โจนาธาน เฮด ผู้สื่อข่าวบีบีซีมองเหตุการณ์ความวุ่นวายที่เกิดขึ้นในช่วงหลายวันที่ผ่านมาว่า
เกิดจากการแบ่งขั้วในสังคมทั้งที่ครั้งหนึ่งประเทศไทยเคยได้รับการยกย่องว่าเป็นตัวอย่างที่ดีเยี่ยมของความมั่นคงและความกลมเกลียวในสังคม แต่การแบ่งขั้วที่เกิดขึ้นในไทยไม่ใช่ระหว่างคนเมืองกับคนชนบท หรือคนร่ำรวยกับคนยากจนอย่างที่พบเห็นทั่วไป หากแต่เป็นเสื้อเหลือและเสื้อแดง ซึ่งมีปัจจัยเพียงหนึ่งเดียวที่ทำให้เกิดความแตกแยกนั้นคือ อดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร
นักข่าวของบีบีซีมองว่า ไม่ใช่คนเสื้อแดงทุกคนจะรักเทิดทูนที่ตัวทักษิณ แต่เสื้อแดงส่วนใหญ่คิดว่าเขาต้องออกจากตำแหน่งอย่างไม่เป็นธรรมจากการรัฐประหารเมื่อปี 2549
และถูกดำเนินคดีจากหลายข้อหา ทั้งยังเชื่อในนโยบายประชานิยมในสมัยที่เขาเป็นนายกรัฐมนตรี ไม่ใช่เพราะ นโยบายเหล่านี้ช่วยให้คนยากไร้ในชนบทมีชีวิตที่ดีขึ้น หากแต่เพราะเป็นครั้งแรกที่คนยากไร้รู้สึกว่าเสียงโหวตของพวกเขาก่อให้เกิดสิ่งที่จับต้องได้ คนเสื้อแดงรู้สึกว่าทักษิณทำให้เสียงของพวกเขามีพลังในสังคม ทั้งที่ก่อนหน้าพวกเขาเป็นชนชั้นที่ถูกมองข้าม
ขณะเดียวกันนายกรัฐมนตรี อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ยังไม่สามารถดึงเสียงสนับสนุนจากคนในชนบทได้
โดยเฉพาะคนภาคเหนือและภาคอีสานซึ่งเป็นแหล่งที่มาสำคัญของกลุ่มคนเสื้อแดง ดูเหมือนว่าจะยังไม่มีใครที่โดดเด่นและได้รับการยอมรับจากทุกฝ่าย ดังนั้น วิธีการที่นายกฯอภิสิทธิ์จะจัดการกับบรรดาแกนนำของกลุ่มคนเสื้อแดง โดยเฉพาะเมื่อเปรียบเทียบกับแกนนำเสื้อเหลืองที่ก่อความไม่สงบเมื่อปีที่แล้ว จะเป็นบททดสอบสำคัญที่จะพิสูจน์คำมั่นของเขาที่พูดเสมอว่าจะใช้หลักนิติธรรมกับทุกฝ่ายด้วยความเสมอภาค