วิจารณ์ลั่นเน็ตรูปปืนจี้หัว-บึ้มแก๊สน้ำตา

วิจารณ์สนั่นเน็ตภาพเหตุการณ์ตำรวจเอาปืนจี้หัวม็อบ ฝ่ายหนุนม็อบ-ต้านพันธมิตรฯ

โต้กันมันหยดข้อสงสัยตัดต่อซ้อนภาพหรือไม่ ฟอร์ เวิร์ดส่งต่อๆ กันอย่างรวดเร็ว รวมทั้งเหตุการณ์ระเบิดควันหน้าบช.น.ก็มีผู้นำไปโพสต์ในเว็บไซต์ดังยูทูบด้วย พร้อมตั้งข้อสงสัยคนก่อเหตุเป็นฝ่ายไหนกันแน่ ด้านโฆษกตร.แจงไม่มีเหตุการณ์ตำรวจใช้ปืนจ่อหัวประชาชน ส่วนกรณีแก๊สน้ำตาก็เป็นการโยนกันเองจากด้านนอก บช.น.

เมื่อวันที่ 30 ส.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เหตุการณ์เผชิญหน้าระหว่างกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยและเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทั้งในบริเวณทำเนียบรัฐบาล สะพานมัฆวานรังสรรค์

รวมถึงหน้ากองบัญชาการตำรวจนครบาลหรือบช.น.เมื่อวันที่ 29 ส.ค.นั้น กลายเป็นหัวข้อสนทนาที่ได้รับความสนใจอย่างสูงตามเว็บไซต์และเว็บบอร์ดต่างๆ โดยกลุ่มผู้สนับสนุนพันธมิตรฯ และฝ่ายยืนอยู่ข้างรัฐบาล ต่างฝ่ายต่างงัดข้อมูล ข้อเท็จจริงความเห็นมาตอบโต้กันอย่างดุเดือดที่เว็บบอร์ดห้องราชดำเนิน ของเว็บไซต์พันทิป มีผู้ตั้งกระทู้ถึงภาพตำรวจหันปากกระบอกปืนจ่อหัวผู้ชุมนุมฝ่ายพันธมิตรฯ ซึ่งปรากฏในเว็บไซต์และหน้า 1 หนังสือพิมพ์ผู้จัดการและหน้า 1 หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ ฉบับวันที่ 30 ส.ค. มาชี้จุดผิดสังเกต โดยแสดงให้เห็นว่า ภาพลำกล้องปืนสีดำที่ยาวออกมาจ่อศีรษะผู้ชุมนุมเป็นการตัดต่อภาพ โดยนำลำกล้องปืนจากภาพอื่นเข้ามาซ้อนทับภาพจริง ทำให้ขนาดลำกล้องและความสว่างของแสงที่ตกกระทบบนลำกล้องปืนกับส่วนพานท้ายปืน ซึ่งเป็นภาพจริงไม่เท่ากัน และบริเวณมือขวา ซึ่งตำรวจในภาพใช้ประคองลำกล้องปืนนั้น ถ้ามองดูโล่ตำรวจ จะเห็นว่าคำว่า POLICE เลือนหายไป เพราะมีการตัดต่อภาพใหม่ทับลงไป


อย่างไรก็ตาม มีสมาชิกในห้องราชดำเนินบางส่วน เช่น ผู้ใช้นามแฝง "ดาวกับเม็ดทราย" แย้งว่า

"ผมมีข้อสังเกตให้นิดหนึ่ง เรื่องปืนยิงแก๊สน้ำตา ผมว่าปลายกระบอกปืนมันยาวไปไหม ??? แล้วไม่มีแรงกดผมก็ไม่ยุบ หรือไม่เสียทรง ??? ผมก็บอกไม่ได้เหมือนกัน ว่า ภาพไหนจริง ภาพไหนตัดต่อ แต่ที่ผมเห็นแน่ๆ ก็คือหันปืนใส่กลุ่มผู้ชุมนุม ผมว่างานนี้จบไม่สวยแน่ๆ"

ด้านผู้อ่านเว็บไซต์ผู้จัดการที่ใช้ชื่อ "เซงเป็ด" เขียนกระทู้ถึงภาพเดียวกันว่า

"1. มันสมควรหรือไม่ที่ต้องเอาปืนไปจี้ใส่คน ไม่ว่าจะเป็นปืนจริง หรือปืนกระสุนยาง หรือปืนแก๊สน้ำตา 2. เจตนาที่ทำแบบนี้มันสมควรทำเกินกว่าเหตุหรือไม่ แค่เอาหมายศาลมาติด ทำไมต้องพกปืนจริง หรือปืนกระสุนยาง หรือปืนแก๊สน้ำตา 3. การกระทำที่ลงมือทุบตีเตะกระทืบประชาชน ทำเกินกว่าเหตุหรือไม่ แค่เอาหมายศาลมาติดต้องกระทำแบบนี้ด้วยหรือ ฯลฯ"

นอกจากนั้น ในส่วนของกระทู้ "ตำรวจใช้แค่โล่กับกระบอง...เป็นการป้องกันตัวครับ ที่ไหนในโลกเขาก็ทำอย่าได้ innocent ไปเลย"

