“เฉลิม”ลั่นพร้อมแล้วนั่งเก้าอี้นายกฯ และมีข้อมูลพร้อมซักฟอกรัฐบาลแล้ว คาดยื่นอภิปรายต้นมีนาคมนี้ แถมจวกปชป.เล่นการเมืองไม่พัฒนา ที่ออกมาแฉข้อมูลคนใกล้สมัยนั่งเก้าอี้มท.1 รุกป่าสงวน
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย กล่าวยืนยันความพร้อมทั้งในข้อมูลและหลักฐานที่จะใช้เป็นหลักฐานเพื่อยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีทั้งคณะ ซึ่งสัปดาห์หน้าจะหยิบยกเข้าหารือในที่ประชุมพรรคเพื่อไทย ให้ได้ข้อสรุปว่าจะยื่นญัตติดังกล่าวเมื่อใด แต่ส่วนตัวคาดว่าจะสามารถยื่นได้ประมาณต้นเดือนมีนาคมนี้ โดยจะวางตัวผู้อภิปรายไว้ประมาณ 7 คน และจะพยายามทำให้แตกต่างจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่ผ่านๆ มา ซึ่งจะมีเนื้อหาเข้มข้น และยื่นถอดถอนนายกรัฐมนตรีด้วย
ทั้งนี้ตนพร้อมที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีหากได้รับความเห็นชอบจากที่ประชุมพรรค
แต่ไม่พร้อมที่จะเป็นผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร หรือหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เพราะรู้ว่าหากเป็นหัวหน้าพรรคคงขายไม่ได้ในช่วงที่มีการเลือกตั้ง อีกทั้งพรรคคงต้องมีการปรับโครงสร้างพรรคใหม่เพื่อรองรับการเลือกตั้ง และตนที่ได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร การทำงานจนถึงขณะนี้ยังไม่มีอุปสรรค จึงไม่มีความจำเป็นเร่งด่วนที่จะต้องมีผู้นำฝ่ายค้าน
เมื่อถามถึงกระแสข่าวว่า พรรคต้องการหาคนที่เป็นเลือดแท้ตระกูลชินวัตรมาคุมพรรคนั้น ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวปฏิเสธว่าไม่เป็นความจริง และเรื่องนี้ไม่มีเหตุผลให้คิดมาก เนื่องจากพรรคเพื่อไทยเป็นพรรคที่มีส่วนเชื่อมโยงกับพรรคพลังประชาชน
“ผมรับรองว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่จะมีขึ้น จะไม่จืด และถ้าพรรคเสนอให้ผมเป็นนายกฯ ผมก็พร้อมเป็นนายกฯ ซึ่งหากในสภาฯหากมีการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง คนที่จะล้มนายกฯ จะไม่พร้อมเป็นนายกฯได้อย่างไร การอภิปรายครั้งนี้ท้าทายผมมากเพราะเป็นเรื่องที่มีรายละเอียด มีการวางแผนไว้อย่างดี สลับซับซ้อนมาก แต่มีพฤติกรรมแวดล้อมระบุชัดเจนว่ามีส่วนเชื่อมโยงกับบุคคลในรัฐบาล” ร.ต.อ.เฉลิม กล่าว
ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวถึงงบ 2,000 ล้านบาทของรัฐบาล ที่ฝ่ายค้านเชื่อว่าเป็นงบที่ตั้งขึ้นเพื่อสกัดการเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดง ว่า ตนไม่ทราบข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ และปฏิเสธที่จะให้ความเห็นกรณีแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจของรัฐบาล
ทั้งนี้ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ส.ส.สัดส่วนพรรคเพื่อไทย ยังกล่าวถึงกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์ ออกมาตั้งข้อสังเกตว่าการที่ พ.ต.ท.ไวพจน์ อาภรณ์รัตน์ อดีตเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย (ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง) ถูกจับกุม กรณีรุกป่าสงวนรอยต่อระหว่างจังหวัดตากและจังหวัดกำแพงเพชร ว่าตนรับรู้หรือมีส่วนรู้เห็นในการกระทำของคนใกล้ชิดหรือไม่ ว่า จากการสอบถาม พ.ต.ท.ไวพจน์ ได้รับคำยืนยัน ว่าซื้อที่ดินดังกล่าวตั้งแต่ปี 2546 โดยชำระผ่านธนาคารและกรมบังคับคดี และการที่พรรคประชาธิปัตย์ออกมาให้ข้อมูลกำกวมจึงขอฝากบอกน.พ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ที่ออกมาเปิดเผยเรื่องนี้ว่า ไม่ใช่หน้าที่ เพราะหากถูกจับกุมแล้วก็ต้องปล่อยให้หน่วยงานที่รับผิดชอบดำเนินการ ทั้งนี้พรรคประชาธิปัตย์มีอำนาจในฐานะรัฐบาลหากเรื่องนี้ผิดจริง และเชื่อมโยงมาถึงตนก็ต้องดำเนินการตามกฎหมาย แต่เห็นว่าที่พรรคประชาธปัตย์ให้ข้อมูลเรื่องนี้ถือเป็นการเล่นการเมืองที่ไม่พัฒนา และจะมาลดความน่าเชื่อถือของตนด้วยเหตุใด เนื่องจากตนเป็นคนที่ไม่มีเครดิตอยู่แล้ว
ร.ต.อ.เฉลิม ยังฝากบอกไปยังนายชวรัตน์ ชาญวีระกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ว่า ตนไม่เคยฝากบุตรชายเข้าดำรงตำแหน่งเลขานุการนายชวรัตน์
สมัยที่เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เพราะตำแหน่งดังกล่าว พรรคพลังประชาชนในขณะนั้น จะเป็นผู้ดำเนินการ โดยรัฐมนตรีไม่มีสิทธิ์เลือก ดังนั้นนายชวรัตน์ไม่ควรที่จะพูดเรื่องที่ไม่เป็นความจริง ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวถึงการโฟนอินของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีว่า ตนไม่ทราบกำหนดการ แต่ข่าวที่พรรคประชาธิปัตย์ออกมาระบุว่าทางการญี่ปุ่นสั่งห้ามพ.ต.ท.ทักษิณเข้าประเทศนั้นไม่เป็นความจริง เพราะตามปกติ ญี่ปุ่นจะกำหนดไว้ชัดเจนแล้วว่าบุคคลที่มีคดีความจะไม่ออกวีซ่าให้เข้าประเทศ แต่ที่พรรคประธิปัต์ออกมาพูดมีวัตถุประสงค์เล่นการเมือง