จับตาอหังการภูมิใจไทย

คมชัดลึก : "สำหรับตัวผมเอง นับจากวันนี้ไป ก็คงเหลือเรื่องเดียว จะทำทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์จนกว่าจะสิ้นลมหายใจ"

น้ำเสียงปนสะอื้นของ "เนวิน  ชิดชอบ" ภายหลังรู้ผลพิพากษาในคดีทุจริตกล้ายาง กลายเป็นจุดพลิกผันก้าวสำคัญให้แก่เส้นทางการเมืองของเขาในทันที


เพราะเท่ากับว่า "คดีอาญา" ที่มีตัวเขาเป็นจำเลยหลักนั้นหลุดไปเรียบร้อยแล้ว


ถึงแม้ยังมีคดีหวยบนดินที่รออ่านคำพิพากษาในวันที่ 30 กันยายนนี้ อยู่อีกคดี แต่เมื่อเทียบน้ำหนักของคดีแล้ว เรียกได้ว่าน้ำหนักในคดีหวยบนดินที่จะกระทบต่อตัว "เนวิน" นั้นมีน้อยกว่าคดีกล้ายางมาก


ดังนั้นไฮไลท์ของ "เนวิน" จึงอยู่ที่การรอดคุกจากคดีกล้ายางเป็นหลัก !


นับจากนี้ก็เป็นเรื่องของจังหวะก้าวทางการเมืองของคนชื่อ เนวินซึ่งต้องจับตามองว่าเขาจะเดินเกมทางการเมืองและวางอนาคตทางการเมืองไว้อย่างไรต่อไป


เพราะแน่นอนว่าเหลือเวลาอีกราว 2 ปีเศษ วิบากกรรมจากการถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง 5 ปี จากคดียุบพรรคไทยรักไทยก็จะจบสิ้น
ถึงตอนนั้น "เนวิน" ก็คงผลักดันตัวเองให้ออกมายืนผงาดบนสนามการเมืองได้เหมือนเดิม


แต่กว่าจะถึงวันนั้น "เนวิน" จำเป็นต้องอาศัยเวลาบ่มเพาะความแกร่งกล้าให้พรรคภูมิใจไทย เพื่อเบียดแทรกในสนามเลือกตั้งอีสานจากพรรคเพื่อไทยให้ได้


ฉะนั้นจึงไม่แปลกที่จะได้ยินมือขวาคนสนิท โสภณ ซารัมย์ รมว.คมนาคม พูดอย่างโล่งอก หมดห่วง


"ผลการตัดสินคดีทำให้พรรคมีกำลังใจทำงาน เพราะแกนนำของพรรคไม่มีปัญหาแล้ว คนที่มีเรื่องแบบนี้อยู่ก็มีความกังวลใจ แต่พอหลุดพ้นคดีแล้ว ก็ถือว่าเป็นผลดีสำหรับพรรค และทำให้พรรคทำงานได้ง่ายขึ้น มีความเข้มแข็งขึ้น เมื่อพรรคภูมิใจไทยเข้มแข็งขึ้น รัฐบาลก็เข้มแข็งขึ้น เรื่องต่อรองไม่มี เพียงแต่จะทำให้การสร้างพรรคของเรามีความมั่นคงยิ่งขึ้น"


เช่นเดียวกับ "ปู่จิ้น" ชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย ที่ซูฮก "เนวิน" เป็นอาจารย์ใหญ่ ก็หมดกังวลในทันทีที่ปรึกษาทางการเมืองของเขาหลุดคดี


แน่นอนว่า "เนวิน" วางแผนที่จะปูทางการเมืองของตัวเองผ่านพรรคภูมิใจไทยอย่างเป็นมั่นเป็นเหมาะ ภายหลังตัดสินใจตีจาก "นายใหญ่" เมื่อปลายปีก่อน


"เนวิน" มุ่งมั่นปั้นพรรคโดยอาศัยการสนับสนุนจากกองทัพ พร้อมกับเกาะกระแสปกป้องสถาบัน บวกกับฐานนายทุนใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นจากกลุ่มซิ-โนไทย หรือกลุ่มคิงเพาเวอร์


