มาร์คแจงนักธุรกิจที่สิงคโปร์ ย้ำการเมือง-สังคมแตกแยกเยียวยาได้


สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวปราศรัยต่อบรรดานักธุรกิจชั้นนำของภูมิภาคที่สำนักข่าวรอยเตอร์จัดขึ้น ณ สำนักงานบริษัททอมป์สันรอยเตอร์ ในสิงคโปร์

ระหว่างการเยือนสิงคโปร์อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 22 มิถุนายน โดยนอกจากจะกล่าวถึงประเด็นทางด้านเศรษฐกิจแล้ว ยังเปิดโอกาสให้ซักถามในทุกประเด็นที่สงสัยอีกด้วย ทั้งนี้ นายอภิสิทธิ์กล่าวถึงภาพรวมเศรษฐกิจไทยว่าน่าจะกลับคืนสู่ภาวะขยายตัวได้อีกครั้งหนึ่งในตอนสิ้นปีนี้ และคาดว่าจะขยายตัวในระดับ 2 เปอร์เซ็นต์ในปี 2553 อย่างไรก็ตาม นายอภิสิทธิ์ยอมรับว่า ส่วนใหญ่แล้วภาวะการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยจะขึ้นอยู่กับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก ซึ่งเมื่อพิจารณาจากสถานการณ์ที่เป็นอยู่ในเวลานี้แล้วก็คิดว่าจะสามารถบรรลุถึงเป้าการขยายตัวดังกล่าวได้


รอยเตอร์รายงานว่า นักวิเคราะห์หลายคนเห็นพ้องกับการคาดการณ์ของนายอภิสิทธิ์ นายชาร์ล เก็งชอน นักเศรษฐศาสตร์ของศูนย์วิจัยกสิกรไทยยอมรับว่า

การคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจไทยจะขยายตัว 2 เปอร์เซ็นต์ในปีหน้านั้นสอดคล้องกับสภาพความเป็นจริง เพราะทางกสิกรไทยเชื่อเช่นกันว่าในปี 2553 เศรษฐกิจไทยจะได้แรงหนุนจากการฟื้นของการส่งออกที่จะฟื้นตัวพร้อมๆ กับภาคธุรกิจอีกหลายส่วนที่เกี่ยวเนื่องกับการส่งออกในปีหน้านี้


นายอภิสิทธิ์ยังให้ความเห็นสนับสนุนท่าทีของงธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.25 เปอร์เซ็นต์ก่อนหน้านี้

ทั้งๆ ที่ตลาดคาดหมายว่าจะมีการปรับลดลง 0.25 เปอร์เซ็นต์ ด้วยการยืนยันว่า ธปท.ปรับลดดอกเบี้ยลงถึงจุดต่ำสุดเท่าที่จะทำได้แล้ว ทั้งนี้ นักเศรษฐศาสตร์ของธนาคารสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด มองว่าความเห็นของนายอภิสิทธิ์สะท้อนนโยบายดอกเบี้ยเชิงแข็งกร้าว แต่ระบุว่า สอดคล้องกับความเห็นของธนาคารก่อนหน้านี้ที่คาดว่าอัตราดอกเบี้ยของไทยจะลดลงต่ำสุดที่ 1.25 เปอร์เซ็นต์


นอกจากนี้ รอยเตอร์ระบุว่า แม้นายอภิสิทธิ์จะพยายามรับประกันในระหว่างการปราศรัย แต่บรรดาผู้เข้าร่วมรับฟังยังคงรู้สึกว่า ไทยยังไม่มีเสถียรภาพทางการเมืองและต้องระมัดระวังในการลงทุน

ขณะที่นายกรัฐมนตรีย้ำว่า ความแตกแยกทางการเมืองและสังคมในไทยนั้นไม่ใช่เรื่องที่เยียวยาไม่ได้ เพราะเชื่อว่าคนไทยส่วนใหญ่ยังมีความคาดหวังร่วมกันที่จะได้เห็นประเทศชาติรุ่งเรือง แต่ในเวลานี้วิกฤตเศรษฐกิจและการเอาตัวรอดจากวิกฤตดังกล่าวถือว่าเป็นความท้าทายที่ใหญ่หลวงที่สุด ซึ่งหากรัฐบาลสามารถแก้ไขปัญหาเหล่านี้ได้ก็เชื่อว่าคนไทยส่วนใหญ่จะพึงพอใจ



เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์