มาร์ค แฉแม้วยังมีอิทธิพล สมุนเดินสายล็อบบี้ล้มอาเซียนซัมมิท-โวสื่อนอกคนไทยพลิกต้านฝ่ายยี้ รบ.


นายกฯ ลั่นกลางสื่อเวทีศก.โลก เชื่อความรู้สึกคนไทยพลิกกลับต้านฝั่งไม่ชอบรบ. ชี้"พลังแม้ว"ยังทรงอิทธิพล เดินสายล็อบบี้ภาคีล้ม"อาเซียนซัมมิท" ไม่กังวลม็อบ อยากเห็นปท.ก้าวไปข้างหน้า อย่าฉุดรั้งเพระาคนๆเดียว หวังมาตรการกระตุ้นศก.ดีขึ้นตั้งแต่มี.ค. เป็นต้นไป

สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานเมื่อวันที่ 31 มกราคมว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีไทย กล่าวกับผู้สื่อข่าวระหว่างการเข้าร่วมประชุมเวทีเศรษฐกิจโลก หรือ เวิลด์ อีโคโนมิค ฟอรัม ที่เมืองดาวอส ประเทศสวิตเซอร์แลนด์   โดยแสดงความเชื่อมั่นว่า กระแสความรู้สึกของคนไทยพลิกกลับไปเป็นการต่อต้านกลุ่มผู้ประท้วงที่ต่อต้านรัฐบาลแล้ว และไม่ได้เป็นกังวลกับเรื่องการชุมนุมประท้วงนี้แต่อย่างใด

"รองนายกรัฐมนตรีได้รับมอบหมายให้ดูแลเรื่องนี้ให้แน่ใจว่า จะไม่มีการกระทำในแบบเดียวกับที่เคยเกิดขึ้นเมื่อปีที่แล้วเกิดขึ้นซ้ำอีก ผมคิดว่าความรู้สึกของประชาชนตอนนี้ก็คือ พวกเขาอยากให้สังคมก้าวไปข้างหน้าอย่างมาก อยากก้าวข้ามความแตกแยกที่เป็นอยู่ในเวลานี้ไป พวกเขาต้องการเห็นรัฐบาลทำงานหนัก รับมือกับปัญหาต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับประชาชน ซื่อสัตย์ และมีจริยธรรม ซึ่งล้วนแต่หายไปนานมากแล้ว"  นายอภิสิทธิ์กล่าว พร้อมกับเสริมว่า ถ้าหากรัฐบาลสามารถทำงานต่างๆ ได้เหมือนๆ กับเดือนที่แล้ว ก็ไม่รู้สึกกังวลอะไรกับการประท้วงอีกต่อไป

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า วิกฤตเศรษฐกิจโลกต่างหากที่เป็นความเสี่ยงที่ใหญ่โตกว่า ทั้งนี้ อาจสั่งให้ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่นอกเหนือจากมาตรการกระตุ้นต่างๆ มูลค่ารวม 3,300 ล้านดอลลาร์ที่ได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภาไปแล้วเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา โดย นายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง อยู่ระหว่างการเจรจากับสถาบันการเงินระหว่างประเทศ โดยมีธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย (เอดีบี) เป็นหลัก เพื่อขอความช่วยเหลือทางด้านการเงินสำหรับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่นี้
 

นายอภิสิทธิ์ กล่าวกับเอเอฟพีด้วยว่า รัฐบาลมีความเข้มแข็งมากขึ้นหลังจากได้รับเสียงสนับสนุนมากขึ้นในรัฐสภาหลังการเลือกตั้งซ่อม แต่ฝ่ายของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีก็ยังคงมีอิทธิพลอยู่ต่อไป โดยบอกด้วยว่า ฝ่ายสนับสนุนอดีตนายกรัฐมนตรีพยายามล็อบบี้สถานทูตของประเทศภาคีสมาชิกอาเซียน ไม่ให้เข้าร่วมประชุมสุดยอดกลุ่มประเทศอาเซียนในไทยในเดือนกุมภาพันธ์นี้

"คุณไม่สามารถประเมินคนที่มีเงินระดับนั้นต่ำๆ เป็นอันขาด แต่ด้วยความเป็นจริงที่ว่า ตอนนี้คนไทยอยากให้ประเทศเคลื่อนไปข้างหน้า ทำไมเราต้องมาถูกฉุดรั้งไว้เพราะคนเพียงคนเดียว" นายอภิสิทธิ์กล่าว

นายอภิสิทธิ์ยืนยันกับสำนักข่าวต่างชาติว่า ในความคิดของตน ตอนนี้ขึ้นอยู่กับรัฐบาลแล้วว่า จะสามารถทำหน้าที่ได้ดีแค่ไหน ตอบสนองประชาชนได้หรือไม่ เพราะคนไทยเบื่อหน่ายความขัดแย้งและแตกแยกมากแล้วจริงๆ

รอยเตอร์ระบุด้วยว่า นายกรัฐมนตรีไทยแสดงความเชื่อมั่นว่า แม้ในทางเทคนิคด้านเศรษฐศาสตร์แล้วเศรษฐกิจไทยอาจตกอยู่ในภาวะถดถอย กล่าวคือมีการเติบโตเป็นลบต่อเนื่องกันทั้งในไตรมาสที่ 4 ของปีที่ผ่านมาและในไตรมาสแรกในปีนี้ ที่เศรษฐกิจอาจหดตัวลงอีกก็เป็นได้ เพราะการท่องเที่ยวของไทยได้รับผลกระทบอย่างหนักจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลกในหลายเดือนที่ผ่านมา แต่หวังว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลจะช่วยให้อัตราการขยายตัวโดยเฉลี่ยทั้งปีเป็นบวกได้

นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า มาตรการกระตุ้นของรัฐบาลที่ดำเนินการไป น่าจะเกิดผลต่อเศรษฐกิจตั้งแต่เดือนมีนาคมเป็นต้นไป ดังนั้น การเติบโตทั้งปีน่าจะดีขึ้น โดยหวังว่า การฟื้นตัวน่าจะเป็นไปได้ในไตรมาสที่สองและสาม ซึ่งจะทำให้โดยรวมทั้งปีเป็นบวกหรืออย่างน้อยที่สุดก็ไม่ตกลงไปในแดนลบ
 
รายงานข่าวระบุว่า ในระหว่างการประชุมครั้งนี้ นายอภิสิทธิ์พบหารือกันายไซยิด ยูซุฟ ราซา กีลานี นายกรัฐมนตรีปากีสถาน เมื่อวันที่ 30 มกราคม โดยได้หยิบยกประเด็นสำคัญทั้งด้านทวิภาคีและระดับภูมิภาคขึ้นมาหารือ และต่างเห็นพ้องที่จะกระชับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศทั้งสองให้แน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในด้านความสัมพันธ์ทวิภาคีและด้านเศรษฐกิจ ที่ปากีสถานคาดหวังว่าจะสามารถสถาปนาความเป็นหุ้นส่วนโดยสมบูรณ์กับประเทศไทยขึ้นได้ ในขณะที่นายอภิสิทธิ์แสดงความยินดีที่จะสนับสนุนปากีสถานให้ได้รับสถานะเป็นประเทศคู่เจรจาของกลุ่มประเทศอาเซียนอย่างเต็มรูปแบบเช่นกัน นอกจากนั้น ยังตอบรับคำเชิญของนายกีลานีว่าจะเดินทางไปเยือนปากีสถานในอนาคตอันใกล้นี้

สำนักข่าวไทยรายงานภารกิจนายกรัฐมนตรีว่า หลังจากนายกรัฐมนตรีเป็นประธานการประชุมเอกอัครราชทูต ประจำภาคพื้นยุโรป ณ โรงแรม Radisson นครซูริก ในช่วงเช้าวันที่ 30 มกราคม ตามเวลาท้องถิ่นซึ่งช้ากว่าประเทศไทย 6 ชั่วโมง นายกฯเดินทางต่อไปยังเมืองดาวอส เพื่อเข้าร่วมเสวนาระหว่างรับประทานอาหารกลางวัน หัวข้อ Growth via Traveland Tourism ณ โรงแรม Waldhuss

ด้านนายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในเวทีเสวนาดังกล่าว นายกรัฐมนตรีได้รับโอกาสกล่าวนำ ในหัวข้ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในวิกฤตเศรษฐกิจ ซึ่งประธานในที่ประชุมและสมาชิกที่เข้าฟังเป็นเจ้าของกิจการโรงแรมขนาดใหญ่ทั่วโลก ทั้งในยุโรป เอเชีย และตะวันออกลางต่างให้การตอบรับ และเห็นพ้องกับคำกล่าวของนายกฯที่นำเสนอแนวทางให้ภาคเอกชนและรัฐบาลมีความร่วมมือในการฟื้นฟูการท่องเที่ยว ในภาวะเศรษฐกิจถดถอย ด้วยการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานการท่องเที่ยว เพื่อรองรับโอกาสใหม่เมื่อเศรษฐกิจฟื้นตัว

"ที่ประชุมเห็นว่านายกรัฐมนตรีเป็นคนที่เข้าใจถึงคุณค่าของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและยังเข้าใจถึงความสำคัญในการพัฒนาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวในยามที่เศรษฐกิจถดถอยรวมทั้ง มีแนวทางในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ให้พัฒนาไปข้างหน้าโดยมีแผนพัฒนาระยะสั้น ระยะกลางและระยะยาว" นายปณิธานกล่าว

ขณะที่นายอภิสิทธิ์เปิดเผยภายหลังเข้าร่วมการประชุมหัวข้อต่างๆ ในเวทีเศรษฐกิจโลก หรือ เวิลด์ อีโคโนมิค ฟอรัม ร่วมกับผู้นำรัฐบาลกว่า 20 ประเทศ ว่า ที่ประชุมได้พูดถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ และวิกฤตการเงินโลกโดยผู้นำของทุกประเทศมีความพ้องกันถึงความจำเป็นเร่งด่วนในการแก้ไขปัญหาสถาบันการเงินของโลกตะวันตก และการกระตุ้นเศรษฐกิจโดยจะต้องเร่งดูแลไม่ให้มีการกีดกันทางการค้าและต้องไม่ลืมพัฒนาประเทศกำลังพัฒนาด้วย
 
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวไทย รายงานด้วยว่า นายกรัฐมนตรีได้มีโอกาสเข้าเฝ้าเจ้าชายแอนดรูว์แห่งสหราชอาณาจักร ซึ่งนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า เจ้าชายแอนดรูว์ได้แสดงความสนับสนุนประเทศไทย ในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและมีแนวโน้มที่จะเสด็จฯเยือนประเทศไทยทันทีที่มีโอกาส เพื่อทรงเป็นองค์กระชับความร่วมมือทางการค้าและการลงทุนระหว่างไทยกับสหราชอาณาจักร 

เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์