ทำให้พรรคภูมิใจไทยของ "เนวิน" เป็นพรรคที่พร้อมด้วยปัจจัยในการสู้ศึกเลือกตั้งในครั้งหน้าได้อย่างไม่สะทกสะท้าน


กระนั้นก็ต้องยอมรับว่า การทุ่มกระสุนดินดำและอำนาจรัฐ ก็ไม่ใช่ปัจจัยที่จะทำให้พรรคภูมิใจไทยเดินตามเป้าหมายได้อย่างประสบความสำเร็จ


เพราะผลจากการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.สกลนคร ที่ผ่านมา เป็นตัวสะท้อนที่ชัดเจนว่ายังมี "ปัจจัยภายนอก" ที่พรรคภูมิใจไทย และ เนวินไม่สามารถควบคุมได้รออยู่


แต่นับจากวันนี้ ด้วยอำนาจต่อรองทางการเมืองที่เพิ่มขึ้นของ "เนวิน" จะทำให้เขาทำทุกวิถีทางเพื่อช่วงชิงพื้นที่ทางการเมืองคืน


โดยเฉพาะจากพรรคประชาธิปัตย์ ในประเด็นเรื่องงบประมาณ และการอนุมัติโครงการต่างๆ ลงพื้นที่ ส.ส. ซึ่ง "เนวิน" ได้ดำเนินการนำร่องมาก่อนแล้วด้วยการแจกงบท้องถิ่นให้แก่ ส.ส.และ ส.ต.
ว่ากันตามจริง "เนวิน" ย่อมรู้อยู่แก่ใจว่าพันธมิตรทางการเมืองของตัวเขาเองนั้นมีไม่มากนัก ด้วยเหตุเพราะ "อหังการ" ของตัวเขาเองที่พยายามตักตวงผลประโยชน์ทางการเมืองให้แก่พรรคภูมิใจไทยเกินหน้าเกินตาพรรคร่วมรัฐบาลอื่น


ไม่นับศัตรูทางการเมืองอย่าง "พรรคเพื่อไทย" และ "นายใหญ่" ที่ประกาศผีไม่เผา เงาไม่เหยียบ จึงทำให้เส้นทางการเมืองของ "เนวิน" ถูกบีบในทุกๆ ด้าน


ดังนั้นหนทางที่ "เนวิน" ต้องเลือก ก็คือความพยายามสร้างภูมิคุ้มกันให้ตัวเองในทุกวิถีทาง เพื่อให้ได้คะแนนเสียงเลือกตั้งมาเป็น "ที่สาม" ให้ได้ในการเลือกตั้งสมัยหน้า


นั่นเพราะ "เนวิน" รู้ดีว่า โอกาสที่พรรคเพื่อไทย หรือประชาธิปัตย์ ไม่ว่าใครจะได้เป็นแกนนำรัฐบาล โอกาสที่พรรคภูมิใจไทยจะถูกเลือกแทบจะเป็นอันดับสุดท้าย


เว้นเสียแต่ว่าพรรคภูมิใจไทยได้คะแนนมาเป็นอันดับ 3 ถึงจะได้สิทธิ์ในการเป็นตัวแปรที่ทรงประสิทธิภาพ !


ถ้าบวกกับฝ่ายรัฐบาล ก็ทำให้ได้เสียงที่มีเสถียรภาพ


ถ้าบวกกับฝ่ายค้าน ก็เป็นฝ่ายค้านที่ทรงพลัง


ฉะนั้น...นี่จึงเป็นเหตุผลว่า ทำไม เนวินถึงได้ปลุกปั้นพรรคภูมิใจไทยในทุกวิถีทางให้ผงาดขึ้นมาให้ได้


ที่สำคัญ "เนวิน" ได้มองข้ามช็อตไปไกลถึงการจับวางอนาคตของตัวเองภายหลังจากหลุดวิบากกรรมจากการถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองไว้แล้ว


หากประจวบเหมาะกับอายุรัฐบาลชุดใหม่ ที่คาดว่าจะได้รับเลือกตั้งเข้ามาปีหน้า


เวลาดีของ "เนวิน" ก็อยู่อีกไม่ใกล้ไม่ไกล !!!



เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์