็นการแสดงให้เห็นตัวตนที่แท้จริงของ ร.ต.อ.ปุระชัย ว่าไม่เป็นไปตามที่สังคมได้คาดหวังไว้


 นายศิริโชค กล่าวว่า ช่วงการแต่งตั้งอนุ ก.ตร.สืบสวนการซื้อขายตำแหน่ง ทั้งร.ต.อ.ปุระชัย และพล.ต.อ.พัชรวาท ก็เป็นก.ตร. และเห็นชอบกับการตั้งอนุก.ตร.ให้ตรวจสอบการซื้อขายตำแหน่ง ถ้าเห็นว่าบุคคลเหล่านี้ไม่มีจริยธรรม ไม่มีความเหมาะสม แล้วทำไมวันนั้นถึงได้เห็นชอบแต่งตั้งกรรมการขึ้นมา ทั้งที่ข้อมูลต่างๆ ก็มีอยู่ในมือของบุคคลทั้ง 2 อยู่แล้ว ทำไมไม่โต้แย้งกันเสียตั้งแต่วันนั้น


ซัดรักพวกมากกว่าสถาบัน


 "เป็นไปได้หรือไม่ว่า บุคคลทั้งสองคาดหวังว่าอนุ ก.ตร.จะสามารถฟอกความผิดในเรื่องการซื้อขายตำแหน่งได้ แต่เมื่อผลสอบออกมาพบว่า มีหลักฐานเชื่อได้ว่ามีการซื้อขายตำแหน่งในปี 2551 จริง  ร.ต.อ.ปุระชัย อาจเป็นห่วงเพื่อนที่เป็นผู้ต้องสงสัยในกรณีนี้ จึงออกมาปกป้องเพื่อน ด้วยการพยายามทำลายความน่าเชื่อถือของอนุ ก.ตร.ชุดนี้ และผมมีสิทธิ์ตั้งข้อสังเกตว่าทำไมเพิ่งมาโยงกรรมการชุดนี้ ทั้งที่ตั้งมากับมือตัวเอง สิ่งที่เกิดขึ้นจึงไม่เหมาะสมกับการที่สังคมให้ความไว้วางใจ ร.ต.อ.ปุระชัย หรือว่าไม้บรรทัดที่ตรงได้งอไปเสียแล้ว


สำหรับผมความน่าเชื่อถือของ ร.ต.อ.ปุระชัย ไม่มีอีกต่อไปแล้ว เพราะถือว่ารักพวกพ้องมากว่าสถาบันตัวเอง"นายศิริโชค กล่าว และว่า การฝากฝังนายตำรวจ ไม่ใช่เรื่องเสียหาย สังคมไทยถือว่าเป็นเรื่องปกติ ซึ่งเป็นหน้าที่ของผู้ที่รับฝากจะต้องพิจารณาว่ามีความเหมาะสมหรือไม่ และที่บอกว่าเป็นการแทรกแซงกิจการตำรวจก็ต้องตีความว่าคำว่าแทรกแซงหมายถึงอะไร ถ้าคิดว่าไม่เหมาะสมก็ไม่ต้องตั้ง


 ผู้สื่อข่าวถามว่า เคยมีคนพาดพิงว่าคนใกล้ชิดนายกฯ ก็ฝากนายตำรวจเหมือนกัน นายศิริโชค กล่าวว่า เป็นการพูดลอยๆ ปราศจากหลักฐาน ใครก็พูดได้ แต่เกรงว่าสังคมจะถูกเบี่ยงเบนประเด็น เพราะการฝากไม่ใช่การซื้อขายตำแหน่ง ถ้าเห็นว่าไม่เหมาะสม ก.ตร. ก็ไม่ต้องตั้ง ดังนั้น ร.ต.อ.ปุระชัย ต้องแยกแยะระหว่างความเป็นเพื่อนกับหลักการ  เมื่อถามว่าอย่างนี้ ก.ตร.ที่ถูกเปิดเผยชื่อ ก็ไม่ต้องลาออกใช่หรือไม่ นายศิริโชค กล่าวว่า "ทำไมต้องฟัง ร.ต.อ.ปุระชัย คำพูดของคนคนเดียว สังคมคงจะไม่ให้ความเชื่อถือสักเท่าไหร่ เพราะความน่าเชื่อถือของ ร.ต.อ.ปุระชัย ไม่มีแล้วครับ"


 "สุเทพ"บ่นอุบโดนอยู่คนเดียว


 ด้านนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ด้านความมั่นคง ในฐานะประธาน ก.ตร.ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวทางโทรศัพท์ถึงสาเหตุที่การประชุม ก.ตร.ล่มเป็นครั้งที่ 3 โดยระบุเพียงสั้นๆว่า "อย่าเพิ่งให้ผมบอกอะไรไปตรงๆ เลย" เมื่อถามว่า จะนัดประชุม ก.ตร.อีกครั้งได้เมื่อไร นายสุเทพปฏิเสธที่จะตอบและตัดสายโทรศัพท์ทิ้งทันที


