คมชัดลึก :รองหัวหน้าพรรคปชป.หนุน"พระปกกล้า"เป็นแกนกลางในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เหมาะสมที่สุด แก้ข้อครหาการเมืองเข้ามาล้วงลูกได้ ส่วนอายุรัฐบาลจะอยู่ถึง19เดือนตามกรอบที่วางไว้หรือไม่ ก็ใช่เรื่องสำคัญอ้างกระบวนการยังคงเดินต่อไป เผยหาก"บรรหาร"ไม่เห็นด้วย ก็เสนอความเห็นได้ เชื่อทุกฝ่ายรับฟัง
(10มี.ค.) นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รมว.ศึกษาธิการ ในฐานะรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวแสดงความเห็นถึงแนวทางการปฏิรูปการเมืองที่แบ่งช่วงเวลาในการดำเนินการเป็น 8-3-8 เดือน
เป็นรายละเอียดที่สถาบันพระปกเกล้าเป็นผู้ดำเนินการกำหนดกรอบเวลาขึ้นมา รัฐบาลไม่ได้ไปขีดเส้นว่าจะต้องเป็นระยะเวลา 8-3-8 เดือน หลักใหญ่ของรัฐบาลคือต้องการเห็นการพัฒนาการเมือง และประชาธิปไตยเกิดขึ้น จึงมีความจำเป็นที่ต้องหาเจ้าภาพในการดำเนินการวันนี้สถาบันพระปกเกล้าฯก็รับเป็นเจ้าภาพแล้ว ส่วนตัวก็คิดว่าเหมาะสมที่สุดในสถานการณ์ปัจจุบัน มั่นใจว่าจะเป็นที่ยอมรับของคนส่วนใหญ่
เมื่อถามว่าแต่ทางพรรคเพื่อไทยโจมตีว่าสถาบันพระปกเกล้าไม่มีความเป็นกลางจริง และกรอบเวลาที่กำหนดออกมาเป็นแค่เพียงการซื้อเวลาให้กับรัฐบาล
นายจุรินทร์ กล่าวปฏิเสธว่า ไม่ได้เป็นการซื้อเวลา เป็นเรื่องที่สถาบันพระปกเกล้าซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านวิชาการ เป็นผู้ไปกำหนดว่าความเหมาะสมของระยะเวลาจริงๆแล้วควรจะเป็นอย่างไรและจะเสร็จเมื่อไหร่ บางเรื่องหากไปเร่งรัดมากเกินไป ผลสรุปออกมาอาจไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ที่อยากเห็น อาจจะลวกๆเกินไป จึงควรให้โอกาสเขาไปกำหนดทั้งในส่วนของกรอบระยะเวลา แนวทางและรายละเอียดทั้งหมด ซึ่งทุกฝ่ายเองก็อยากเห็นว่าจะเดินต่อไปอย่างไร
ต่อข้อถามว่ากรอบเวลาที่วางไว้ 19 เดือน คิดว่าอายุรัฐบาลจะอยู่จนเกิดผลสำเร็จหรือไม่ นายจุรินทร์ กล่าวว่า เป็นเรื่องของอนาคต รัฐบาลจะอยู่ยาวหรือสั้นแค่ไหน
ต่อไปนี้ถ้าพูดถึงการปฏิรูปการเมืองหรือการพัฒนาประชาธิปไตยก็คงเป็นเรื่องที่สามารถที่จะดำเนินการแยกส่วนได้ ดังนั้นไม่ว่ารัฐบาลจะอยู่สั้นหรือยาวอย่างไร กระบวนการดังกล่าวก็สามารถดำเนินการต่อไปได้ด้วยตัวของมันเอง “ เป็นการทำเพื่อการเมือง และประชาธิปไตยทั้งระบบ ไม่ใช่เพื่อรัฐบาลหรือฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง เพียงแต่รัฐบาลจะต้องเป็นผู้เริ่มต้นให้ เพราะถ้าไม่เริ่มต้นให้ก็ไม่รู้จะให้ใครเริ่มต้น จากนั้นก็ให้เป็นเรื่องของสถาบันพระปกเกล้า ” นายจุรินทร์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่าแต่นักวิชาการมองว่ารัฐบาลควรจะเป็นผู้ทำเอง เพราะเป็นเรื่องของพรรคการเมือง รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ถ้าเริ่มต้นให้รัฐบาลทำเองก็จะมีข้อครหาอีก
ขนาดให้สถาบันพระปกเกล้าซึ่งคิดว่าเป็นกลางทางการเมืองพอสมควรก็ยังถูกวิจารณ์ ถ้าให้รัฐบาลทำเองก็ต้องมีปัญหาแน่นอนงานก็เดินหน้าต่อไม่ได้ ดังนั้นรัฐบาลจะไม่เข้าไปแทรกแซง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสัดส่วนของนักการเมืองหรือรายละเอียดอื่นๆ เมื่อมอบให้แล้วก็ต้องให้สถาบันพระปกเกล้าเขาทำเองอย่างเต็มที่ อีกทั้ง ส่วนตัวยังเชื่อว่าการปฏิรูปการเมืองจะเดินหน้าได้ถ้าทุกฝ่ายช่วยกัน รวมทั้งช่วยให้ความเห็นในทิศทางสร้างสรรค์และเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาประชาธิปไตยและการเมืองจริงๆ
เมื่อถามว่าแม้แต่นายบรรหาร ศิลปอาชา อดีตหัวหน้าพรรคชาติไทย ก็ยังไม่เห็นด้วย นายจุรินทร์ กล่าวว่า คิดว่าก็ต้องฟังนายบรรหารด้วยเหมือนกัน
แต่ตอนนี้คิดว่าเมื่อสถาบันพระปกเกล้ารับเป็นเจ้าภาพแล้ว ทุกฝ่ายก็สามารถที่จะช่วยออกความเห็นและผลักดันให้ทิศทางต่างๆเดินหน้าต่อไปได้ ขณะเดียวกันสถันพระปกเกล้าก็ควรเปิดโอกาสให้ทุกฝ่ายเข้ามามีส่วนร่วม ทั้งผู้ร่วมกำหนดทิศทางและการให้ความเห็นประกอบ ส่วนเมื่อยกร่างหรือปฏิรูปการเมืองเสร็จแล้วก็ต้องมาดูผลลัพธ์ที่ออกมาว่าไปในทิศทางใด ในส่วนของรัฐบาลก็สนับสนุนสถาบันพระปกเกล้าไปดำเนินการแล้วผลออกมาอย่างๆไรก็ต้องยอมรับร่วมกัน