ตอนที่แล้วเปิดประเด็นร้อนว่า คุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพชร หายไปไหน ?
วันนี้ คุณหญิงอ้อ ปรากฏตัวแล้วในศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เพื่อยืนยันว่า ทรัพย์สินของเธอและอดีตนายกฯ แยกกองออกจากกันแล้วอย่างสิ้นเชิง โดยข้อตกลงลับบนเกาะฮ่องกงในวันหย่า
การปรากฎตัวครั้งนี้เพื่อต่อสู้ และปกป้อง ทรัพย์สินส่วนตัว ของเธอเอง ไม่ให้ถูกยึดรวมกองไปกับของอดีตสามีในคดีที่อัยการสูงสุด ร้องขอให้ ทรัพย์สินจำนวน 76,000 ล้านบาท ของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ผู้ถูกกล่าวหา รวมทั้งบุคคลในครอบครัวและผู้ร้องค้าน ตกเป็นของแผ่นดิน เนื่องจากพ.ต.ท.ทักษิณ มีพฤติกรรมร่ำรวยผิดปกติ โดยขณะดำรงตำแหน่งใช้อำนาจหน้าที่เอื้อประโยชน์ต่อตนเองและผู้อื่น
เช้าวันที่ 15 กันยายน คุณหญิงพจมาน ผู้คัดค้านที่ 1 เดินทางมา ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง สนามหลวง พร้อมกับ นายพานทองแท้ และ น.ส.พินทองทา ชินวัตร บุตรชายและบุตรสาว และนายบรรณพจน์ ดามาพงศ์ พี่ชายบุญธรรม
คุณหญิงนอกทำเนียบ วัย 53 ปี ใส่แว่นกรอบสีเข้ม ดูไม่แตกต่างจาก สตรีหมายเลข 1 ในวันที่สามีเธอเรืองอำนาจมากที่สุดในประเทศ
นั่นคือ เธอยัง เข้มแข็ง เยือกเย็น และมีสมาธิดี ไม่มีคำตอบจากปากของเธอ เมื่อนักข่าว ยิงคำถามเข้าใส่เธอเป็นชุด มีแต่รอยยิ้มเล็กๆ
เมื่อเธอสาบานตนต่อศาล ก่อนเบิกความ ทุกคนถึงได้รู้ว่า เธอคือ คุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพชร ไม่ใช่ ดามาพงศ์ อย่างที่สื่อหลายฉบับเขียนนามสกุลเธอผิดมาโดยตลอด
บนบัลลังก์ นายสมศักดิ์ เนตรมัย ผู้พิพากษาอาวุโสในศาลฎีกา เจ้าของสำนวน พร้อมองค์คณะผู้พิพากษา 9 คน นั่งฟังคำเบิกความของคุณหญิงอ้อ อย่างพินิจพิเคราะห์
@ หย่ากันแล้ว- ทรัพย์สินแยกกอง
ตอนหนึ่งของคำเบิกความ คุณหญิงพจมาน กล่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ได้รับการชักชวนจาก พล.ต.จำลอง ศรีเมืองหัวหน้าพรรคพลังธรรม ให้ลงเล่นการเมืองในตำแหน่งรองหัวหน้าพรรค และมอบให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศให้
" ข้าพเจ้าไม่เห็นด้วยที่ พ.ต.ท.ทักษิณ จะลงเล่นการเมือง แต่ก็ไม่สามารถคัดค้านได้ ข้าพเจ้าไม่เคยมอบเงินสนับสนุนพรรคพลังธรรมและไม่ทราบว่า พ.ต.ท.ทักษิณ จะมีข้อตกลงอะไรพิเศษหรือไม่ " คุณหญิงอ้อ เล่า ฉากหลังทางการเมืองว่า หลัง พ.ต.ท.ทักษิณ พ้นตำแหน่ง
ต่อมาเมื่อปี 2544 พ.ต.ท.ทักษิณ ได้มาขอเงิน และก่อตั้งพรรคไทยรักไทย แม้จะเป็นผู้สนับสนุนให้เงินบริจาคพรรคไทยรักไทยก็ตาม แต่ไม่เคยเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการบริหารพรรคไทยรักไทยและไม่มีตำแหน่งใดๆในพรรค และไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับการบริหารราชการในฐานะภริยาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองแต่อย่างใด และไม่เคยได้รับผลตอบแทนใดขณะที่ พ.ต.ท.ทักษิณ บริหารราชการแผ่นดิน
นัยของคุณหญิงพจมานก็คือ การยืนยันว่า เธอไม่มีส่วนได้ส่วนเสียในการบริหารบ้านเมือง ช่วงที่สามีของเธอเป็นผู้นำประเทศ นั่นเอง