ไม่ให้ตกเป็นเหยื่อในการสร้างความรุนแรงและความแตกแยก ในรูปแบบต่างๆ ขณะที่ "สุเทพ" จี้ จนท.ดำเนิน 3 มาตรการด่วน เร่งส่งงบฯ ลงพื้นที่ภาคใต้ เผยบางโครงการอาจทำได้ก่อนวันที่ 1 ต.ค.นี้..
เช้าวันนี้ (14 มิ.ย.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ "เชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯอภิสิทธิ์" ทางสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย เกี่ยวกับการแก้ปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนใต้ ว่า รัฐบาลกำลังปรับเปลี่ยนนโยบายในเรื่องของการพัฒนาเข้าไปแก้ปัญหา และมุ่งเน้นเรื่องการเมืองนำการทหารอย่างแท้จริง ต้องใช้เวลาและสิ่งสำคัญที่สุดคือ ต้องแน่วแน่ในการเดินไปตามแนวทางนี้ เพราะเป็นแนวทางเดียวที่ยั่งยืน รวมถึงขอความร่วมมือให้อดทนอดกลั้น ไม่ให้ตกเป็นเหยื่อความรุนแรงในการสร้างความรุนแรง ความแตกแยกในรูปแบบต่างๆ
ขณะเดียวกัน นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง พร้อมด้วย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. ได้เดินทางไปพบปะเยี่ยมเยียนชาวบ้าน พื้นที่บ้านอัยปาแย อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส สถานที่เกิดเหตุคนร้ายยิงชาวบ้านเสียชีวิตในมัสยิด
และให้สัมภาษณ์ว่า ได้เร่งรัดให้หน่วยงานที่รับผิดชอบ เร่งดำเนินการโดยด่วนใน 3 ประการ ซึ่งเป็นเรื่องที่นายกรัฐมนตรีได้กำชับเป็นพิเศษ คือ 1. ต้องนำคนผิดมาดำเนินคดีให้ได้ 2. มีการซักซ้อมกับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติในพื้นที่ว่าขอให้ช่วยเพิ่มมาตรการ หรือปรับปรุงวิธีการในการดูแลคุ้มครองรักษาความปลอดภัยให้ประชาชน ครู พระ เป็นพิเศษ และ 3. ซักซ้อมเรื่องการปฏิบัติการตามโครงการแผนงานพัฒนาพิเศษพื้นที่จังหวัด ชายแดนภาคใต้ที่รัฐบาลได้กำหนดขึ้น พร้อมกันนี้ ได้กำชับให้ทุกจังหวัดได้ทำบัญชีหมู่บ้านเป้าหมาย ราษฎรผู้ยากจนในหมู่บ้านเป้าหมายทุกครอบครัว เพื่อจะได้กระจายงบประมาณลงไปแก้ปัญหาให้กับราษฎรเหล่านั้นได้ทันเวลา บางโครงการอาจจะทำก่อนวันที่ 1 ต.ค.
รองนายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า การที่คนร้ายได้ปรับเปลี่ยนวิธีการก่อเหตุอย่าต่อเนื่องนั้น เจ้าหน้าที่จะปรับเปลี่ยนวิธีการในการรับมือกับคนร้ายด้วย ส่วนที่ตัวเลขในการก่อเหตุในพื้นที่ที่มีมากขึ้น คิดว่าเป็นการมองคนละมุม แต่รัฐบาลจะไม่ปฏิเสธในการรับผิดชอบ ยืนยันว่า ตนจะเดินทางมาติดตามสถานการณ์ในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง จะมีการระดมสรรพกำลังมาทำงานร่วมกับประชาชน โดยให้ประชาชนมีส่วนร่วมทุกขั้นตอน