เมื่อเวลา 11.00 น. ที่รัฐสภา ร.ท.กุเทพ ใสกระจ่าง รักษาการโฆษกพรรคพลังประชาชน แถลงข่าวยุติการปฎิบัติหน้าที่รักษาการโฆษกพรรคพลังประชาชน ว่า การแถลงข่าวครั้งนี้เป็นการทำหน้าที่โฆษกพรรคพลังประชาชนเป็นครั้งสุดท้าย
จากนี้ก็จะให้รองโฆษกพรรคทำหน้าที่แทน เข้ามาเป็นโฆษกในช่วงที่ต้อสู้กับเผด็จการถือเป็นภาระที่หนัก ต้องอธิบายตอบโต้กับคนที่ใช้อำนาจผด็จการ ถึงจะโดนฟ้องร้องตนก็ไม่เคยขอความช่วยเหลือจากพรรคเพราะถือเป็นหน้าที่ และเหตุผลที่ตนออกมาแถลงในวันนี้ ไม่ใช่เพราะผิดหวังหรืออกหักอย่างที่เป็นข่าว ถ้าน้อยใจก็คงออกมาตีรวนก่อนหน้านี้นานแล้ว การแถลงวันนี้ตนยกบุคคลที่ตนเคารพไว้ 3 คน คือพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี นายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกรัฐมนตตรี ที่ต้องขอขอบคุณเป็นพิเศษการที่นายสมัคร ลาออกได้ทำให้ภาระที่อยู่บนบ่าของกรรมการบริหารพรรคพลังประชาชนได้ถูกวางลงรวมถึงตนก็ไม่ต้องถูกปลดออกอย่างที่มีคนขู่ การที่มีสามารถพรรคมาขู่ปลดโฆษกพรรคที่ทำหน้าที่ถือเป็นเรื่องเจ็บปวดเป็นการทำลายล้างทางการเมืองอย่างรุนแรง ทำลายศักดิ์ศรี และเกียรติภูมิของนักการเมือง
ร.ท.กุเทพ กล่าวว่า ไม่ได้เป็นลิ่วล้อใคร ขอยืนยันว่าข้อกล่าวหาที่บอกว่าแถลงข่าวที่บิดเบือนมติพรรคนั้นไม่เป็นความจริง
การที่ตนออกมาแถลงว่าพรรคสนับสนุนนายสมัคร เป็นนายกรัฐมนตรีครั้งที่ 2 นั้นก็เกิดจากมติพรรคจริงๆ แต่ก็มีคนอีกกลุ่มที่เรียกตัวเองว่ากลุ่มอีสานพัฒนา ออกมาเคลื่อนไหวคัดค้าน โดยมองว่าหากนายสมัคร เป็นนายกรัฐมนตรีต่อก็จะทำให้คนอีกกลุ่มหนึ่งได้เปรียบมีอำนาจจัดการทางการเมือง ซึ่งความขัดแย้งนี้เริ่มมาตั้งแต่งานศพของน้องชายนักการเมืองหนึ่งที่จ .ร้อยเอ็ด และเป็นคนเดียวกับที่ทำลายพรรคโดยออกมาข่มขู่เอาเรื่องกับคนในแก็งออฟโฟร์ คนๆนี้ตนรู้ว่าที่มาที่ไปเป็นอย่างไร
"ในช่วงที่เคลื่อนไหวทางการเมืองก็เคยอยู่กับนายเนวิน ชิดชอบอดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย เคยเห็นหน้ากันหลายครั้งเพราะเป็นส.ส.อีสานด้วยกัน แต่ตอนหลังผิดใจกันอย่างไรก็ไม่ทราบจึงแยกตัวออกมา ซึ่งใครจะไปวางแผนอะไรกับใครตนไม่อยากจะเปิดเผย แต่ถ้ามาตอแยกับตนไม่เลิกในอนาคตตนก็อาจจะออกมาพูดในฐานะส.ส.ได้" ร.ท.กุเทพ กล่าว
ร.ท.กุเทพ กล่าวว่า ไม่ได้อยู่กลุ่มใครแต่ที่เห็นด้วยว่าจะต้องสนับสนุนนายสมัคร เป็นนายกฯอีกครั้งนั้น
เพราะนายสมัคร เป็นหัวหน้าพรรคและเป็นตัวอย่างของคนที่ต่อสู้กับเผด็จการถ้าไม่สนับสนุนนายสมัครเป็นนายกฯจะบากหน้าไปหาประชาชนได้อย่างไร การที่นายสมัครพลาดท่าในสภา เกิดจากคนพรรคอื่นก็ไม่ว่าอะไร แต่เป็นคนในพรรคเราเองก็ต้องรู้สึกน้อยใจเจ็บปวด และเมื่อมีการผลักดันนายสมชาย ซึ่งทุกคนก็ทราบกันดีว่าท้ายที่สุดนายสมชายก็จะต้องได้รับเลือก
"ผมได้เห็นความพยายามของคนที่อยู่เบื้องหลัง ที่มีท่าทีไม่ไว้วางใจเพื่อน มีลักษณะช่วงชิงฉกฉวย เห็นว่าเป็นภาพที่ยากจะยอมรับ เหตุการณ์วันนั้นเป็นการประชุมพรรคเพื่อของความเห็นชอบ เมื่อเริ่มประชุมก็จะเปิดให้ผู้สื่อข่าวขึ้นไปถ่ายภาพบรรยากาศการประชุม ตามปกติเป็นข้อตกลงว่าระหว่างนั้นจะไม่มีการพูดเรื่องการเมือง เพื่อไม่ให้เป็นข่าว แต่ปรากฎว่าอยู่ๆนายสุขุมพงศ์ โง่นคำ ส.ส.สัดส่วน พรรคพลังประชาชน ที่ขณะนี้ได้รับการแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีสำนักนายกรัฐมนตรี ก็ลุกขึ้นมาพูดว่า พรรคมีมติเป็นเอกฉันท์ให้นายสมชาย เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งเราไม่เคยมีธรรมเนียมนี้ มติพรรคต้องให้โฆษกเป็นคนแถลง" ร.ท.กุเทพ กล่าว
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