 ทั้งนี้ ระหว่างไปร่วมงานฉลองของน.ส.พิมพ์รำไพ พันธุ์วิชาติกุล บุตรสาวนายพิเชษฐ พันธุ์วิชาติกุล ส.ส.กระบี่ พรรคประชาธิปัตย์ กับนายณัฐพงษ์ หงส์ชวลิต ที่โรงแรมคอนราด กรุงเทพฯ ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามนายสุเทพ เรื่องปัญหาการประชุมก.ตร. แต่นายสุเทพ พยายามบ่ายเบี่ยง โดยกล่าวว่า "เอาไว้ให้พร้อมๆ กันดีกว่า" อย่างไรก็ตาม ระหว่างที่อยู่ในงานเลี้ยง นายสุเทพ ได้พูดคุยกับ พล.ต.อ.สันต์ ศรุตานนท์ อดีตผบ.ตร. โดยมีการพูดถึงการประชุมก.ตร.เมื่อวันที่ 6 พฤศจิายน ตอนหนึ่งว่า "ผมโดนอยู่คนเดียว เลยต้องรีบปิดประชุม"


ก.ตร.ชี้ฝากตำรวจไม่เสียหาย


 พล.ต.อ.บุญเพ็ญ บำเพ็ญบุญ ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิ หนึ่งในคณะกรรมการคัดเลือก หรือบอร์ดกลั่นกรอง กล่าวถึงกรณีที่ ร.ต.อ.ปุระชัย  ทวงถามจริยธรรมของคณะกรรมการคัดเลือกและก.ตร.ที่ฝากตำรวจ ว่าออกมาพูดแบบนี้ก็ไม่เป็นไร จะพูดอะไรก็ไม่มีใครถือสา เรื่องนี้ไม่มีปัญหาอะไรหรอก เป็นมุมหนึ่งที่มีคนอยากจะพูด


 "เรื่องการเสนอชื่อฝากฝัง ผมมองว่าไม่ใช่เรื่องเสียหายอะไรมากมาย เพราะเป็นลักษณะของการเสนอแนะคนที่เราเห็นว่าดี เหมาะสมเข้าดำรงตำแหน่ง และไม่ได้บังคับว่าเสนอไปแล้วต้องได้ แค่แนะนำขึ้นไปเท่านั้น เพราะคนเสนอชื่อก็ไม่มีอำนาจตัดสินใจอะไร"พล.ต.อ.บุญเพ็ญ กล่าว และว่า ส่วนเรื่องจริยธรรมนั้น ไม่ทราบว่าใครตัดสิน ใครกันเป็นคนชี้ผิดชี้ถูก เรื่องนี้ไม่มีอะไร


  เมื่อถามว่า มีการพูดว่าก.ตร.หมดความชอบธรรมแล้ว  พล.ต.อ.บุญเพ็ญ กล่าวว่า ตรงนี้ใครกำหนด  ยืนยันว่าเรื่องที่เกิดขึ้นไม่มีอะไร ก.ตร.ไม่มีความขัดแย้ง สามารถทำงานต่อไปได้ เมื่อก.ตร.บางคนข้องใจ ก็เสนอประเด็นขึ้นมาเท่านั้น หลังจากนี้การแต่งตั้งนายพลตำรวจจะสามารถดำเนินไปได้ เพราะเท่าที่ดูรายชื่อแต่งตั้งโยกย้ายที่ผ่านบอร์ดกลั่นกรองมาแล้วนั้น ก็ออกมาดูดี พิจารณากันตามความอาวุโส ประกอบกับความสามารถและความเหมาะสม


 "ผมต้องชื่นชมในความใจกว้างของนายสุเทพ ที่เปิดกว้างรับฟังความเห็นของก.ตร.ทุกๆคน ให้อิสระ และมีใจที่ยุติธรรมมากที่สุดคนหนึ่ง ซึ่งการประชุมก.ตร.ครั้งนี้นายสุเทพ ทำดีที่สุดแล้วที่รับฟัง และยุติการประชุมเมื่อเห็นว่าสถานการณ์มันไม่เหมาะสม ผมชื่นชมจริงๆ"พล.ต.อ.บุญเพ็ญ กล่าว


สัปดาห์หน้าหาข้อสรุป2ปม


 ด้าน พล.ต.อ.นพดล สมบูรณ์ทรัพย์ ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิ หนึ่งในอนุก.ตร.ตรวจสอบการซื้อขายตำแหน่งและบอร์ดกลั่นกรอง  กล่าวว่า จะไม่พูดอะไรมากถึงเรื่องนี้ หากออกมาตอบโต้กับไปมาจะเสียหายไปใหญ่ ตรงนี้รอให้มีการประชุมก.ตร.ครั้งหน้าเพื่อจัดการปัญหาเสียก่อนจึงจะออกมาพูดได้
"นายสุเทพบอกว่าเรื่องนี้ต้องจัดการโดยเร็ว ก.ตร.ต้องคุยกัน คาดว่าสัปดาห์หน้าจะมีการประชุมก.ตร.อีกครั้ง  โดยต้องหารือกัน 2 ประเด็น ที่มีการตั้งข้อสังเกตุเพื่อหาข้อยุติ คือ 1.เรื่องการตั้งคณะกรรมการคัดเลือกที่อ้างว่า สัดส่วนมากกว่า ก.ตร. 2. เรื่องการถามหาจริยธรรม  ตรงนี้ก.ตร.ก็ต้องหารือให้ยุติ เพราะเหรียญมี 2 ด้าน ขึ้นอยู่กับใครจะเลือกมองด้านไหน"พล.ต.อ.นพดล กล่าว


เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์