"เขาวิหาร"เดือด ม็อบพันธมิตรฯ นำโดย"วีระ สมความคิด" ตะลุยฝ่าด่านตร.เข้าไปเปิดฉากปะทะกับชาวบ้าน"ภูมิซรอล" ตะลุมบอนกันด้วยอาวุธสารพัดนานร่วมครึ่งชั่วโมง
ก่อนชาวบ้านเจ้าถิ่นที่กำลังน้อยกว่าต้องล่าถอย แล้วดักซุ่มยิงหนังสติ๊กใส่รถที่เคลื่อนขบวนผ่านแทน ผลบาดเจ็บถึงหามส่งร.พ. 5 ราย เผยม็อบเข้าไปไม่ถึงผามออีแดง เพราะเจอด่านตร.-ทหารแน่นหนา 3 ชั้น ไม่อนุญาตเด็ดขาด หวั่นเกิดอันตรายจากฝ่ายทหารเขมร จนแกนนำม็อบต้องสั่งถอย แล้วจะส่งแค่ตัวแทนกลับมาในวันรุ่งขึ้นเพื่อขึ้นไปอ่านแถลงการณ์ทวงคืนเขาพระวิหาร ฝ่ายโฆษกทหารระบุมีคนถูกยิงเจ็บ 2 ราย มั่นใจตอนตัวแทนพันธมิตรฯกลับมาใหม่ จะไม่มีปัญหาซ้ำ
พธม.ปะทะชาวบ้าน ตี-ยิงเละ อดสู-ทวงเขาวิหาร
ที่ไม่พอใจการทวงเขาพระวิหารเกรงจะเป็นสงครามระหว่างชาติ
จนบาดเจ็บจำนวนมาก ถูกยิงสาหัส 1 ราย
เก็บปืนชรบ.ก่อนพธม.บุก
เมื่อเวลา 00.30 น. วันที่ 19 ก.ย. ที่หน้าที่ว่าการอ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ นายประวัติ รัฐิรมย์ รองผวจ.ศรีสะเกษ เป็นประธานในพิธีรับมอบอาวุธปืน 150 กระบอก คืนจากชุดรักษาความสงบเรียบร้อยภายในหมู่บ้านจากชาวบ้าน 13 หมู่บ้านในเขตต.เสาธงชัย อ.กันทร ลักษ์ ซึ่งนายประวัติ กล่าวว่า อาวุธปืนเหล่านี้ทางราชการได้แจกจ่ายให้กับประชาชนที่เป็นชุดชรบ. แต่เพื่อเป็นการแสดงถึงเจตนารมณ์ของ จ.ศรีสะเกษ ในการที่จะรักษาความสงบเรียบ ร้อยในการชุมนุมประท้วงของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จึงได้เรียกคืนอาวุธปืนคืน และนำไปเก็บเอาไว้ที่ที่ว่าการ อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ หลังจากเหตุการณ์ชุมนุมประท้วงของกลุ่มพันธมิตรฯยุติลงแล้ว จะได้นำกลับมามอบให้กับชุดชรบ.ใช้ในการปฏิบัติหน้าที่เช่นเดิมต่อไป
ต่อมาเวลา 08.00 น. ที่บริเวณศาลหลักเมืองกันทรลักษ์ อ.กันทรลักษ์ กลุ่มเครือข่ายประชา ชน จ.นครราชสีมา จำนวนประมาณ 300 คน นำโดยนายประภาส โงกสูงเนิน ประธานเครือข่ายประชาชน จ.นครราชสีมา มาชุมนุม รอสม ทบกับกลุ่มพันธมิตรฯ ที่จะเคลื่อนขบวนทวงคืนเขาพระวิหาร ขณะเดียวกัน ที่หน้าสภ.กันทร ลักษ์ ได้มีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจากหลายจังหวัดในเขตตำรวจภูธรภาค 3 มารวมกำลังกันจำนวนประมาณ 500 นาย เพื่อรับฟังนโยบายในการปฏิบัติงานจากพล.ต.ต.อำนวย มหาผล รองผบช.ภาค 3 และพล.ต.ต.สมพงษ์ ทองวีระประเสริฐ ผบก.ภ.จว.ศรีสะเกษ โดยพล.ต.ต. อำนวย กล่าวว่า ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนายปฏิบัติหน้าที่ในครั้งนี้ตามกรอบกฎหมายโดยเคร่งครัด ห้ามไม่ให้พกพาอาวุธปืนและกระบองอย่างเด็ดขาด จะใช้วิธีการเจรจาเป็นหลัก รวมทั้งจะควบคุมไม่ให้เกิดการกระทบกระทั่งกัน ระหว่างผู้ที่มาชุมนุมประท้วงและกลุ่มผู้คัดค้าน
