มั่นใจผู้พิพากษาไม่ทำคำตัดสินคดีกล้ายางรั่ว
วันนี้(25ก.ย.)ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ศาลยุติธรรม นายสราวุธ เบญจกุล รองเลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม กล่าวเชื่อมั่นในคำพิพากษาคดีทุจริตกล้ายางพารา พร้อมยืนยันว่า คำพิพากษาไม่ได้รั่วไหลออกมาจากองค์คณะผู้พิพากษาทั้ง 9 คน แต่สาเหตุที่นายวิรัช ลิ้มวิชัย ประธานศาลฎีกา สั่งตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ ก็เพื่อให้เกิดความโปร่งใสให้สังคมคลายความคลางแคลงใจ และให้เกิดความเชื่อมั่นในกระบวนการของศาล เพราะที่ผ่านมามีเสียงวิพากษ์วิจารณ์กันมาก โดยเชื่อว่าเป็นการคาดเดากันไปเอง ไม่ใช่เพราะมีผู้มาร้อง จึงต้องตั้งกรรมการสอบดังกล่าว
ส่วนคำพิพากษาจะมีการรั่วไหลจริงหรือไม่ตนไม่สามารถตอบได้ ต้องรอผลการสอบสวนข้อเท็จจริง ซึ่งประธานศาลฎีกาได้สั่งให้คณะกรรมการเร่งดำเนินการโดยเร็วที่สุด แต่ไม่ได้ขีดเส้นไว้กี่วัน พร้อมปฏิเสธที่จะเปิดเผยชื่อคณะกรรมการทั้ง 3คน ซึ่งเป็นผู้พิพากษาระดับสูง
นายสราวุธ ยังกล่าวปฏิเสธที่แสดงความคิดเห็นกรณีนายพิชา วิจิตรศิลป์ ประธานชมรมกฎหมายภิวัฒน์แห่งประเทศไทย ไปร้องคณะกรรมการป้องกันและปรามปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)ให้ตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินขององค์คณะผู้พิพากษาที่เกี่ยวข้องกับคดีกล้ายาง เพราะเป็นคนละส่วนกัน
ด้านนายพิชา วิจิตรศิลป์ ประธานชมรมกฎหมายภิวัฒน์แห่งประเทศไทย ได้มอบหลักฐานเพิ่มเติมต่อประธานศาลฎีกา กรณีบุคคลภายนอกทราบผลคำพิพากษาคดีทุจริตโครงการจัดซื้อกล้ายางพารา ก่อนที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองจะตัดสินคดี เมื่อวันที่ 21 ก.ย.ที่ผ่านมา ภายหลังประธานศาลฎีกามีคำสั่งแต่งตั้งผู้พิพากษาระดับสูง 3 คน เป็นคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ สำหรับหลักฐานที่ตนไปยื่นนั้น เป็นคำพูดของ นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่ทราบผลของคดีล่วงหน้าว่าจะมีการยกฟ้องทั้งหมด โดยเฉพาะนายเนวิน ชิดชอบ ด้วย มติ 8 ต่อ 1 ซึ่งตรงกับการเสนอข่าวของสื่อมวลชน ทั้งนี้ ส่วนตัวมองว่าเรื่องนี้จะต้องมีผู้รับผิดชอบ
นอกจากนี้ เมื่อช่วงบ่ายวานนี้ นายพิชา ยังได้เดินทางไปยื่นหนังสือต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช.เพื่อขอให้ตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน ขององค์คณะผู้พิพากษา และเจ้าหน้าที่ศาลที่เกี่ยวข้องกับคดีทุจริตกล้ายาง