หลังออกศึกนานกว่า 193 วัน กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยได้ประกาศพักรบและเคลื่อนพลในเชิงสัญลักษณ์ด้วยการเปิดเวทีคอนเสิร์ตการเมืองเพื่อจัดตั้งแนวคิดและรักษามวลชนอย่างต่อเนื่อง แต่แนวทางนั้นก็ไม่อาจส่งสะเทือนเชิงอำนาจได้มากพอ
จึงไม่แปลกหากแกนนำพันธมิตร จะทบทวนบทเรียนการต่อสู้ที่ผ่านมาจนทำให้เห็นว่า การเคลื่อนพลข้างถนนแม้จะสามารถกดดันผู้มีอำนาจให้อยู่ในร่องรอยได้ แต่ก็ไม่ใช่คำตอบที่แท้จริงของการสร้างการเมืองใหม่อันเป็นเป้าหมายหลักที่ต้องเดินไปให้ถึง
หลังการพักยกจึงทำให้ระดับแกนนำมีเวลาตรึกตรองและคิดหาแนวทางที่เหมาะสม โดยมีแรงกระเพื่อมจากระดับแกนนำพันธมิตร หนาหูว่า "พรรคการเมือง" คือ คำตอบสุดท้ายสำหรับการเคลื่อนพลพันธมิตร ยกใหม่
และได้ส่งบุคคลใกล้ชิดไปจดทะเบียนจัดตั้งพรรคการเมืองไว้ 2 พรรค คือ พรรคประชาภิวัฒน์ (ปภ.) พรรคเทียนแห่งธรรม (ท.ห.ธ.)
ทว่าแนวคิดนี้ก็ยังไม่ตกผลึก เพราะมีเสียงคัดค้านจากพี่ใหญ่อย่าง "พล.ต.จำลอง ศรีเมือง" ผู้เคยมีประสบการณ์จากการตั้งพรรคพลังธรรมมาก่อน แต่ท้ายสุดแนวคิดการขับเคลื่อนด้วยพรรคการเมืองก็ถูกจุดพลุขึ้น พร้อมเสียงตอบรับจาก "พล.ต.จำลอง" และแกนนำพันธมิตรคนอื่นๆ บนเวทีคอนเสิร์ตการเมืองครั้งที่ 4 บนเกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี เมื่อต้นเดือนมีนาคมเพื่อโยนหินถามมวลชน
แน่นอนกระแสเสียงนี้ทำให้แกนนำพันธมิตร ได้รับทั้งดอกไม้และก้อนอิฐ!!!
ความเห็นต่างครั้งนั้นทำให้เกิดปรากฏการณ์แม่น้ำหลายสาย ภายในพันธมิตร โดยเฉพาะเสียงคัดค้านจาก "พันธมิตรแดนสะตอ" ที่ไม่ต้องการเปลี่ยนใจหนุนพรรคการเมืองอื่นที่ไม่ใช่ "พรรคประชาธิปัตย์"
รวมทั้งปรากฏการณ์หักดิบความคิดของคนกันเองที่ไม่เห็นด้วยอย่าง "ไชยวัฒน์ สินสุวงศ์" ที่ออกมาค้านอย่างสุดโต่ง แต่ท้ายสุดก็ถูก "สนธิ ลิ้มทองกุล" เรียกเข้าห้องเย็นเพื่อให้สงบปากสงบคำ
ห้วงเวลาหลังจากจุดพลุเปิดวาระการเมืองใหม่ แกนนำพันธมิตร มีเวลากว่า 2 เดือนก่อนจะถึงวันครบรอบ 1 ปีแห่งการต่อสู้ ช่วงเวลาดังกล่าวจึงถือเป็น "นาทีทอง" ให้แกนนำพันธมิตร เดินสายสร้างความเข้าใจและโน้มน้าวมวลชนให้เห็นด้วยกับการ "แสวงหาอำนาจใหม่" ผ่านเวทีการเมืองแบบรัฐสภา
ช่วงเวลาที่ผ่านมาคนเห็นต่างเริ่มเห็นตรงกัน การเปิดเวทีในวันที่ 24-25 พฤษภาคมที่อิมแพค เมืองทองธานี จึงอาจเป็นการขอฉันทามติเพื่อ "ประทับตา" การตั้งพรรคอย่างเป็นรูปธรรมจากมวลชนเท่านั้น