ม็อบเคลื่อน-เทือกบ่นเป็นห่วง
เวลา 09.15 น. กลุ่มพันธมิตรฯเคลื่อนขบวนออกจากสำนักศีรษะอโศก โดยมีการ์ดนำขบวนไปช้าๆ มุ่งหน้าไปยังอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร โดยมีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจคอยรักษาความสงบเรียบร้อยอย่างเข้มงวด
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (ศอ.รส.) ให้สัมภาษณ์ถึงเหตุการณ์การชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯว่า ยอมรับว่าเป็นห่วงการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ ที่พยายามเข้าไปชุมนุมที่ผา มออีแดง บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านปราสาทพระวิหาร จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้พยายามสกัดไม่ให้ขึ้นไปบริเวณดังกล่าวแล้ว แต่รู้สึกกังวลเรื่องนี้มาก เนื่องจากมีชาวบ้านในพื้นที่ออกมาต่อต้าน จึงเกรงจะเกิดการปะทะกันขึ้น แม้การเจรจาจะยากลำบาก แต่ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่พยายามดำเนินการอย่างต่อเนื่องแล้ว
"ในหลักการได้ย้ำกับเจ้าหน้าที่ให้ปฏิบัติต่อประชาชนอย่างละมุนละม่อม โดยยึดเป้าหมายหลัก คือการดูแลความปลอดภัยให้กลุ่มผู้ชุมนุมและไม่อนุญาตให้ขึ้นไปบนพื้นที่ที่เป็นปัญหา เพราะกลัวความไม่ปลอดภัยของผู้ชุมนุม และสุ่มเสี่ยงต่อการปะทะกับทหารกัมพูชา ซึ่งกัมพูชาเข้าใจสถานการณ์ที่เกิดขึ้นดี เพราะกัมพูชาเองก็มีเหตุการณ์ชุมนุมเช่นกัน" นายสุเทพ กล่าว
เพื่อจะบุกขึ้นไปที่ผามออีแดง สุดท้ายไปติดด่านของทหาร
ซึ่งห้ามเข้าเด็ดขาดถือเป็นพื้นที่ประกาศกฎอัยการศึก
มาร์คกังวลมากกว่าม็อบแดง
เวลา 12.00 น. ที่ศูนย์สร้างสรรค์งานออก แบบ หรือ ทีซีดีซี ศูนย์การค้าดิเอ็มโพเรียม นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ว่า ตนเป็นห่วงที่จ.ศรีสะเกษ กังวลว่าจะมีการปะทะกันระหว่างประชาชนด้วยกันเอง ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังดูแลอยู่ และตนได้มอบให้นายสุเทพไปดูว่า จะเสริมกำลังเข้าไปเพื่อไม่ให้มีประชาชน 2 กลุ่มมาเผชิญหน้ากัน ในส่วนของฝ่ายประเทศกัมพูชาไม่เป็นไร เพราะมีการพูดคุยประสานในหลายทางแล้วว่าเป็นเรื่องของประชาชน ที่ต้องการแสดงออก
