วันนี้ (31 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีการประชุมคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อพิจารณาศึกษาร่าง พระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ 2552 มีนายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง
ทำหน้าที่ประธานการประชุม โดยในการพิจารณาส่วนของงบประมาณโครงการการช่วยเหลือค่าครองชีพประชาชนและบุคลากรภาครัฐ กรณีการจ่ายเงินสมทบจำนวน 2,000 บาท ให้กับผู้ทำประกันสังคมที่มีรายได้ต่ำกว่า 15,000 บาท นายวิทยา บุรณศิริ ส.ส.อยุธยา พรรคเพื่อไทย ในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการ แสดงความกังวล ว่าอาจมีนายจ้างที่ปรับแต่งบัญชีรายได้ของลูกจ้างให้น้อยกว่า 15,000 บาท เพื่อให้ได้รับเงินสมทบ โดยเสนอให้ลดการจ่ายเงินประกันสังคมแทนการจ่ายเงินสมทบ 2,000 บาท จึงเสนอตัดงบประมาณส่วนดังกล่าวออกร้อยละห้าสิบ เนื่องจากการกระจายเงินทำได้ไม่ทั่วถึง โดยเฉพาะผู้ที่ไม่ได้ทำประกันสังคม
พท.หวั่นตกแต่งบัญชีเสนอกมธ.ตัดงบรัฐแจก2พัน
นายสมชาย ชุ่มรัตน์ ปลัดกระทรวงแรงงาน ตัวแทนสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) สำนักงบประมาณ และสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ชี้แจงว่า
กระทรวงแรงงานได้กำชับไปยังนายจ้างบริษัททุกแห่ง ต้องมาชี้แจงต่อกระทรวงแรงงาน กรณีเงินสมทบที่ต้องคิดจากฐานเงินเดือน ซึ่งได้มีการแจ้งไว้ก่อนวันที่ 13 มกราคม 2552ด้านนายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล ส.ส.แพร่ พรรคเพื่อไทย กรรมาธิการฯ อภิปรายแสดงความเป็นห่วงว่า มาตรการแจกเงินดังกล่าว จะไม่สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้จริง เพราะมีข่าวว่าปีนี้จะมีคนถูกเลิกจ้างประมาณ 2 ล้านคน นอกจากนี้ ราคาน้ำมันเพิ่มสูงขึ้น ประกอบกับรัฐบาลประกันราคาสินค้าการเกษตรกว่า 100,000 ล้านบาท สูงเกินกว่าสถานการณ์ปัจจุบัน จึงอาจกลายเป็นปัญหาในอนาคต
“ในขณะที่ประเทศกำลังประสบกับปัญหาเงินคงคลัง ที่เหลือเพียง 52,000 ล้านบาท จำเป็นต้องกู้เงินมาจ่ายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ จึงน่าไม่ใช่เป็นการแก้ปัญหา แต่อาจจะเป็นการทำลายเศรษฐกิจทั้งระบบ” นายวรวัจน์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม คณะกรรมาธิการจากพรรคประชาธิปัตย์ ได้ขอความชัดเจนจากประธานการประชุม ว่าจะมีการตัดงบประมาณส่วนดังกล่าวเลยหรือไม่ ซึ่งนายประดิษฐ์ได้ขอให้คงร่างเดิมไว้ โดยระบุว่า คณะกรรมาธิการจากจากพรรคเพื่อไทยขอสงวนการแปรญัตติ เพื่อนำไปพิจารณาในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรต่อไป