ที่พรรคเพื่อไทย เมื่อเวลา 10.30 น. วันนี้(8 ก.พ.) นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวในรายการ “เพื่อไทยวันอาทิตย์”
ถึงการที่รัฐบาลขึ้นภาษีน้ำมัน ว่า เป็นการขัดต่อนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล เป็นการผลักภาระให้กับประชาชน คนยากจน คนตกงาน เกษตรกร ทำให้สินค้าจ่อขึ้นราคาอย่างต่อเนื่อง โดยขณะนี้มีสินค้าบางตัวเริ่มปรับราคาแล้ว ซึ่งประชาชน 23 ล้านคนเศษได้รับผลกระทบนี้ เหมือนเป็นการเอาหินไปใส่บาตรให้กับคนยากจน ทำให้คนจนแบกรับภาระมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้รายได้ที่รัฐบาลที่ได้จากภาษีมีเพียงเดือนละ 1,917 ล้านบาท หรือประมาณ 1.2 หมื่นล้านบาทในปีงบประมาณ 2552 ซึ่งไม่ได้มีมาก ดังนั้นรัฐบาลควรพิจารณาถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นอย่างรอบคอบ เพราะขณะนี้สถานการณ์ของโลกและประเทศไม่เอื้ออำนวย ถ้ารัฐบาลอยากเก็บภาษีในอัตราเดิม ก็ควรพิจารณาในช่วงราคาน้ำมันในตลาดโลกลดลง ซึ่งช่วงนี้ความต้องการใช้น้ำมันอ่อนลงตามภาวะเศรษฐกิจ ดังนั้นควรใช้โอกาสช่วงที่น้ำมันตลาดโลกลดลง ค่อยทรงราคาน้ำมันไว้ ก็จะเท่ากับการเพิ่มภาษีสรรพสามิตน้ำมันไปในตัว
โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวต่อว่า การที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้ไปขอกู้เงินจากทางรัฐบาลญี่ปุ่นจำนวน 6.3 หมื่นล้านเยน
โดยอ้างว่าจะก็มาเพื่อเก็บหรือใช้ในการกระตุ้นเศรษฐกิจ ถ้ากู้มาแล้วเก็บไว้เฉย ๆ จะยิ่งทำให้มีปัญหาหนัก อีกทั้งการกู้มาเป็นการสร้างภาระให้กับประชาชน อีกทั้งเงินดังกล่าวก็มิใช่เงินของนายอภิสิทธิ์ หรือพรรคประชาธิปัตย์ ดังนั้นรัฐบาลควรคำนึงถึงมาตรการการใช้เงิน โดยเฉพาะการใช้จ่ายเงินในโครงการอภิมหาประชานิยม เช่น การแจกเงิน 2,000 บาทให้กับผู้ประกันตนที่ตกงาน นอกจากนี้รัฐบาลควรชะลอหรือระงับโครงการที่ไม่จำเป็น เช่น การจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ของทหารที่มีงบประมาณผูกพันปี 2550-2551 รวม 53,999 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่เป็นวิธีการจัดซื้อแบบพิเศษไม่ผ่านการประมูล รัฐบาลควรพิจารณานำเงินในการจัดซื้อดังกล่าวมาแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ แต่ตนไม่แน่ใจว่า รัฐบาลจะกล้าดึงอ้อยออกจากปากช้างของฝ่ายทหารหรือไม่.
พท.จวกอภิสิทธิ์ขึ้นภาษีน้ำมันผลักภาระให้ปชช.
หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ข่าวการเมือง พท.จวกอภิสิทธิ์ขึ้นภาษีน้ำมันผลักภาระให้ปชช.