ผู้สื่อข่าวถามว่าแสดงว่านายกฯ เป็นห่วงสถานการณ์ที่จ.ศรีสะเกษ มากกว่าในกรุงเทพฯ นายกฯ กล่าวว่า ขณะนี้ที่นั่นมีคนชุมนุมเป็นจำนวนมาก กำลังให้ติดตามดูแลอยู่ ส่วนในกทม.ต้องรอติดตามดูสถานการณ์ในช่วงบ่ายและค่ำ เมื่อถามว่านายกฯจะสั่งการให้มีการสกัดกั้นการเดินทางขึ้นไปบนเขาพระวิหารหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่ต้องการให้ขึ้นไปเพราะอย่าลืมว่าเมื่อเดือน ก.ค.2551 ก็เกิดเหตุ การณ์ และเมื่อเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา ก็มีเหตุ การณ์ จึงไม่ต้องการให้เกิดเหตุใดๆ ขึ้น และได้พยายามทำในส่วนของคนที่จะไป ซึ่งเขาให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ส่วนคนที่ตัดสินใจ ไปถือเป็นสิทธิ์ของเขา ตนเข้าใจว่าหลายคน พยายามประสานกับอีกหลายคนที่ออกมาเคลื่อน ไหว แต่กลุ่มที่ไปก็ยืนยันว่าเขาจะต้องไป
ผู้สื่อข่าวถามว่านายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ ได้เจรจากับกลุ่มคนเหล่านั้นหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า นายกษิตไม่อยู่ แต่เชื่อว่านาย กษิตได้ประสานงานไปแล้วก่อนหน้านี้เพื่อทำ ความเข้าใจ โดยเฉพาะในเรื่องนโยบาย เพราะเกี่ยวข้องกับกระทรวงการต่างประเทศโดยตรง
ผบ.ทบ.เตือนรักชาติได้-แต่อย่าบุก
พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. ให้สัม ภาษณ์ผ่านรายการ"ลับลวงพราง"ทางสถานีวิทยุเอฟเอ็ม 100.5 ถึงกรณีผู้ชุมนุมกลุ่มพันธมิตรฯจะขึ้นไปเรียกร้องอธิปไตยในเขตพื้นที่ 4.6 ตารางกิโลเมตร บริเวณปราสาทเขาพระวิหารว่า เราปฏิบัติงานตามแนวทาง กรอบของรัฐบาล ซึ่งรัฐบาลจะใช้แนวทางเจรจาแบบทวิภาคี โดยขณะนี้อยู่ในขั้นดำเนินการเพื่อแก้ปัญหา ซึ่งจะไม่มีการใช้แนวทางนอกเหนือจากนี้ แต่การที่ขึ้นไปเรียกร้อง หากทำให้เหตุการณ์ดีขึ้นคงไม่เป็นไร แต่หากทำให้สถานการณ์ไม่ดีขึ้น
"อยากเรียนว่า รักชาติได้ แต่อย่าเข้าไปในพื้นที่ เพราะอันตรายจะเกิดขึ้น และหากท่านแอบไปในพื้นที่ที่ยังไม่ได้ตรวจค้นกับระเบิดจะเป็นอันตรายต่อตนเอง ซึ่งแนวที่ยันกันอยู่ หากเขาเข้ามาเราก็ต้องจับ เช่นเดียวกัน หากเราข้ามไปแล้วเขาคงต้องจับ แล้วคงต้องไปแก้ปัญหากัน และเขาจะแจ้งว่า เราไปบุกรุกพื้นที่ของเขา ซึ่งถ้าเราไม่ยอมรับเขาคงไม่ปล่อย แต่ถ้าเรายอมรับว่า รุกล้ำเข้าไปก็เท่ากับว่าเรายอมรับ จึงไม่เกิดสิ่งดี" พล.อ.อนุพงษ์กล่าว
