คมชัดลึก :"ทักษิณ" โฟนอินก่อนยื่นฎีการองราชเลขาธิการ ปฏิญาณต่อหน้าพระบรมฉายาลักษณ์จะจงรักภักดีตลอดชีวิต ขอทรงมีพระชนมายุยืนนาน 120พรรษา โอดถูกใส่ร้ายรังแกจึงขอพึ่งพระบารมี ย้ำสีแดงไม่ใช่คอมมิวนิสต์แต่เป็นเลือดรักชาติ
(17ส.ค.) เวลา 11.00 น. พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โฟนอินก่อนการยื่นรายชื่อถวายฎีกาพระราชทานอภัยโทษให้กับรองราชเลขาธิการ สำนักพระราชวัง
"ขอบคุณพี่น้องที่มีน้ำใจและไม่มีวันลืมทั้งชีวิต วันนี้ที่พี่น้องมาที่นี่ ไม่ใช่เป็นเรื่องเกี่ยวกับตัวเองลำพัง แต่พี่น้องได้สั่งสมความรู้สึกมาตลอด 3 ปีที่ผ่านมา เสียงของประชาชนถูกโยนทิ้งเพราะปฎิวัติ ได้เปลี่ยนการปกครองคนส่วนใหญ่เป็นคนส่วนน้อย จนเกิดความไม่ยุติธรรมขึ้นเกิดระบบ 2 มาตรฐาน
"ผมเป็นเหยื่อถูกรังแกใส่ร้ายทำให้พี่น้องเดือดร้อน ก็เดินทางมาขอพึ่งพระบารมี เพราะพระเจ้าอยู่หัวเป็นพระเจ้าอยู่หัวของคนไทยทุกคน ในเมื่อคนไทยส่วนใหญ่กลุ่มหนึ่งนำโดยพี่น้องได้พร้อมใจกันมาขอพึ่งพระบารมี วันที่ได้เป็นนายกฯได้โอกาสมีเข้าเฝ้าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเป็นการส่วนพระองค์ กราบบังคมทูลฯว่า ผมเป็นนายกฯ คนแรกที่เกิดในแผ่นดินของพระองคฺ์ท่าน คือทรงขึ้นครองราชย์ในปีพ.ศ.2489 ซึ่งผมเกิดพ.ศ.2492 โดยผมทุ่มเททุกอย่าเพื่อบรรเทาพระราชภาระ ซึ่งเห็นมาตลอดว่า ทรงงานหนัก ขณะนี้ทรงมีพระชนมายุมากแล้ว ผมเลยทำงานทุ่มเทอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยมากตลอด ทุ่มเทให้พี่น้องประชาชน"
การทำโพลครั้งล่าสุดด้วยทีมทำโพลทีมเดียวกับนายบารัก โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ชี้ว่าคนกรุงเทพฯ 72% อยากได้รัฐธรรมนูญปี 40 คืนมา
เพราะมีความสุขภายใต้กฎหมาย ไม่ใช่ระบอบเผด็จการ แต่ผลที่ได้รับจากากรทุ่มเททำงานหนักและคิดดี คือถูกกลั่นแกล้งกล่าวหาโดยเฉพาะการสร้างเรื่องไม่จงรักภักดี ทั้งหมดแล้วมีเป้าหมายสุดท้าย เพื่อต้องการโค่นล้มทางการเมืองและเปลี่ยนขั้วทางการเมือง โดยไม่อดทนใช้ครรลองของระบอบประชาธิปไตย จนเกิดการปฏิวัติรัฐประหาร 19 กันยา 49 พยายามอ้างเหตุผลตัวเอง ยัดเยียดข้อหากลั่นแกล้งให้ตน