วันนี้ (4 ก.พ.) พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ให้สัมภาษณ์ยอมรับว่าการรวบรวมพยานหลักฐานในคดีไฟไหม้ซานติก้า ผับ อาจไม่รัดกุม จึงทำให้เกิดข้อบกพร่องขึ้น
โดยขอรับผิดแต่ผู้เดียว อย่าไปว่ากล่าวโจมตี พล.ต.อ.จงรัก จุฑานนท์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) และขณะนี้ได้ประสานไปยัง พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม แล้วเพื่อขอเทปบันทึกภาพเหตุการณ์ขณะเกิดเหตุ เพราะหากไม่ได้เทป ก็ยังไม่สามารถสรุปสำนวนคดีได้
ผบช.น.แอ่นอกรับผิด คดีซานติก้าไม่รัดกุม
ส่วนการสอบสวนในประเด็นที่มี พ.ต.อ.สังกัดกองปราบปราม เข้าไปมีหุ้นในซานติก้า ผับ นั้น ผบช.น. กล่าวว่า
ขณะนี้ยังดำเนินการอยู่ ตำรวจจะพิจารณาคดีในส่วนของคดีอาญาว่ามีความผิดหรือไม่ ส่วนเรื่องวินัยต้องขึ้นอยู่กับต้นสังกัด ว่าจะดำเนินการอย่างไร เพราะไม่ได้สังกัด บช.น. ยืนยันขณะนี้ยังเดินหน้าทำสำนวนการสอบสวนต่อไป ไม่ได้รอการพิจารณาว่าจะมีการโอนไปเป็นคดีพิเศษหรือไม่ แต่หากมีการโอนคดีจริงก็พร้อมโอนให้โดยไม่มีเงื่อนไขใดๆ ทั้งสิ้น และหากกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) จะขอเข้ามาร่วมสอบสวนกับ บช.น. นั้นก็เป็นอำนาจของรัฐบาลที่จะสั่งการ
ขณะที่ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวว่า หลังได้รับเอกสารข้อมูลเบื้องต้นจากกระทรวงยุติธรรม เมื่อวานนี้ (3 ก.พ.)
ได้มอบหมายให้ นายประกอบ จิรกิติ รองผู้ว่าฯ กทม. เร่งศึกษาข้อมูลเบื้องต้นว่ามีกรณีอื่นๆ เพิ่มเติมหรือไม่ โดยภายในสัปดาห์นี้ กระทรวงยุติธรรมจะส่งผลสอบสวนฉบับสมบูรณ์ว่าใครเกี่ยวข้องบ้าง และหากทราบว่า มีเจ้าหน้าที่ของ กทม.เข้ามาเกี่ยวข้องจะเร่งดำเนินการตามกฎระเบียบข้าราชการทันที นอกจากนี้ ได้กำชับข้าราชการทุกคนให้ทำงานอย่างรอบคอบ เพื่อป้องกันความผิดพลาดเกิดขึ้นซ้ำอีก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทางสำนักงานเขตบางเขนได้ตรวจสอบพบว่า บุคคลที่มายื่นขออนุญาตก่อสร้างอาคารดังกล่าว เป็นบุคคลใกล้ชิดที่มีนามสกุลเดียวกันกับนางวันรพี ซึ่งเป็นไปไม่ได้ว่านางวันรพี จะไม่ทราบเรื่องว่าเป็นการใช้ชื่อตนเข้าขออนุญาตสร้างอาคาร โดยทางสำนักงานเขตบางเขนเตรียมเรียกสอบผู้ยื่นขออนุญาตอาคารดังกล่าวแล้ว เบื้องต้นคาดว่า สาเหตุที่อาคารที่มีปัญหาส่วนใหญ่ อยู่ในพื้นที่เขตบางเขนเพราะนางวันรพี มีคดีความฐานความผิดก่อสร้างอาคารผิดแบบอยู่ จึงต้องการแก้แค้นสำนักงานเขตบาเขน ซึ่งเรื่องนี้ทางดีเอสไออยู่ระหว่างการสอบสวน