"ทักษิณ"ให้สัมภาษณ์ผ่านวิทยุ อสมท. ซัดรบ.ไทยทำต่างชาติรำคาญกระอักกระอ่วน ส่งหนังสือจี้ตามตัว พร้อมเจรจาทุกคนสร้างสมานฉันท์ เย้ย"มาร์ค"แก้ปัญหาไม่ได้เพราะไม่มีอิสระ อ้างถ้าก่อนหน้าบอกดีๆให้หยุดเพราะชนะมากไปก็จะวางมือ ปธ.วิปรัฐบาลเต้นจวกกลับไม่เชื่ออยุติเคลื่อนไหว นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล หรือวิปรัฐบาล เมื่อถามว่า เป็นไปได้หรือไม่ว่าที่นายกฯหรือรองนายกฯจะไปเจรจากับ พ.ต.ท.ทักษิณนายชินวรณ์ กล่าวว่า หากจะเปิดการเจรจาอย่างน้อยคนที่จะมาเจรจาต้องมีความจริงใจ
กล่าวเมื่อวันที่ 6 ก.ย. ถึงกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการเอ็กคลูซีฟ ออกอากาศผ่านสถานีวิทยุ อสมท. คลื่น 100.5 เม็กกะเฮิร์ตว่า พร้อมเจรจากับทุกคน หากต้องการให้วางมือก็ยอม ว่า การเจรจาก็เป็นสิ่งที่ดีเพราะปัญหาที่เกิดจากบุคคลกลุ่มหนึ่งในขณะนี้มีส่วนเกี่ยวข้องตัวกับ พ.ต.ท.ทักษิณ แต่ส่วนตัวไม่ค่อยมีความเชื่อถือในคำพูดของ พ.ต.ท.ทักษิณ เพราะเวลาที่ตนเองได้เปรียบก็มักพูดอย่าง แต่เวลาเสียเปรียบก็พูดอีกอย่าง
“อย่างเหตุการณ์ช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา พ.ต.ท.ทักษิณก็พูดอยู่เสมอว่า หากมีเลือดสักหยดจะกลับมานำผู้ชุมนุมด้วยตัวเอง แต่พอมีการปราบปรามผู้ก่อเหตุจลาจล พ.ต.ท.ทักษิณก็ไม่ได้กลับมา หรืออย่างกรณีคลิปเสียงนายกฯก็เช่นเดียวกัน พอ พ.ต.ท.ทักษิณเห็นว่าการที่ ส.ส.เพื่อไทยนำไปเคลื่อนไหว เป็นสิ่งที่เพลี่ยงพล้ำ ก็รีบออกมาปฏิเสธว่าตัวเองไม่มีส่วนเกี่ยวข้องทันที” นายชินวรณ์ กล่าว
นายชินวรณ์ กล่าวว่า สาเหตุที่ พ.ต.ท.ทักษิณต้องออกมาพูดเช่นนี้ น่าจะมาจากการที่นักธุรกิจและภาคเอกชนหลายส่วนออกมาเรียกร้องให้ พ.ต.ท.ทักษิณและกลุ่มคนเสื้อแดงยุติการเคลื่อนไหว
เพื่อไม่ให้กระทบกับการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ พ.ต.ท.ทักษิณจึงต้องออกมาพูดเพื่อให้ภาพลักษณ์ของตัวเองดูดี ผู้สื่อข่าวถามว่า วิเคราะห์หรือไม่ว่าเหตุใดจึงต้องออกมาพูดก่อนที่คนเสื้อแดงจะชุมนุมใหญ่วันที่ 19 ก.ย.นี้ นายชินวรณ์ กล่าวว่า กลุ่มคนเสื้อแดงขณะนี้ถูกมอง 2 แบบ 1.สร้างความปั่นป่วนทางการเมือง จนกระทบกับปากท้องของพี่น้องประชาชน และ2.การเคลื่อนไหวก็ชัดเจนไม่ได้เป็นการเคลื่อนไหวเพื่อเรียกร้องประชาธิปไตย แต่เป็นการทำเพื่อรักษาผลประโยชน์ของ พ.ต.ท.ทักษิณเท่านั้น ขณะนี้กลุ่มคนเสื้อแดงอยู่ในช่วงที่เพลี่ยงพล้ำ จึงต้องพูดเพื่อรักษาผลประโยชน์ของตัวเองเอาไว้ก่อน
