เมื่อวันที่ 23 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานการปฏิบัติภารกิจของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ที่นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา
โดยนายกรัฐมนตรีได้เดินทางไปกล่าวสุนทรพจน์ที่มหาวิทยาลัยโคลัมเบีย ถึงปัญหาทางการเมืองและสถานการณ์ในประเทศไทยที่ยังคงปั่นป่วนมาตลอด นับแต่เกิดการยึดอำนาจเมื่อ 19 กันยายน 2549 ซึ่งแม้จะเกิดความวุ่นวายทางการเมืองอยู่บ้าง แต่ขณะนี้ประเทศไทยมีเสถียรภาพมากกว่าเดิม และตนกำลังจะหารือเรื่องข้อเสนอเกี่ยวกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญและการสร้างความปรองดองทางการเมือง กับผู้นำรัฐสภาและพรรคการเมืองต่างๆ ในประเทศ พร้อมทั้งกล่าวด้วยว่าความเห็นขัดแย้งทางการเมืองที่เกิดขึ้น ไม่ใช่เป็นสิ่งสะท้อนถึงความล้มเหลวในระบอบประชาธิปไตย แต่อย่างใด
วันเดียวกัน ที่ศูนย์แถลงข่าว ตึกนารีสโมสร ทำเนียบรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ด้วยระบบการประชุมทางไกลผ่านเครือข่ายอินเตอร์เน็ต จากสหรัฐ ว่า
ได้เข้าร่วมกิจกรรมของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ที่ได้มีการนัดให้พบกับนักลงทุนที่มีกิจการในประเทศไทยและมีแนวทางการขยายการลงทุนเพิ่ม หลังจากนั้นได้เดินทางไปบรรยายที่มหาวิทยาลัยโคลัมเบียในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับอนาคตของการเมืองและประชาธิปไตยไทยหลังวิกฤต หลังจากนั้นก็มาร่วมประชุมกับผู้ประกอบกิจการที่เกี่ยวข้องกับการจัดการประชุมสัมมนา ซึ่งมีแผนเดินทางมาจัดสัมนาที่ประเทศไทยก็จะเป็นการกระตุ้นในเรื่องการท่องเที่ยว และได้พบกับชุมชนไทยที่สหรัฐ
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า
สำหรับการพบปะกับนักลงทุนสหรัฐฯ และผู้จัดนิทรรศการและการประชุมนั้น เห็นได้ชัดว่าคนเหล่านี้มีความประทับใจประเทศไทยเป็นพื้นฐาน และหลายคนก็มีประสบการณ์มีความสัมพันธ์เคยเข้ามาลงทุนหรือจัดกิจกรรมต่างๆในประเทศไทยแล้ว ส่วนใหญ่ไปในทางบวก มีการสอบถามแนวนโยบายของรัฐบาล ซึ่งนักลงทุนให้การสนับสนุนปฏิบัติการไทยเข้มแข็งเพราะเห็นว่าจะเป็นการขยายโอกาส ความสามารถในการแข่งขันและเอื้อให้ธุรกิจของเขามีต้นทุนที่ต่ำลง รวมทั้งเป็นการเพิ่มศักยภาพของสาขา เช่น การเกษตรและการบริการ ในส่วนของนักลงทุนก็มีบางบริษัทที่ยังมีปัญหากับกรมจัดเก็บภาษีก็มีการอธิบายว่าเรามีกระบวนการที่จะคลี่คลายปัญหาอย่างไร และในอนาคตที่เราจะมีการจัดตั้งศูนย์บริการจุดเดียวก็จะทำให้ความสับสนลดลงไป
ต่อข้อถามถึงการตั้งข้อสังเกตที่ประชุมครม.วันที่ 22 ก.ย. ที่นายกฯไม่อยู่ ได้มีการอนุมัติงบกว่า 1 หมื่นล้านบาทให้กระทรวงกลาโหม จัดซื้ออาวุธและยุทธภัณฑ์จำนวนหลายรายการผิดปกติหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าว ว่า
จำไม่ผิดเป็นเรื่องงบผูกพันและการเงินเหลื่อมปี ซึ่งความจริงสิ่งที่เราขอไว้คือ ทุกปีก่อนหน้านี้มักจะเข้ามาเป็นวาระจร แต่ครั้งนี้ตนขอให้ส่งมาก่อน จำได้ว่าสัปดาห์ที่แล้วได้ดูที่กระทรวงกลาโหมเสนอมา แต่ส่งมาไม่ทันเพราะกระทรวงอื่นส่งมาก่อน ตนเลยเซ็นเข้าไปเป็นวาระปกติในสัปดาห์นี้ได้ ผู้สื่อข่าวถามว่า เป็นการตอบแทนกองทัพที่ดูแลรัฐบาลในช่วงเวลาที่ผ่านมาหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า เป็นโครงการซึ่งอนุมัติมาก่อนแล้ว เป็นเรื่องการผูกพันข้ามปีไปเท่านั้นเอง