แม้ว่าแกนนำพันธมิตร จะสามารถผ่านด่านแรกไปได้ แต่ก็ใช่ว่าแนวทางการสร้างการเมืองใหม่ในรูปแบบพรรคการเมืองจะถูกโรยด้วยกลีบกุหลาบ ด้วยเพราะการดำรงอยู่ของพรรคการเมืองจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้อง "หาหัว" ที่มีพลังในการดึงดูดมวลชน
วินาทีนี้ชื่อชั้น "สนธิ ลิ้มทองกุล" จึงถูกเรียกหาเป็นอันดับต้นๆ แต่ "สนธิ" อาจไปไม่ถึงฝัน ด้วยเหตุว่าติดชนักข้อกฎหมายที่ยังคงเป็นบุคคลล้มละลายหรือเคยเป็นบุคคลล้มละลายที่ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 102 (2) ระบุห้ามไม่ให้สมัคร ส.ส. หากพรรคพันธมิตร ถูกตั้งขึ้น อาจต้องหาหัวใหม่ที่ไม่ใช่ "สนธิ ลิ้มทองกุล"
นอกเหนือการหาหัวที่น่าศรัทธา แต่การตั้งพรรคการเมืองก็ยังมีปัจจัยอื่นที่ต้องพิจารณา โดยเฉพาะแนวทางการเมืองที่จำเป็นอย่างยิ่งกับการสร้างการเมืองใหม่ที่สังคมคาดหวัง
แม้วินาทีนี้ "จำลอง ศรีเมือง" และ "ประพันธ์ คูณมี" จะออกมาโยนหินให้พรรคใหม่ขับเคลื่อนด้วย "โมเดลพลังธรรมปาร์ตี้" ที่ต้องการเห็นนักการเมืองต้องเป็นคนซื่อสัตย์ เสียสละ กล้าหาญ มีประสิทธิภาพ และไม่เดินตามการเมืองน้ำเน่า
อันเป็นหนทางที่พรรคพลังธรรมเคยโกยเสียง ส.ส.เข้าสภาได้ถึง 47 คนเมื่อ 20 ที่แล้ว
แต่แนวทางนี้ก็ใช่ว่าจะได้รับเสียงตอบรับจากแกนนำคนอื่น
เพราะหลายคนต่างรู้ดีว่าบทสรุปของพรรคพลังธรรมจบลงด้วยการได้ ส.ส.เพียงเสียงเดียว หลังจากที่ตั้งพรรคมาไม่ถึง 10 ปี
การรู้จักจุดจบของ "พลังธรรมโมเดล" จึงทำให้แกนนำพันธมิตร เข็ดขยาดที่จะเดินตาม เพราะการ "แสวงหาอำนาจต่อรองครั้งใหม่" ถือเป็นการทุบหม้อข้าวหม้อแกงที่มีจุดกำหนดมาจากข้างถนน
การตั้งพรรคการเมืองภาคประชาชนครั้งนี้จึงมีความเป็นไปได้ที่แกนนำอาจจะหยิบฉวย "จุดอ่อน-จุดแข็ง" ของพรรคการเมืองต่างๆ เข้ามาผสานให้เป็นพรรคการเมืองสายพันธุ์ใหม่ ซึ่งน่าสนใจว่าพรรคการเมืองสายพันธุ์นี้จะเข้ากับสังคมวิทยาการเมืองแบบไทยๆ หรือไม่??
และเป็นเรื่องที่น่าจับตาว่า ฝันของพันธมิตร ที่ต้องการสร้างการเมืองใหม่ในรัฐสภาจะไปไกลแค่ไหน
พรรคใหม่..พันธมิตร พลังธรรมโมเดล..แค่ทางเลือก
หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ข่าวการเมือง พรรคใหม่..พันธมิตร พลังธรรมโมเดล..แค่ทางเลือก
Love illusion ความรักลวงตา เพลงที่เข้ากับสังคมonline
Love illusion Version 2คนฟังเยอะ จนต้องมี Version2กันทีเดียว
Smiling to your birthday เพลงเพราะๆ ไว้ส่งอวยพรวันเกิด หรือร้องแทน happybirthday