ปธ.วุฒิเชื่อแก้"รธน."ได้บางมาตรา หลังประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วม (วิป) รัฐบาล วิปฝ่ายค้าน และวิปวุฒิสภา ได้ประชุมหารือถึงกรอบการประชุมร่วมรัฐสภาในวันที่ 16-17 กันยายน เพื่อพิจารณาข้อเสนอของคณะกรรมการสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูปการเมืองและศึกษาการแก้ไขรัฐธรรมนูญจนได้ข้อสรุปว่าจะใช้เวลาอภิปรายทั้งสิ้น 26 ชั่วโมง โดยคณะกรรมการสมานฉันท์และคณะรัฐมนตรี 4 ชั่วโมง ส.ส.ฝ่ายรัฐบาล 8 ชั่วโมง ส.ส.ฝ่ายค้าน 8 ชั่วโมง และวุฒิสภา 6 ชั่วโมงนั้น "ชทพ."จี้แก้2ประเด็นในสมัยประชุมนี้ นายวัชระ กรรณิการ์ โฆษกพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) แถลงว่า พรรคมีจุดยืนสนับสนุนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยเฉพาะการเปิดประชุมร่วมของรัฐสภาในสัปดาห์หน้าเพื่ออภิปรายโดยไม่ลงมติ ส่วนจะแก้ไขรัฐธรรมนูญในกี่ประเด็นกี่มาตราก็ตามจะต้องเป็นเสียงส่วนใหญ่เห็นพ้องก่อน ขอยืนยันว่ากรอบเวลาการแก้ไขรัฐธรรมนูญควรเสร็จในสมัยประชุมนิติบัญญัติคาดว่าจะเป็นเดือนตุลาคมนี้ ดักคอ"ปชป."ติดหนี้บุญคุณ"คมช."
"ประสพสุข"เชื่อประชุมร่วมรัฐสภาแก้รธน.ได้บางมาตรา คาดส.ส.ไม่ผ่านกม.นริโทษกรรม "ชทพ."จี้แก้2ประเด็นในสมัยประชุมนี้ ปลัดกห.เห็นด้วยหวังสร้างสมานฉันท์ เพื่อไทยจวก"มาร์ค"เปิดสภาฯหวังซื้อเวลา
เมื่อวันที่ 11 กันยายน นายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา กล่าวถึงการประชุมร่วมของรัฐสภาว่า ต้องดูเนื้อหาที่จะอภิปรายกันในการประชุมร่วมสองสภา แม้ว่าจะไม่มีการลงมติ แต่อย่างน้อยจะได้รู้ว่าใครมีความคิดเช่นไร และความคิดส่วนใหญ่จะเป็นอย่างไร ขณะนี้รู้สึกว่าความคิดส่วนใหญ่ต้องการให้แก้ และมาตราที่เห็นได้ชัดคือ มาตรา 190 อย่างไรก็ตาม การแก้รัฐธรรมนูญครั้งนี้เห็นว่าน่าจะแก้ได้เพียงบางมาตราเท่านั้น ส่วนร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมผู้ชุมนุมที่พรรคภูมิใจไทยเสนอเห็นว่าคงไม่น่าจะผ่านความเห็นชอบของสภาผู้แทนราษฎรแน่นอน
ส่วนกรณีที่สวนดุสิตโพลสำรวจความคิดเห็นว่าควรแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือไม่นั้น ผลสำรวจออกมาว่ามีร้อยละ 40 ไม่แน่ใจ ร้อยละ 39.9 เห็นควรให้แก้ไข และร้อยละ 19 เห็นคัดค้าน ดังนั้น หากรวมในส่วนไม่แน่ใจกับการเห็นควรแก้ไขรัฐธรรมนูญจะมีถึงร้อยละ 70 เป็นการแสดงความเห็นในเชิงบวกที่จะให้แก้ไขรัฐธรรมนูญ นอกจากนี้ผลสำรวจยังสะท้อนว่าเสียงส่วนใหญ่อยากให้แก้มาตรา 237 และที่มาของ ส.ส.ด้วย
"พท."เชื่อ"มาร์ค"เปิดสภาถ่วงเวลา
วันเดียวกันที่พรรคเพื่อไทย มีการประชุมคณะทำงานหารือเพื่อเตรียมพร้อมการอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติในวันที่ 16-17 กันยายน ซึ่งรัฐบาลเปิดอภิปรายเพื่อรับฟังความคิดเห็นในเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยนายวิทยา บุรณศิริ ประธานวิปฝ่ายค้าน เป็นประธานประชุมร่วมกับคณะทำงานฝ่ายกฎหมายของพรรคเพื่อไทย เพื่อวางกรอบในการอภิปราย
นายประเกียรติ นาสิมมา ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย แถลงหลังประชุมว่า พรรคเพื่อไทยมีจุดยืนให้แก้ไขใน 6 ประเด็นตามกรอบผลการศึกษาของคณะกรรมการสมานฉันท์ฯสรุปไว้ ในวันที่ 14 กันยายน คณะทำงานของพรรคจะนำประเด็นต่างๆ มาหารือเพื่อกำหนดประเด็นอภิปรายให้อยู่ในกรอบ 6 ประเด็นอีกครั้ง พร้อมจะจัดผู้อภิปรายอย่างเป็นระบบ ไม่ให้ใช้เวลายืดเยื้อ
