เสื้อแดงป่วนกรุง-พัทยาทำลายความเชื่อมั่น ผู้นำเข้าต่างชาติแห่สอบถามผู้ส่งออกไทย ผวาปิดท่าเรือ-สนามบิน เอกชนชี้เริ่มมีสัญญาณกระทบส่งออก ห่วงมองไทยวกกลับสู่จุดต่ำสุด หลังหลายฝ่ายพยายามฟื้นความเชื่อมั่น
นายพงษ์ศักดิ์ อัสสกุล รองประธานสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวถึงผลกระทบจากการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงที่ใช้ยุทธศาสตร์ดาวกระจาย และการปิดล้อมโรงแรมรอยัล คลิฟ บีช รีสอร์ท พัทยา ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นทำให้ต่างประเทศเชื่อว่าความวุ่นวายในเมืองไทยจะเกิดขึ้นอีก จากที่ก่อนหน้านี้ทุกฝ่ายพยายามแสดงให้ต่างชาติเห็นว่า ไทยกำลังเข้าสู่ภาวะปกติ และความเชื่อมั่นการลงทุนและการท่องเที่ยวเริ่มกลับคืนมา จึงห่วงว่าการชุมนุมจะส่งผลกระทบกับเศรษฐกิจปีนี้ ซึ่งจำเป็นที่ทุกฝ่ายต้องช่วยกันประคองประเทศให้กลับมาปกติ
"ขณะนี้การชุมนุมเริ่มส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของประเทศมากแล้ว ซึ่งลูกค้าต่างประเทศมีการสอบถามผู้ส่งออกเข้ามามากถึงการชุมนุมว่าเป็นอย่างไร แต่ทางผู้ส่งออกไม่สามารถตอบคำถามได้ว่าจะมีการปิดท่าเรือหรือปิดสนามบินอีกหรือไม่ แสดงให้เห็นว่าการชุมนุมครั้งนี้มีแนวโน้มที่จะส่งผลกระทบต่อการส่งออกแล้ว ขณะที่ในช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมา ผู้นำเข้าเริ่มเข้ามาเจรจาเพิ่มคำสั่งซื้อบ้างแล้ว" นายพงษ์ศักดิ์กล่าว
นายธนิต โสรัตน์ รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า การสร้างความวุ่นวายของกลุ่มคนเสื้อแดง ทำให้ต่างชาติมองไทยว่าเริ่มเข้าสู่จุดต่ำสุดอีก แม้จะไม่มีการปิดสนามบินหรือท่าเรืออีก แต่ทำให้ต่างชาติเห็นว่าปัญหาเกิดขึ้นอีกแล้ว ทำให้ไทยไม่สามารถแก้ตัวได้ ว่าจะไม่มีความวุ่นวายเกิดขึ้นอีก ขณะที่การประชุมที่พัทยาก็มีทั้งผู้นำ มีองค์กรระดับโลกทั้งธนาคารโลก กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) และธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย (เอดีบี) ซึ่งการสร้างความวุ่นวายนั้น เป็นการทำลายความน่าเชื่อถือของประเทศ
นายอธิป พีชานนท์ กรรมการและรองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) และนายกสมาคมอาคารชุดไทย กล่าวว่า สถานการณ์ที่เกิดขึ้นกระทบต่อความเชื่อมั่นอย่างแน่นอน และหากยืดเยื้อจะทำให้การจับจ่ายของประชาชน รวมทั้งการลงทุนของผู้ประกอบการหยุดชะงัก โดยเฉพาะในสายตาต่างชาติที่จะมองประเทศไทยว่ามีปัญหา ทำให้ภาพลักษณ์ที่ดีในการท่องเที่ยวถูกลบเลือนไป จึงขอเรียกร้องให้กลุ่มผู้ชุมนุมแสดงออกตามกรอบของกฎหมาย ไม่ใช้วิธีกดดันที่เกิดความรุนแรง
นายเลอศักดิ์ จุลเทศ ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน กล่าวถึงการรักษาความปลอดภัยของพนักงานและทรัพย์สินของธนาคาร ว่าได้เรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งได้ข้อสรุปว่า สำหรับสาขาของธนาคารที่อยู่บริเวณใกล้เคียงกับสถานที่ชุมนุมนั้น หากมีเหตุการณ์ที่คาดว่าจะรุนแรงมาก ก็อนุญาตให้มีการปิดสาขาทันที