เมื่อถามว่าในทางทหารยังถือว่าพื้นที่ตรงนั้นยังเป็นพื้นที่ของไทยใช่หรือไม่ พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า คนไทยถือว่า เป็นพื้นที่ของเรา แต่เหตุการณ์เกิดขึ้นมา 10 กว่าปีแล้วที่เขาเข้ามาแล้วเกิดปัญหา ซึ่งหลังจากมีการรุกล้ำเข้ามาและมีการประท้วงกันไป และปี 2543 ตกลงกันว่า จะมีการปักปันเขตแดน และให้ทุกคนหยุดนิ่ง อย่าไปดัดแปลง ปรับปรุงอะไร ซึ่งจะทำให้ยากที่จะพิสูจน์ได้ว่า เป็นพื้นที่ของใคร และจากนั้นจึงได้มีการประท้วงกัน
พธม.เผชิญหน้าชาวภูมิซรอล
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ม็อบพันธมิตรฯ มีนายวีระ สมความคิด เป็นแกนนำ เคลื่อนขบวนด้วยรถยนต์ประมาณ 600 คัน เป็นขบวนยาวเหยียดนับ 10 ก.ม. เมื่อมาถึงหน้าโรงเรียนบ้านภูมิซรอล ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ ในเวลา 10.00 น. ก็เจอเข้ากับด่านตำรวจที่มีเจ้าหน้าที่อยู่ประมาณ 2 พันนาย ซึ่งตัวแทนจากม็อบพยายามเจรจาจะขอผ่านขึ้นไป แต่ตำรวจไม่อนุญาต เนื่องจากเกรงจะไปปะทะกับชาวบ้านภูมิซรอล ที่ชุมนุมต่อต้านอยู่หน้าวัดบ้านภูมิซรอล ห่างออกไปแค่ 100 เมตรเท่านั้น โดยชาวบ้านนำโดยนายวีระยุทธ ดวงแก้ว กำนัน ต.เสาธงชัย พูดผ่านเครื่องขยายเสียงโจมตีกลุ่มพันธมิตรฯว่าเข้ามาสร้างความวุ่นวายในพื้นที่ และขอให้กลับไป แต่ม็อบพันธมิตรฯไม่สนใจ ทั้งยังกางธงชาติขนาดใหญ่ 6 คูณ 15 เมตร มากางเต็มถนน โดยมีด่านตำรวจกั้นอยู่ตรงกลางทั้งสองฝ่าย
ต่อมาเวลา 11.30 น. นายระพี ผ่องบุพกิจ ผวจ.ศรีสะเกษ และคณะ เข้าไปเจรจากับกลุ่มชาวบ้าน ขอให้ชาวบ้านเปิดทางให้กลุ่มพันธ มิตรฯ เข้าไปบริเวณด่านเก็บค่าธรรมเนียมอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร เพื่อให้กลุ่มพันธมิตรฯส่งตัวแทนขึ้นไปบนอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร แต่ชาวบ้านไม่ยอม บรรยากาศเต็มไปด้วยความตึงเครียด
ตะลุมบอนกัน-หามส่งร.พ.5ราย
กระทั่งเวลา 13.15 น. การ์ดพันธมิตรฯรวมตัวกัน แล้วเริ่มลุยผลักดันตำรวจที่ตั้งด่านอยู่ จนสามารถผ่านไปได้ จากนั้นก็เข้าปะทะกับกลุ่มชาวบ้านภูมิซรอลที่รวมตัวกันอยู่ประมาณ 3,000 คน มีการใช้ไม้ กระบอง ก้อนอิฐ ก้อนหิน รวมทั้งหนังสติ๊ก เข้าตะลุมบอนกันอย่างดุเดือด ท่ามกลางเสียงประทัดยักษ์และระเบิดปิงปองที่ดังเป็นระยะ ขณะที่ตำรวจก็พยายามเข้าไปห้ามปรามทั้งสองฝ่าย แต่ห้ามไม่อยู่ ผลจากการปะทะกัน ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายสิบรายด้วยกัน แต่ที่เจ็บหนักถึงขั้นต้องนำส่งร.พ.กันทรลักษ์ มีจำนวน 5 รายด้วยกัน คือ 1.นายพงษ์ศักดิ์ ฤทธิชัยกุล อายุ 44 ปี ชาว อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา ถูกยิงด้วยหนังสติ๊กที่ตาขวา เลือดออกบริเวณนัยน์ตา 2.