"ถ้ารัฐบาลมีความจริงใจและต้องการให้แก้ไขรัฐธรรมนูญอย่างแท้จริง เมื่อได้ผลสรุปการศึกษาของคณะกรรมการสมานฉันท์ฯแล้ว ไม่จำเป็นต้องเปิดประชุมร่วมรัฐสภาเพื่อรับฟังความคิดเห็นให้เสียเวลาโดยรัฐบาลสามารถดำเนินการนำไปสู่การปฏิบัติให้แก้ไขให้เป็นรูปธรรมได้เลย เจตนาของรัฐบาลไม่ว่าจะการตั้งคณะกรรมการสมานฉันท์ฯ หรือการขอเปิดประชุมร่วมสองสภาครั้งนี้พอทราบวัตถุประสงค์เพื่อเตะถ่วงหรือซื้อเวลาให้อยู่เป็นรัฐบาลต่อไปเท่านั้น" นายประเกียรติกล่าว และว่า หากหยั่งเสียงในพรรคร่วมรัฐบาลในการแก้ไข เชื่อว่า ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาลจะเห็นด้วยในการแก้ไขอย่างแน่นอนซึ่งจุดนี้อาจเป็นเหตุบีบให้รัฐบาลยุบสภาได้ เพราะเนื้อแท้ของพรรคประชาธิปัตย์ไม่มีความต้องการแก้ไขและอยากให้มีการใช้รัฐธรรมนูญฉบับนี้ไปก่อน
นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า รัฐบาลไม่จำเป็นต้องมาเปิดสภาเพื่อรับฟังความเห็นจากทุกฝ่าย เพราะในการตั้งคณะกรรมการสมานฉันท์ฯที่เป็นแนวคิดของนายกรัฐมนตรีก็มีตัวแทนจากทุกฝ่ายรวมทั้งรัฐบาลเมื่อได้ผลสรุปแล้ว นายกรัฐมนตรีไม่ควรซื้อเวลาออกไป ไม่ว่าจะแนวคิดตั้ง ส.ส.ร.หรือจะจัดทำประชามติ ทุกอย่างที่รัฐบาลทำเพียงยื้อให้อยู่บริหารให้ยาวนานที่สุด เพราะต้องยอมรับว่าต้นเหตุวิกฤตมาจากรัฐธรรมนูญทั้งสิ้นและที่พรรคประชาธิปัตย์ได้มาเป็นรัฐบาล ส.ว.สรรหา รวมถึงองค์กรอิสระต่างๆ ล้วนมีที่มาจากรัฐธรรมนูญฉบับคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) เป็นผู้ให้กำเนิดก็มีติดหนี้บุญคุณกันอยู่ หากพรรคประชาธิปัตย์จะไปทำอะไรก็เท่ากับเป็นการทรพีกับพ่อแม่จะเป็นเหมือนลูกอกตัญญู สุดท้ายเชื่อว่าการอภิปรายจะ 2 หรือ 3 วันเสร็จสิ้น ประชาชนต้องเผชิญชะตากรรมยากจนต่อไป แต่รัฐบาลยังอยู่เป็นรัฐบาลต่อไป
"ปลัดกห."เห็นด้วยแก้ไขรธน.สร้างสมานฉันท์
พล.อ.อภิชาต เพ็ญกิตติ ปลัดกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า เท่าที่ตนติดตามส่วนใหญ่มุ่งให้เกิดความสมานฉันท์ อยากให้แก้ไขไปอย่างลุล่วงและทำให้เกิดความสมานฉันท์ของคนในชาติมากกว่า เมื่อถามว่า รัฐธรรมนูญปี 2550 ของ คมช.เป็นต้นตอของปัญหา พล.อ.อภิชาตกล่าวว่า ถือว่าเป็นรัฐธรรมนูญที่ดีฉบับหนึ่ง เพราะพัฒนาจุดอ่อนของรัฐธรรมนูญปี 2540 บางคนอาจวิจารณ์ว่าลงลึกการปฏิบัติมากเกินไป ซึ่งทุกคนมองว่าตรงนี้เป็นจุดอ่อน แต่จะบอกว่าดีหรือไม่ คงต้องใช้เวลาระยะหนึ่ง การที่เราเปลี่ยนแปลงรัฐธรรมนูญบ่อยอาจจะไม่มีเวลาศึกษารายละเอียด และทำให้เกิดความสมานฉันท์ของรัฐธรรมนูญในแต่ละฉบับให้ลึกซึ้ง ทำให้การปฏิบัติไม่เป็นไปตามที่รัฐธรรมนูญวางมาตรฐานไว้ แต่เมื่อมีความเข้าใจแล้วสิ่งที่เป็นจุดอ่อนอาจมีความระวังมากยิ่งขึ้น และจะไม่เป็นจุดอ่อนสำหรับผู้ประพฤติปฏิบัติในสิ่งที่ถูกต้อง ทั้งนี้ หากแก้ไขและทำให้เกิดความสมานฉันท์ก็ควรจะแก้ไข
ปธ.วุฒิฯเชื่อแก้รธน.ได้แค่บางมาตรา เพื่อไทยจวกมาร์ค เปิดประชุมร่วมรัฐสภา หวังถ่วงเวลา
หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ข่าวการเมือง ปธ.วุฒิฯเชื่อแก้รธน.ได้แค่บางมาตรา เพื่อไทยจวกมาร์ค เปิดประชุมร่วมรัฐสภา หวังถ่วงเวลา
Love Attack เทศกาลความรักแบบนี้ บอกอ้อมๆให้เขารู้กัน
Chocolate Dreams สาวชั่งฝันและช็อคโกแลต กับหนุ่มหล่อ ไม่แน่คุณอาจจะได้เจอแบบนี้ก็ได้
Love You Like Crazy เพลงเพราะๆ ที่ถ้าส่งให้คนที่เรารัก โลกนี้ก็สีชมพูกันทีเดียว