ไม่มีใครคิดฝันว่าจะเกิดคดีลอบสังหารนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรฯขึ้นกลางเมืองแบบนั้น
เพราะไม่เข้าใจว่าทำไมคนร้ายถึงกล้าขนอาวุธสงคราม ทั้งปืนเอชเค เอ็ม 16 และเครื่องยิงระเบิดเอ็ม 79 ไปยิงถล่มรถของนายสนธินับร้อยนัด ทั้งที่อยู่ในช่วงที่รัฐบาลประกาศพ.ร.ก.สถานการณ์ฉุกเฉิน
ในช่วงที่ทหารยืนถือปืนควบคุมแทบทุกแยกทุกถนน มีรถถังประจำตามด่านรอบกรุง
จนทำให้เกิดการตั้งข้อสงสัยว่าอาจเป็นฝีมือคนในเครื่องแบบ หรือคนมีสี
และตั้งข้อสงสัยว่าทำไมคนร้ายจึงวางแผนปองร้ายแกนนำม็อบเสื้อเหลืองในช่วงเวลานี้
ซึ่งประจวบเหมาะกับช่วงเวลาที่ม็อบเสื้อแดงยอมสลายยอมยุติการชุมนุม เหตุการณ์ต่างๆเริ่มคลี่คลายไปในทางที่ดีแล้ว
นอกจากนี้ยังมีคนตั้งข้อสงสัยอีกว่าหากการสังหารนายสนธิสำเร็จลุล่วงแล้ว จะเกิดผลกระทบอย่างไรบ้าง
รัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จะล่มสลายไปในทันทีทันใดหรือไม่?
พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จะพ้นมลทินข้อกล่าวหาต่างๆ ได้เดินทางกลับเมืองไทยเลยหรือเปล่า?
มวลชนคนเสื้อแดงจะหวนกลับมาระดมพลชุมนุมใหญ่ ปิดบ้านปิดเมืองอีกครั้งหรือไม่?
ทั้งหมดยังเป็นปริศนาที่รอให้ตำรวจคลี่คลายให้กระจ่าง
ล่าสุดทีมงานสืบสวนสอบสวนของตำรวจได้เบาะแสจากปลอกกระสุนปืนที่พบในที่เกิดเหตุ
ซึ่งระบุชัดว่าเป็นปืนของหน่วยราชการแห่งหนึ่งในกรุง- เทพฯ!!
ตำรวจยังตั้งข้อสังเกตด้วยว่า ในช่วงที่เกิดเหตุนั้นเป็นช่วงที่รัฐบาลประกาศพ.ร.ก.ในสถานการณ์ฉุกเฉิน ทำให้ทหารมีอำนาจเต็มที่ในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล
การลงมือครั้งนี้ จึงไม่น่าจะเป็นการจ้างวานฆ่า หรือเป็นฝีมือของมือปืนรับจ้างทั่วไป
น่าเชื่อได้ว่าคนร้ายเป็นกลุ่มผู้เชี่ยวชาญอาวุธในหน่วยงานราชการบางหน่วย!?
ตำรวจยังประเมินถึงสาเหตุการลอบสังหารแกนนำพันธมิตรรายนี้ เป็นการหวังผลเพียงอย่างเดียวคือต้องการให้การเคลื่อน ไหวของกลุ่มพันธมิตรที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต หยุดชะงักลง
มีการตั้งข้อสงสัยว่าคำสั่งกำจัดนายสนธิครั้งนี้ เกี่ยวข้องกับพฤติกรรมส่วนตัวของนายสนธิเอง
โดยเฉพาะคลิปการปาฐกถาของนายสนธิที่ต่างประเทศที่มีเนื้อหาพาดพิงถึงบุคคลหลายคนที่นายสนธิเคยเข้าไปใกล้ชิด
จนมองว่านายสนธิชอบนำเรื่องความลับสำคัญๆ ออกมาตีแผ่เสียเอง
อาจเป็นการส่งสัญญาณ หรือเป็นการเตือน
และคงเป็นเรื่องยากที่ตำรวจจะตามจับคนร้าย
หากเป็นฝีมือของคน"มีสี"จริงๆ