น.ส. สุวนันท์ คำจันทร์ดี อายุ 15 ปี เป็นชาวจ.อุดร ธานี ปวดท้องอย่างรุนแรง 3.น.ส.รัชตวรรณ เมธาสุธารัตน์ อายุ 31 ปี มาจากเขตยานนาวา กรุงเทพฯ เป็นลมหน้ามืด 4.นายประเสริฐ ผิวขาว อายุ 21 ปี ชาวบ้านบึงมะลู ถูกยิงด้วยหนังสติ๊กหัวนอตที่บริเวณคางด้านซ้าย ฟันหัก 3 ซี่ 5.นายสุทธิชัย แก้มแกมจันทร์ อายุ 35 ปี ถูกยิงด้วยปืนแก๊ปที่บริเวณขาข้างขวา ทั้งหมดได้รับการรักษาจนอาการปลอดภัยหมดแล้ว
เจอ3ด่านชั้นในกัก-ไปต่อไม่ได้
ต่อมาเวลา 13.45 น. กลุ่มพันธมิตรฯ ก็ตีตะลุยฝ่าด่านชาวบ้านเข้าไปได้ แต่ระหว่างรถเคลื่อนขบวนไป ชาวบ้านที่รวมตัวกันอยู่ภายในวัดบ้านภูมิซรอล ก็ใช้หนังสติ๊ก ก้อนอิฐ ก้อนหิน ถล่มใส่รถจนได้รับความเสียหายหลายสิบคันด้วยกัน โดยกระจกข้างและหน้ารถถูกยิงด้วยหนังสติ๊กจนแตก ส่วนตัวถังข้างรถถูกก้อนหินทุบบุบ ฝ่ายการ์ดพันธมิตรฯ ก็ตอบโต้ใช้ก้อนหินและหนังสติ๊กยิงใส่กลุ่มชาวบ้านเช่นกัน
เวลา 15.00 น. กลุ่มพันธมิตรฯ เคลื่อนไปถึงที่บริเวณหน้าสถานีควบคุมไฟป่า ห่างจากด่านเก็บค่าธรรมเนียมอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร ประมาณ 500 เมตร แต่ไม่สามารถคืบหน้าได้อีกต่อไป เพราะมีด่านสกัดกั้นอยู่ถึง 3 ด่าน ด่านแรกเป็นด่านของตำรวจ จำนวนประ มาณ 500 นาย ด่านที่ 2 เป็นด่านทหาร จำนวนประมาณ 100 นาย และด่านที่ 3 เป็นด่านทหารประมาณ 400 นาย โดยไม่ยอมให้กลุ่มพันธมิตรฯ ผ่านขึ้นไปยังอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหารอย่างเด็ดขาด แม้นายวีระพยายามเจรจา แต่ว่าไม่เป็นผล
มาร์คสั่งให้เร่งเจรจาพันธมิตรฯ
ทางด้านนายอภิสิทธิ์ ให้สัมภาษณ์อีกครั้งภายหลังรับทราบการปะทะกันของม็อบพันธมิตรฯกับชาวบ้านภูมิซรอลว่า ได้รับทราบแล้ว และกำลังให้ทั้งตำรวจและทหารเจรจาอยู่ ให้ตัวแทนขึ้นไปอ่านแถลงการณ์แล้วก็กลับ
เวลา 15.00 น. ที่กองบัญชาการกองทัพบก นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว. กลาโหม พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เสนาธิการทหารบก พล.ท.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ ผู้ช่วยเสนาธิการทหารบกฝ่ายยุทธการ และเจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมประชุมสรุปการทำงานของศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (ศอ.