ผวาเสื้อแดง ท่องเที่ยววูบ ยกเลิกทัวร์อื้อ
ท่องเที่ยววูบผวาม็อบเสื้อแดง นักท่องเที่ยวต่างชาติขอยกเลิกทัวร์อื้อ สงกรานต์ถนนข้าวสารยอดจองห้องพักเหลือเพียง 20% ประธานหอการค้าเชียงใหม่ หวั่นสถานการณ์บานปลายกระทบการลงทุนจากต่างชาติ
สถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดงที่เริ่มบานปลายจนอาจกระทบต่อบรรยากาศการท่องเที่ยวของไทย โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ทำให้ผู้เกี่ยวข้องในวงการท่องเที่ยวต้องเรียกประชุม เพื่อแก้ไขปัญหาเป็นการด่วน โดยเมื่อวันที่ 10 เมษายน น.ส.เพ็ญสุดา ไพรอร่าม รองผู้ว่าการด้านบริหาร และรักษาการผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า ททท.ได้เรียกประชุมผู้บริหารเป็นการด่วน เพื่อหารือเกี่ยวกับสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง โดยที่ประชุมมีมติให้เปิดศูนย์ปฏิบัติการวางแผนการท่องเที่ยวและศูนย์ปฏิบัติการในภาวะวิกฤติ (ศวก.) ขึ้นมาอีกครั้ง เพื่อรายงานสถานการณ์ในประเทศให้นักท่องเที่ยวต่างชาติรับทราบอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งให้สำนักงานต่างประเทศของ ททท.ส่งข้อมูลผลกระทบในต่างประเทศมาให้ทราบ เพื่อนำข้อมูลทั้งหมดรายงาน นายชุมพล ศิลปอาชา รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา ทราบทุก 2 วัน
ผลกระทบในเบื้องต้นนั้น การจัดงานสงกรานต์ในเขตกรุงเทพฯ ที่มีถึง 5 พื้นที่ จะได้รับผลกระทบสูง ขณะที่งานสงกรานต์ในต่างจังหวัด ซึ่ง ททท.ร่วมจัดกว่า 13 พื้นที่ น่าจะยังได้รับความสนใจและคึกคักตามปกติ เนื่องจากต่างชาติเปลี่ยนเส้นทางการเดินทางไปยังต่างจังหวัดแทนกรุงเทพฯ
นายสุรพล เศวตรเศรณี รองผู้ว่าการด้านสื่อสารการตลาด ททท. และผู้อำนวยการ ศวก. กล่าวว่า ขณะนี้มีการประกาศเตือนนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศที่จะเดินทางเข้ามาในประเทศไทยแล้วราว 14 ประเทศ โดย 5 กลุ่มประเทศ เป็นการเตือนให้ระมัดระวังในการเดินทางเข้าประเทศไทยในพื้นที่ชุมนุมในระดับ 2 จาก 4 ระดับ และหลีกเลี่ยงการเดินทางไปใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้แก่ อังกฤษ ออสเตรเลีย แคนาดา ส่วนนิวซีแลนด์ประกาศเตือนสำหรับการเดินทางไป 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ในระดับมีความเสี่ยงสูง และการเดินทางในพื้นที่ชุมนุมในระดับที่มีความเสี่ยงบ้าง และญี่ปุ่นประกาศเตือนให้หลีกเลี่ยงการเดินทางในแหล่งการชุมนุม
นอกจากนี้ อีก 9 ประเทศ ที่ยังมีการประกาศเตือนนักท่องเที่ยวนับตั้งแต่เหตุการณ์ปิดล้อมสนามบินสุวรรณภูมิ มีการเพิ่มข้อมูลรายงานสถานการณ์จริง เหตุการณ์ชุมนุมเพิ่มเติม แต่ไม่ได้เพิ่มระดับ ได้แก่ เบลเยียม ฝรั่งเศส อิตาลี สวิตเซอร์แลนด์ เยอรมนี ไอร์แลนด์ นอร์เวย์ เดนมาร์ก และสิงคโปร์ อย่างไรก็ตาม ภาพรวมความเคลื่อนไหวแต่ละประเทศต่อเหตุการณ์ดังกล่าว ถือว่ายังไม่ได้อยู่ในระดับรุนแรง