โดย พ.ต.ท.ทักษิณต้องกลับเข้ามาในประเทศและเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมก่อน “แต่ส่วนตัวไม่เชื่อว่าหลังจากคุยแล้วจะทำให้สถานการณ์ทางการเมืองกลับสู่ความสงบ เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณยังมีโทษจำคุก 2 ปีอยู่ ขณะที่คดียึดทรัพย์ 76,000 ล้านบาทก็ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาล ผมจึงไม่คิดว่า คนอย่าง พ.ต.ท.ทักษิณจะยอมยุติการเคลื่อนไหวง่ายๆ” นายชินวรณ์ กล่าว
ปชป.ไม่ไว้ใจแม้วพร้อมคุยทุกคนสร้างสมานฉันท์ ไม่เชื่อยุติเคลื่อนไหว
ก่อนหน้านี้ เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 6 ก.ย. พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ออกอากาศทางวิทยุอสมท. คลื่น 100.5 เมกกะเฮิร์ต
ในรายการเอ๊กคลูซีฟ ดำเนินรายการโดยนายจอม เพชรประดับ โดยผู้ดำเนินรายการได้สอบถามถึงการเคลื่อนไหวของ พ.ต.ท.ทักษิณ ว่า ได้นำเงินจากที่ใดมาดำเนินกิจการเหมืองเพชร หรือมีการฟอกเงินไว้ในรัฐบาลที่แล้ว โดย พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า หลังจากที่ตนออกจากประเทศไทย ก่อนปฏิวัติ มีคนลือว่า ตนขนเงินออกมา 30 กระเป๋าเดินทาง ซึ่งจริงๆแล้วไม่มีใครทำได้ ขอให้อย่าหลงประเด็น อย่าหลงเชื่อกลุ่มคนที่ปล่อยข่าว หากจำได้ ก่อนหน้านี้ตนเคยซื้อทีมฟุตบอล แล้วก็ขายทีมฟุตบอลแล้วนำผลกำไรมาลงทุนเหมืองเพชร
ผู้ดำเนินรายการถามว่า มีข่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ถูกอายัดเงินที่ประเทศอังกฤษ พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า ตนไม่มีเงินฝากที่ประเทศอังกฤษ ทั้งหมดเป็นการปล่อยข่าวทำร้ายกัน เมื่อขายทีมฟุตบอลได้เงินมาจำนวนหนึ่งก็เพียงพอจะลงทุนในเหมือง เพราะราคาเองก็ไม่ได้สูงมากมายอะไร
เมื่อถามว่า การที่ท่านเดินทางเข้าประเทศต่างๆนั้น ต่างประเทศรู้สึกกระอักกระอ่วนใจบ้างหรือไม่ พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า เขาไม่กระอักกระอ่วนตน
แต่เขากระอักกระอ่วนรัฐบาลไทยมากกว่า เขามีอธิปไตยในดินแดนของเขาจะให้ใครอยู่หรือจะให้ใครไปมันเป็นสิทธิ์ของเขา แต่รัฐบาลไทยทำจดหมายถึงทุกประเทศต่างประเทศเขาบอกเขารำคาญ และก็ยังบอกอีกว่าเขารำคาญรัฐบาลไทยยังไม่ต้องมาประเทศเขาก็ดี เมื่อถามว่า มีประเทศใดที่เขาบอกว่าท่านไม่ทำตามคำสั่งศาลหรือไม่ พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า ไม่มี เขาเห็นคำพิพากษากรณีที่ดินรัชดาเขาก็ขำแล้ว มีอย่างที่ไหนคนซื้อไม่ผิดคนขายไม่ผิด แต่มันตลกตรงที่นายกฯเอาบัตรประชาชนไปรับรองให้เมียซื้อที่ดินเขาบอกผิด แต่ที่บุกรุกที่ดินป่าสงวนไม่เป็นไร