รส.) และประเมินสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในที่ประชุมยังได้มีการประเมินสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ ที่เดินทางไปประท้วงให้ทหารในพื้นที่กองทัพภาคที่ 2 ผลักดันชาวบ้าน และทหารกัมพูชา ออกนอกพื้นที่ทับซ้อน 4.6 ตารางกิโลเมตร รวมถึงหาแนวทางป้องกันเหตุการณ์ปะทะกันของกลุ่มพันธมิตรฯกับชาวศรีสะเกษ โดยเฉพาะกรณีที่นายอภิสิทธิ์สั่งการให้มีการเจรจากับกลุ่มพันธมิตรฯ เพื่อป้องกันเหตุบานปลาย ซึ่งเบื้องต้นพล.อ.อนุพงษ์ ได้สั่งการให้พล.ท.วิบูลย์ศักดิ์ หนีพาล แม่ทัพภาคที่ 2 ส่งพล.ต.ชวลิต ชุนประสาร ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี ไปเจรจากับกลุ่มพันธมิตรฯเรียบ ร้อยแล้ว
แม่ทัพ2หวั่นอันตรายกับระเบิด
พล.ท.วิบูลย์ศักดิ์ ให้สัมภาษณ์ว่า ได้เสนอขออนุมัติในหลักการจากพล.อ.อนุพงษ์ เพื่อให้กลุ่มพันธมิตรฯส่งผู้แทน ประมาณ 20 คนขึ้นไป พร้อมสื่อมวลชนอีกจำนวนหนึ่ง เนื่องจากไม่สามารถให้ขึ้นไปทั้งหมดได้ เพราะอาจได้รับอันตรายจากกับระเบิดที่ยังเก็บกู้ไม่หมด ซึ่งผบ.ทบ.อนุมัติให้ตามที่เสนอ ขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจา โดยให้พล.ต.ชวลิต ชุนประสาร ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี ซึ่งรับผิดชอบในพื้นที่ดังกล่าวเป็นผู้ดำเนินการ หากเป็นไปตามจำนวนที่เราบอก เรารับรองความปลอดภัยให้ได้ทั้งหมด แต่จะให้ขึ้นไปเป็นร้อยเป็นพันคนคงไม่ไหว เพราะพื้นที่จำกัด และเมื่อเขาปฏิบัติตามภารกิจที่เขาต้องการแล้วก็ต้องลงจากพื้นที่
เมื่อถามว่าเหตุปะทะกันระหว่างประชาชนสองกลุ่มเกิดความผิดพลาดตรงไหน พล.ท. วิบูลย์ศักดิ์ กล่าวว่า ไม่ได้เกิดความผิดพลาด เพียงแต่ประชาชนทั้งสองกลุ่มมีแนวคิดต่างกัน แต่เจ้าหน้าที่รัฐพยายามดูแลอย่างดีที่สุดแล้ว อีกทั้งผู้ว่าราชการจังหวัด ตำรวจ ที่ไปดูแลในพื้นที่ต่างก็ได้รับบาดเจ็บจากการปะทะกันของประชาชนทั้งสองกลุ่มทั้งนี้ยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่อย่างดีที่สุดแล้ว อย่างไรก็ตาม ทางผบ.ทบ.ได้สั่งการให้เร่งแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นโดยเร็วแล้ว
ล่าถอยกลับไปนอน"ศีรษะอโศก"
ต่อมาเวลา 15.30 น. พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รักษาการผบ.ตร. เดินทางโดยเฮลิคอป เตอร์ มาที่บริเวณด่านเก็บค่าธรรมเนียมอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร เชิญนายวีระ นายระพี ผ่องบุพกิจ ผวจ.ศรีสะเกษ และตัวแทนของกองทัพภาคที่ 2 ขึ้นไปเจรจาหารือกันที่บริเวณศูนย์บริการท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร บริเวณผามออีแดง