นายอภิชาติ สังฆอารี นายกสมาคมไทยบริการท่องเที่ยว หรือ แอตต้า ในฐานะตัวแทนผู้ประกอบการที่นำนักท่องเที่ยวเข้ามาในประเทศ (อินบาวด์) กล่าวว่า ขณะนี้นักท่องเที่ยวหลักกลุ่มเอเชีย ซึ่งจะเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในช่วงสงกรานต์มากที่สุด ได้ยกเลิกการเดินทางแล้ว เนื่องจากกังวลความวุ่นวายทางการเมืองที่เกิดขึ้นในประเทศไทย โดยเฉพาะจีนและญี่ปุ่น ขณะที่นักท่องเที่ยวจากยุโรปมีการสอบถามเข้ามาเพื่อยกเลิกทัวร์ เพราะกลัวความไม่ปลอดภัย
"ขณะนี้ผู้ประกอบการทัวร์ส่วนใหญ่ปรับแผน โดยการปรับโปรแกรมการท่องเที่ยว จากส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวนิยมเข้ามาเที่ยวในกรุงเทพ 1-2 วันและบินต่อไปยังจังหวัดอื่น เช่น ภูเก็ต สมุย หรือเชียงใหม่ แต่ขณะนี้ปรับเป็นการบินตรงสู่แหล่งท่องเที่ยวต่างจังหวัด โดยยกเลิกโปรแกรมซิตี้ทัวร์ในกรุงเทพฯ ส่งผลให้คาดว่า รายได้จากการท่องเที่ยวในกรุงเทพฯ จะสูญเสียรายได้ไม่น้อยกว่าวันละ 6 ล้านบาท จากนักท่องเที่ยวในปัจจุบัน ซึ่งคิดเป็น 5,000 คนต่อวัน ลดลงจากช่วงปกติที่ 1หมื่นคนต่อวัน และใช้จ่ายสำหรับซิตี้ทัวร์ 1,200 บาทต่อคนต่อวัน" นายอภิชาติกล่าว
นายประกิจ ชินอมรพงษ์ นายกสมาคมโรงแรมไทย กล่าวว่า หลังจากเริ่มมีประกาศเตือนนักท่องเที่ยวมากกว่า 10 ประเทศ ถึงสถานการณ์การชุมนุมดังกล่าว เริ่มส่งผลให้ยอดการจองห้องพักในช่วงเทศกาลสงกรานต์ และวันแรงงาน เริ่มมีการยกเลิกแล้ว ล่าสุดนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นที่จะเข้ามาในประเทศไทยช่วงเดือนพฤษภาคมนี้ และเข้าพักในโรงแรมอิมพีเรียล ควีนส์ปาร์ค ได้แจ้งยกเลิกการจองแล้วกว่า 300 ห้อง เนื่องจากมีการประกาศเตือนของประเทศญี่ปุ่น ทำให้ตอนนี้สมาคมต้องเร่งประมวลข้อมูลการยกเลิกจองของนักท่องเที่ยวในโรงแรมทั่วประเทศ เพื่อเป็นข้อมูลสำหรับหน่วยงานต่างๆ ในการแก้ไขปัญหาต่อไป เช่น ททท. ซึ่งติดตามข้อมูลความเสียหายมาอย่างต่อเนื่อง
"สิ่งที่น่าเป็นห่วงมากกว่านั้นคือ การเข้ามาของตลาดจีนในช่วงวันแรงงาน เดือนพฤษภาคม ที่วางเป้าไว้กว่า 5 หมื่นคน รวมถึงการประชุมในช่วงปลายปีนี้ ที่จะมีจำนวนนักท่องเที่ยวเข้ามามากกว่านี้ เช่น การประชุมทางการแพทย์ และการประชุมด้านโภชนาการ มีผู้เข้าร่วมประชุม 6-7 พันคน และการประชุมของสโมสรไลอ้อนกว่า 2 หมื่นคน ซึ่งหากเหตุการณ์ชุมนุมยืดเยื้อจะมีแต่ทำลายและยกเลิก สร้างผลกระทบต่ออุตสาหกรรมมากกว่าขณะนี้มาก" นายประกิจกล่าว
นายสุรัตน์ วงศ์ชาญศิลป์ นายกสมาคมผู้ประกอบการค้าถนนข้าวสาร กล่าวว่า สถานการณ์ชุมนุมที่เกิดขึ้น ส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจท่องเที่ยวในเทศกาลสงกรานต์ที่ถนนข้าวสารแล้ว เนื่องจากกลุ่มนักท่องเที่ยวที่เข้ามาเที่ยวและพักเป็นกลุ่มที่เดินทางมาท่องเที่ยวเอง (แบ็กแพ็ก) ที่มีความคล่องตัวในการตัดสินใจเปลี่ยนแปลงการเดินทาง ส่งผลให้โรงแรมย่านถนนข้าวสารที่มีการจองเข้ามาก่อนหน้านี้กว่า 95% ลดลงเหลือ 20% เท่านั้น
