นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี กล่าวเมื่อวันที่ 24 ก.ย.ถึงกรณีที่กลุ่มคนเสื้อแดงออกมาเปิดเผยว่า
รัฐบาลเปิดโอกาสให้ทางการกัมพูชาสร้างถนนในพื้นที่ทับซ้อนทางทะเล 4.6 ตารางกิโลเมตร ว่า การสร้างถนนในพื้นที่พิพาทเกิดขึ้นนานแล้ว มีถนนก่อนที่รัฐบาลจะเข้ามาบริหารอีก ถ้ากลุ่มคนเสื้อแดงออกมาโจมตีเรื่องนี้ ก็ระวังจะเข้าเนื้อตัวเอง เพราะพวกเสื้อแดงเคยเป็นรัฐบาลก่อนที่พวกตนจะเข้ามาเป็นรัฐบาล ทั้งนี้ กระทรวงการต่างประเทศเคยทักท้วงในเรื่องนี้ไปแล้ว มีหลักฐานเป็นเอกสารและหนังสือซึ่งมีการลงวันที่ชัดเจน เมื่อนายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กลับจากการปฏิบัติภารกิจในต่างประเทศ ตนจะชวนมาออกโทรทัศน์เพื่อชี้แจงกับประชาชน โดยเอาเอกสารมาแสดงทั้งหมด
"พอเราเข้ามาเป็นรัฐบาล เขาได้ปรับปรุงถนนบางส่วน เช่น มีการเทซีเมนต์ในพื้นที่ลาดชัน ซึ่งรัฐบาลไทยได้ประท้วงไปแล้ว เพราะไม่ถือว่าเป็นถนนของกัมพูชา ทหารไทยก็อยู่บนถนนนั้น ไม่ได้หมายความว่าจะมาแสดงความเป็นเจ้าของได้ เพราะพื้นที่ตรงนั้นยังเป็นพื้นที่ที่ต้องแก้ไขปัญหา โดยคณะกรรมการปักปันเขตแดนต้องพิสูจน์ว่าส่วนไหนเป็นของใคร" นายสุเทพ กล่าว
ส่วนกรณีที่สื่อมวลชนกัมพูชารายงานว่า
บริษัทเอกชนสัญชาติญี่ปุ่นที่ได้รับสัมปทานจากรัฐบาลกัมพูชาเริ่มเข้าไปขุดเจาะน้ำมันในพื้นที่ทับซ้อนทางทะเล 4.6 ตารางกิโลเมตรแล้ว นายสุเทพ กล่าวว่า เป็นเรื่องที่เกิดมานานแล้ว และยังต้องเกิดอีก เพราะทั้งไทยและกัมพูชาต่างอ้างว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นของตนเอง ฝ่ายไทยก็ให้สัมปทานบริษัทเอกชนไปหลายบริษัท ขณะนี้จึงไม่มีบริษัทไหนได้เข้าไปใช้ประโยชน์ในพื้นที่ดังกล่าว ทางที่ดีคือไทยกับกัมพูชาควรมานั่งปรึกษากันใหม่ พัฒนาพื้นที่ร่วมกัน และใช้ประโยชน์ร่วมกัน ส่วนจะแบ่งส่วนไหนเป็นของใคร ก็ให้คณะกรรมการปักปันเขตแดนดำเนินการ
"ถ้างานบางเบาลง ผมจะหาเวลาไปคุยกับผู้นำกัมพูชา (สมเด็จฮุนเซ็น นายกรัฐมนตรีกัมพูชา) เพื่อหาทางเจรจาในเรื่องนี้ ความจริงเคยเจรจาเรื่องนี้คุยกันไว้แล้ว แต่หยุดชะงักไป ก็ต้องหาทางคุยกันใหม่ ส่วนจะไปพบสมเด็จฮุนเซ็นได้ก่อนการประชุมอาเซียนระหว่างวันที่ 23-25 ตุลาคมหรือไม่ ต้องดูก่อน ถ้านายกฯ เห็นสมควร ผมก็จะไป" นายสุเทพกล่าว