กระทั่งเวลา 18.15 น. นายวีระ สมความคิด เปิดเผยผลการเจรจาว่า ทหารไม่อนุญาตให้กลุ่มพันธมิตรฯ ขึ้นไปพักค้างคืนบนอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร เนื่องจากทหารอ้างว่าบริเวณอุทยานประกาศเป็นเขตกฎอัยการศึก ห้ามไม่ให้ขึ้นไปพักค้างคืน ซึ่งในวันพรุ่งที่ 20 ก.ย.52 ตนและแกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ ที่มาจากหลายจังหวัดทั่วประเทศ พร้อมด้วยสื่อมวลชนทุกแขนง จะพากันขึ้นไปอ่านประกาศแถลงการณ์แสดงเจตนารมณ์บริเวณอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร เพื่อเรียกร้องให้กัมพูชาออกไปจากเขตแดนไทยในพื้นที่ 4.6 ตารางกิโลเมตร รอบบริเวณเขาพระวิหาร และจะเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งดำเนินการพิสูจน์สิทธิ์พื้นที่บริเวณเขาพระวิหาร ให้แล้วเสร็จโดยด่วนอีกด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากนายวีระประ กาศผลการเจรจาให้กลุ่มพันธมิตรฯ ที่รวมตัวรออยู่ได้รับทราบแล้ว กลุ่มพันธมิตรฯ ก็พากันเดินทางกลับ เพื่อไปพักที่ศีรษะอโศก อ.กันทรลักษ์ ขณะที่กำลังทหารพร้อมอาวุธ ยังคุมเข้มบริเวณด่านเก็บค่าธรรมเนียมอย่างเข้มงวด เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องขึ้นไปบริเวณอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหารอย่างเด็ดขาด
ณัฐวุฒิได้ทีด่าซ้ำ-หวั่นสงคราม
เวลา 18.00 น. ที่ด้านหลังเวทีปราศรัยของกลุ่มคนเสื้อแดง ลานพระบรมรูปทรงม้า นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง กล่าวถึงเหตุการณ์ปะทะระหว่างประชาชนกับกลุ่มพันธมิตรที่บริเวณเชิงเขาทางขึ้นปราสาทเขาพระวิหารว่า ยืนยันว่าประเทศไทยได้เสียดินแดนบริเวณนั้นจริง โดยเฉพาะพื้นที่ทับซ้อน 4.6 ตารางกิโลเมตร ที่มีการสร้างถนนคอนกรีตเข้าไป ซึ่งดำเนินการในรัฐบาลชุดนี้ จึงขอเรียกร้องรัฐบาลว่าใช้วิธีสันติ ใช้วิถีทางการทูตในการเจรจาเพื่อไม่ให้เป็นน้ำผึ้งหยดเดียว กลายเป็นสงครามบานปลายระหว่างประเทศ นอก จากนี้ขอให้นายอภิสิทธิ์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ไปพูดคุยกับนายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ แกนนำพันธมิตรฯให้หยุดได้หรือไม่ ถ้าคุยไม่ได้ ประเทศชาติจะอยู่ได้อย่างไร
นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ส่วนที่พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรฯ ปฏิเสธความรับผิดชอบนั้น เป็นคำพูดที่เห็นแก่ได้ เพราะสื่อของพันธมิตรฯ ทั้งเอเอสทีวีและผู้จัดการ ต่างรายงานตรงกันว่ากลุ่มคนที่ไปชุมนุมเป็นกลุ่มพันธมิตรฯ ฉะนั้นแกนนำพันธมิตรฯ โดยเฉพาะพล.ต.จำลอง นายสนธิ ลิ้มทองกุล ต้องแสดงความเป็นลูกผู้ชาย แสดงความรับผิดชอบต่อสิ่งที่เกิดขึ้น
