อดีต รมว.ไอซีที หมอเลี้ยบ เบิกความคดียึดทรัพย์ 'ทักษิณ' ยืนยันการออก พ.ร.ก.แปลงส่วนแบ่งรายได้เป็นภาษีสรรพสามิตโทรคมนาคม สมัยรัฐบาลทักษิณไม่ขัด รธน...
เมื่อเวลา 09.30 น. วันนี้ ( 22 ก.ย.) ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นายสมศักดิ์ เนตรมัย ผู้พิพากษาอาวุโสในศาลฎีกา เจ้าของสำนวน พร้อมองค์คณะผู้พิพากษา 9 คน นัดไต่สวนพยานในคดีที่อัยการสูงสุด ร้องขอให้ศาลมีคำสั่งยึดทรัพย์ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ผู้ถูกกล่าวหาและ ครอบครัว จำนวน 76,000 ล้านบาท ตกเป็นของแผ่นดิน เนื่องจาก พ.ต.ท.ทักษิณ มีพฤติกรรมร่ำรวยผิดปกติ โดยขณะดำรงตำแหน่งใช้อำนาจหน้าที่เอื้อประโยชน์ต่อตนเองและผู้อื่น
นัดนี้ทนายความผู้ถูกกล่าวหา นำ นายแพทย์สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี อดีตรองนายกรัฐมนตรีและอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศ และการสื่อสาร (ไอซีที) ในสมัยรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ขึ้นเบิกความสรุปว่า การออก พ.ร.ก. แปลงส่วนแบ่งรายได้เป็นภาษีสรรพสามิต และ ให้จัดเก็บภาษีสรรพสามิต จากส่วนแบ่งรายได้ของกิจการโทรคมนาคม ในสมัยรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ นั้น ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลรัฐธรรมนูญ ได้มีคำวินิจฉัยแล้วว่า เป็นเรื่องจำเป็นเร่งด่วน เพื่อรักษาความมั่นคงทางเศรษฐกิจ
อีกทั้งการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตดังกล่าว ทำให้กระทรวงการคลัง มีรายได้เพิ่มขึ้นกว่า 30,000 ล้านบาท การจัดเก็บภาษีไม่ใช่การแปรสัญญาร่วมการงานรัฐวิสาหกิจ และไม่ใช่การกีดกันผู้ประกอบการรายใหม่ หรือ เอื้อประโยชน์ในธุรกิจของ พ.ต.ท.ทักษิณ นอกจากนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่เคยเข้ามาเกี่ยวข้องกับการอนุมัติจัดหาดาวเทียมใหม่แทนดาวเทียมไทยคมที่เสียอยู่แต่อย่างใด