เมื่อถามว่า มีข่าวว่าท่านมีเครื่องบินส่วนตัวมีบอร์ดี้การ์ดชั้นดี พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า ตนไม่มีเครื่องบิน บอร์ดี้การ์ดก็ไม่มี ผมไม่กลัว เกิดมาหนเดียวตายหนเดียว เรื่องอย่างนี้ผมโดนมาไม่รู้กี่รอบแล้ว ไม่เป็นไร
เมื่อถามว่าจะหันมาร่วมมือกันเพื่อสร้างความสมานฉันท์ปรองดองได้หรือไม่ พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า “ผมพร้อมเจรจากับทุกคน คิดดูขนาดคนอย่างคุณจอมยังติดต่อผมได้ แล้วคนที่มีอำนาจในประเทศจะติดต่อผมไม่ได้หรือ ขนาดคนขับแท็กซี่ ตำรวจชั้นผู้น้อยยังมีเบอร์ผม โทรมาผมผมก็คุยผมคุยกับทุกคน แต่คนเดียวที่ไม่มีเบอร์ผมก็คือ คนในทำเนียบรัฐบาล ยืนยันผมคุยกับทุกคนไม่ว่าจะเป็นนายกฯหรือรองนายกฯแม้ว่าจะหน้าดำผมก็คุย”
เมื่อถามว่า หากนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี โทรมาหาท่านขอความร่วมือให้ท่านหยุดเคลื่อนไหวแล้วทุกอย่างจบ พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า จะร่วมมือกันอย่างไรบอกมา ตนยินดี จะให้ทำอะไร และรัฐบาลต้องบอกว่าจะทำอย่างไรด้วยเพื่อให้เกิดความปรองดองทุกฝ่าย ไม่ใช่ปรองดองเพียงฝ่ายเดียว ต้องหาจุดร่วมที่เหมาะสมด้วย
เมื่อถามว่า หากนายกฯบอกว่าท่านต้องกลับมาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมก่อน พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า ต้องถามว่ากระบวนการตอนนี้มันยุติธรรมจริงหรือไม่
และจะกำหนดความยุติธรรมอย่างไร ตนเชื่อว่า ศาลส่วนใหญ่ยุติธรรม แต่ก็มีบางส่วนเท่านั้นที่ถูกแทรกแซง และนายอภิสิทธิ์ก็เข้าไปแก้ไขตรงนี้ไม่ได้ เพราะไม่ใช่รัฐบาลที่มีอิสระอย่างแท้จริง แต่มีคนที่มีอิสระเหนือรัฐบาลเข้าไปแทรกแซง ที่จริงเรื่องที่ถ้าบ้านเมืองมีความสมดุล มีการถ่วงดุลที่ดีบ้านเมืองจะเดินไปได้ แต่ที่มันเป็นอย่างนี้ก็เพราะเพียงต้องการจะล้มตนเท่านั้น ที่จริงเมื่อครั้งนั้นถ้าพูดกับผมดีๆ บอกให้หยุด ให้เลิกเพราะชนะมากไปแล้ว ก็หยุดก็จะวางมือ ไม่ใช่ว่าตนอยากจะอยู่ เพียงแต่ว่าต้องการทำภาระกิจที่ค้างอยู่ให้เสร็จสิ้น ตอนนี้ตนอยู่เมืองนอกก็มีความสุขดี ไม่มีความเครียดอะไร มีคนหาว่าตนไปทำคลีโม แต่หน้าตนตอนนี้ใสมาก