ศาลอาญา รับคำฟ้อง"โอ๋สืบ6" กล่าวหา ป.ป.ช.ปฏิบัติหน้าที่มิชอบ ศาลนัดไต่สวน 14 ธ.ค.นี้ ส่วน ส.ส.-สว.ร่วมยื่นฟ้อง ป.ป.ช.ต่อศาลแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ย้ำ ป.ป.ช.ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ตาม รัฐธรรมนูญ ม.249 ตั้งแต่ 16ก.ย.ที่ผ่านมา เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) รายงานข่าวแจ้งว่า พ.ต.อ.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรง หรือชื่อเดิม พ.ต.อ.ฤทธิรงค์ เทพจันดา หรือ"โอ๋ สืบ6" ได้ให้ทนายความยื่นฟ้องคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.).และคณะอนุกรรมการ ป.ป.ช. ประกอบไปด้วย
1. นายวิชา มหาคุณ กรรมการ ป.ป.ช.และประธานอนุไต่สวน
2. นายต่อตระกูล ยมนาค อนุไต่สวน
3. พล.ต.ต.ณพรรษ เย็นสุดใจ อนุไต่สวน
4. นายโกศล ขำศิริ อนุไต่สวน
5. นายณัฐวุฒิ ขมประเสริฐ อนุไต่สวน
ที่ศาลอาญารัชดา กทม. เมื่อวันที่ 21กันยายน2552ตามคดีเลขดำที่ อ.3403/2552 ลง21กันยายน 2552 ในข้อหาเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 83, 90,91และ157 และเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 31,125
รายงานข่าวแจ้งว่า ต่อมา เมื่อวันที่ 1ตุลาคม 2552 องค์คณะผู้พิพากษาศาลอาญา ได้มีคำสั่งรับคำฟ้องไว้ โดยนัดไต่สวนมูลฟ้องในวันที่ 14 ธันวาคม 2552 เวลา 0900 น.ที่ศาลอาญาและมีคำสั่งให้สำเนาหมายแจ้งให้จำเลยทั้ง 5 คนทราบ ซึ่งการฟ้องคณะกรรมการ ป.ป.ช.ในครั้งนี้ พ.ต.อ.ธนายุตม์ ให้เหตุผลว่า เนื่องจากไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการไต่สวนของคณะกรรมการ ป.ป.ช. และเพื่อเป็นการปกป้องเกียรติยศศักดิ์ศรีของตนเองและครอบครัว และเป็นการปกป้องศักดิ์ศรีของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตลอดจนปกป้องเกียรติยศศักดิ์ศรีของข้าราชการตำรวจในภาพรวมทั้งหมดที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการไต่สวนและชี้มูลของคณะกรรมการ ป.ป.ช.
รายงานข่าวแจ้งอีกว่า ในเรื่องเดียวกันนี้ สมาชิกสภาผู้แทนราษฏร จำนวน 1ใน 5 ตามที่รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2550 ได้ยื่นคำร้องต่อประธานวุฒิสภาเพื่อส่งเรื่องไปยังศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เพื่อไต่สวนดำเนินคดีอาญากับคณะกรรมการ ป.ป.ช.ในข้อหากระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่และกระทำผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ ราชการตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา 249 เมื่อวันที่ 16กันยายน 2552 ซึ่งต่อมาเมื่อวันที่ 25 กันยายน2552 ประธานวุฒิสภาได้ยื่นเรื่องส่งไปยังศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ดำเนินการไต่สวนดำเนินคดีอาญากับคณะกรรมการ ป.ป.ช.ทั้งคณะ
สำหรับ มาตรา 249 ของกฎหมายรัฐธรรมนูญ บัญญัติว่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา หรือสมาชิกทั้งสองสภา มีจำนวน 1ใน 5 ของจำนวนสมาชิกทั้งหมด เท่าที่มีอยู่ของทั้งสองสภามีสิทธิเข้าชื่อร้องขอต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของ ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช.ผู้ใดร่ำรวยผิดปกติ กระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่หรือกระทำความผิดต่อหน้าที่ราชการ ให้ยื่นต่อประธานวุฒิสภา เมื่อประธานวุฒิสภาได้รับคำร้องแล้วให้ส่งคำร้องดังกล่าวไปยังศาลฎีกาของผู้ ดำรงตำแหน่งทางการเมืองเพื่อพิจารณาพิพากษา กรรมการ ป.ป.ช.ผู้ถูกกล่าวหาจะปฏิบัติหน้าที่ระหว่างนั้นมิได้ จนกว่าจะมีคำพิพากษาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองได้ ยกคำร้องดังกล่าว