ทหารมั่นใจไม่ตีกันรอบสอง
พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษก ทบ. ในฐานะโฆษก ศอ.รส. แถลงภายหลังการประชุมศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย หรือ ศอ.รส. ว่า ในที่ประชุมพูดถึงกรณีกลุ่มพันธมิตรปะทะกับชาวบ้านภูมิซรอล ทำให้มีผู้บาดเจ็บไม่ทราบจำนวน แต่มี 2 รายที่ถูกกระสุนปืนจนต้องนำส่งโรงพยาบาล จากนั้นผู้ชุมนุมฝ่าด่านภูมิซรอลมา ก็มาอยู่ที่ด่านภูมิน้อย โดยมีแม่ทัพน้อยที่ 2 เข้าไปเจรจาอย่างเป็นห่วงและไม่สามารถให้เข้าไปในพื้นที่ได้ และได้ยื่นข้อเสนอคือให้ส่งตัวแทน 30 คนขึ้นไปทำกิจกรรมที่พื้นที่ผามออีแดงเป็นพื้นที่ปลอดภัย ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อกำลังในพื้นที่ทั้งฝ่ายกัมพูชาและฝ่ายไทย ซึ่งผลการเจรจาตกลงกันว่าจะให้ตัวแทนเข้าไปทำกิจกรรม แต่เนื่องจากเวลาค่ำแล้วจึงไม่สะดวก จึงมีการยื่นข้อเสนอให้กลุ่มผู้ชุมนุมกลับไปศีรษะอโศกและในวันพรุ่งนี้ค่อยกลับมาใหม่ อย่างไรก็ตาม กลุ่มผู้ชุมนุมที่เคลื่อนที่ผ่านแนวต่างๆ ของฝ่ายปกครอง ได้มีการกระทบกระทั่งกับชาวบ้าน เจ้าหน้าที่ทหารก็ได้พิจารณาพร้อมกับทำความเข้าใจกับชาวบ้าน ป้องกันไม่ให้เกิดเหตุร้ายต่างๆ ขึ้น
เมื่อถามว่าในวันพรุ่งนี้จะมีการปะทะกับชาวบ้านอีกหรือไม่ พ.อ.สรรเสริญ กล่าวว่า ไม่น่าจะมี เพราะได้ยื่นข้อเสนอไปแล้ว
มาร์คสั่งดำเนินคดีหลังจบม็อบ
เวลา 20.00 น.ที่อิมแพ็ค เมืองทองธานี นายอภิสิทธิ์ให้สัมภาษณ์ว่า เท่าที่ทราบ มีความพยายามเจรจากัน หากกลุ่มผู้ชุมนุมต้องการขึ้นไป อยากให้ขึ้นไปอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย โดยเจ้าหน้าที่จะอำนวยความสะดวกให้และตกลงกันได้แล้ว ผู้สื่อข่าวถามว่ามีภาพเหตุการณ์บันทึกไว้ว่ากลุ่มพันธมิตรฯทำร้ายชาวบ้าน แต่เจ้าหน้าที่กลับไม่ดำเนินการใดๆ นายกฯ กล่าวว่า ได้รับร้องเรียนจากทั้งสองฝ่ายว่าตอนที่กระทบกระทั่งกันนั้น ทำไมไม่มีการดำเนินการใดๆ ให้เหตุการณ์ผ่านไปแล้วมาดูว่าใครทำผิดกฎหมาย ก็ต้องถูกดำเนินคดีทั้งหมด เมื่อถามว่าทางกลุ่มพันธมิตรฯต้องการขึ้นไปอ่านแถลงการณ์บนผามออีแดงเพื่ออะไร นายกฯ กล่าวว่า เขาต้องการแสดงออกว่าพื้นที่นั้นเป็นพื้นที่ของไทย แต่ได้ขอร้องกันไปตั้งแต่ต้นแล้วว่าเรื่องการรักษาสิทธิของประเทศไทยนั้น รัฐบาลกำลังทำอยู่ แต่ยังมีฝ่ายประชาชนที่ต้องการแสดงออกทางการเมือง แสดงออกทางนโยบาย พยายามจะทำในขอบเขตที่คิดว่าไม่มีปัญหา