"คาดว่าหากสถานการณ์ยังคงรุนแรงมากขึ้น ธุรกิจในย่านถนนข้าวสารที่จะสะพัดในช่วงวันที่ 12-15 เมษายนนี้ จะไม่เป็นไปตามเป้าหมาย ทั้งจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่จะเข้ามากว่า 2 แสนคน และรายได้หมุนเวียนที่ตั้งเป้าไว้ 300 ล้านบาท" นายสุรัตน์กล่าวและว่า อย่างไรก็ตาม เพื่อเสริมความมั่นใจในการเข้ามาท่องเที่ยวอีกครั้ง สมาคมได้ปรับแผนเพิ่มความมั่นใจด้านความปลอดภัย โดยได้ว่าจ้างพนักงานรักษาความปลอดภัยเพิ่มเติม จาก 300 คน เป็น 400 คน รองรับเหตุการณ์ดังกล่าวเบื้องต้น โดยหวังว่าจะสามารถเรียกความมั่นใจให้แก่นักท่องเที่ยวได้ในระดับหนึ่ง
นายรณชิต มหัทธนะพฤทธิ์ รองประธานอาวุโส ฝ่ายการเงินบัญชีและบริหาร บริษัท โรงแรมเซ็นทรัล พลาซา จำกัด เปิดเผยว่า การที่กลุ่มเสื้อแดงปิดถนนสำคัญในกรุงเทพฯ ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยวต่างชาติ ล่าสุดหลายประเทศออกคำเตือนว่า หากไม่มีความจำเป็นควรหลีกเลี่ยงการเดินทางมาไทย ซึ่งในประเทศที่ถูกเตือนเป็นกลุ่มลูกค้าสำคัญของบริษัท อาทิ อังกฤษ และประเทศแถบยุโรป
"ตอนนี้ฝ่ายการตลาดของเราก็เช็กยอดการยกเลิกห้องพักอยู่ ซึ่งเชื่อว่าการชุมนุมจะทำให้ยอดการยกเลิกห้องพักมากขึ้น เรามีหลายๆ ประเทศออกคำสั่งว่า หากไม่จำเป็นก็ควรจะหลีกเลี่ยง ซึ่งที่จริงแล้วยอดจองในเดือนเมษายนนี้เยอะมาก ตัวเลขของการจองห้องพักที่สมุย 80% ภูเก็ต 80-90% ดีกว่าปีก่อน จากเดิม 50% ซึ่งยอดจองที่เพิ่มขึ้นอาจมาจากราคาห้องพักเฉลี่ยในช่วงท่องเที่ยวไม่คึกคัก ถูกกว่าช่วงที่การท่องเที่ยวคึกคัก" นายรณชิตกล่าว
ทั้งนี้ ที่ผ่านมาบริษัทได้ตอบข้อซักถามจากทั้งลูกค้าและเอเย่นต์ เพื่ออธิบายถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นภายในประเทศ โดยพบว่าลูกค้าส่วนใหญ่ก็เข้าใจ เพราะประเทศไทยยังมีสถานที่ท่องเที่ยวในต่างจังหวัด อาทิ ทะเลทางตอนใต้ของประเทศ
นายณรงค์ คองประเสริฐ ประธานหอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า การเคลื่อนไหวของกลุ่มมวลชนคนเสื้อแดงสร้างผลกระทบด้านการค้าการลงทุนเป็นอย่างมาก นักลงทุนอาจจะชะลอการลงทุนออกไป เพราะไม่มั่นใจในเสถียรภาพทางการเมืองของประเทศไทย
ในส่วนของ จ.เชียงใหม่ ในปีนี้มีกลุ่มทุนต่างชาติจากประเทศเนเธอร์แลนด์ เตรียมเข้ามาลงทุนด้านศูนย์การค้าซึ่งมีมูลค่าการลงทุนกว่า 3,000 ล้านบาท และขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการ และมีกำหนดจะสร้างในปีนี้ แต่หากสถานการณ์ทางการเมืองไม่มั่นคงก็อาจจะทำให้เกิดการชะลอการลงทุนไปได้เช่นกัน โดยก่อนหน้านี้กลุ่มเครือเซ็นทรัลที่มีโครงการจะขยายศูนย์การค้ามูลค่าลงทุนกว่า 1,000 ล้านบาท ก็ชะลอไปแล้ว เนื่องจากผลพวงจากภาวะเศรษฐกิจ