ในห้องราชดำเนิน ยังมีผู้นำภาพเหตุปะทะบริเวณสะพานมัฆวานฯ มาโพสต์ โดยเมื่อมีคนนำรูปตำรวจใช้กระบองฟาดเข้าใส่ผู้ชุมนุม ก็มีอีกฝ่ายนำภาพนิ่งจากโทรทัศน์ขณะตำรวจถูกฝูงชนไล่ทุบจนล้มลงไปกับพื้นมาตอบโต้ ส่วนเว็บบอร์ดของเว็บไซต์ข่าวประชาไท ประเด็นภาพตำรวจใช้ปืนจ่อหัวผู้ชุมนุมในทำเนียบฯ ได้รับการวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางเช่นกัน มีทั้งฝ่ายที่เชื่อว่าเป็นภาพตัดต่อและเป็นภาพจริง พร้อมตั้งข้อสังเกตว่าภาพนี้มีปัญหา เพราะหลุดออกมาสู่สาธารณะสองครั้ง แต่ความยาวกระบอกปืนกลับสั้น-ยาวแตกต่างกัน


สำหรับเหตุยิงแก๊สน้ำตาหน้าบช.น. ช่วงคืนวันศุกร์ที่ 29 ส.ค.นั้น กระแสความเห็นในเว็บไซต์ เว็บบอร์ด และบล็อกหลายแห่ง แบ่งเป็น 2 ฝ่าย

ฝ่ายแรกเชื่อว่าตำรวจยิงแก๊สน้ำตาใส่ประชาชนจริง ส่วนอีกฝ่ายระบุว่า ผู้ชุมนุมบางคนในกลุ่มพันธมิตรฯ ได้โยนและปาระเบิดแก๊สน้ำตาเข้าใส่กลุ่มผู้ชุมนุมด้วยกันเอง เพื่อสร้างสถานการณ์ เห็นได้จากคลิปวิดีโอที่ทางสถานีโทรทัศน์เอ็นบีทีบันทึกไว้ได้ พร้อมกับทำภาพกราฟิกเป็นรูปมือชี้จุดที่ผู้ชุมนุมในกลุ่มพันธมิตรฯ เคลื่อนไหวผิดสังเกต ต่อมา มีผู้นำคลิปดังกล่าวไปเผยแพร่ต่อในเว็บโพสต์คลิปวิดีโอชื่อดังต่างๆ รวมถึงเว็บ "ยูทูบ" (http://www.youtube.com/watch?v=gU634u VhaS4) ส่งผลให้มีนักท่องอินเตอร์เน็ตเข้ามาดึงคลิปดังกล่าวไปเผยแพร่ต่อ

"เป็นการโยนจริง แต่ยังไงแก๊สน้ำตาต้องยิงมาจากปืนยิงแก๊ส ไม่ใช่จุด เสียงปืนมาจากไหน เวลายิงออกมาคนสามารถเก็บแล้วขว้างออกจากตัวได้อยู่แล้ว คุณจะบอกว่าประชาชนมือที่สามมีแก๊สน้ำตาติดตัวเหรอ" ผู้ใช้นามแฝง "สมองใฝ่ต่ำด้านทักษิณจริงๆ" แสดงความเห็นต่อคลิปยูทูบดังกล่าว ขณะที่ผู้อ่านเว็บผู้จัดการเรียกร้องให้เข้าไปดูคลิปภาพข่าวจากสถานีทีวีไทยในยูทูบ http://www.youtube.com/watch?v=mIm 1F80SrUE ซึ่งชี้ว่าแก๊สน้ำตายิงออกมาจากรั้วบช.น.จริง

วันเดียวกัน ที่บช.น. พล.ต.ต.สุรพล ทวนทอง รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงเหตุ การณ์ความวุ่นวายหน้า บช.น.เมื่อคืนวันที่ 29 ส.ค.ว่า มีสื่อมวลชนที่อยู่ใน บช.น. ก็อยู่และเห็นเหตุการณ์ชัดเจน

และจากการสอบถามไม่ใช่ฝ่ายตำรวจอย่างแน่นอนและไม่มีเหตุผลและความจำเป็นอะไรที่จะไปยกระดับความรุนแรงของการชุมนุมให้เป็นภาระหนักของฝ่ายตำรวจเข้าไปอีก "จากการดูภาพข่าวแก๊สน้ำตาเป็นเรื่องของการโยนครับ มีลูกหนึ่งโยนออกไปจาก บช.น.ตามภาพข่าวหลายลูกโยนเข้ามาโดน ผบช.น. เด็กก็โยนกลับออกไป ถ้าเราเป็นคนยิงก็คงไม่โดนผู้บัญชาการ เป็นการโยนจากข้างนอกเข้ามา เป็นเรื่องที่ข้างนอกโยนกันเอง" รองโฆษก ตร.กล่าว

เมื่อถามถึงกรณีสมาชิกวุฒิสภาบางคนเข้ามาพบผบ.ตร.พร้อมนำภาพที่ตำรวจเอาปืนจ่อหัวประชาชนและสื่อบางฉบับนำเอาไปตีพิมพ์าแสดง

พล.ต.ต. สุรพล กล่าวว่า ปืนที่ปรากฏตามภาพเป็นอาวุธที่ใช้ในการปราบจลาจล แต่ไม่มีกระสุนบรรจุ สิ่งที่บรรจุอาจจะเป็นตาข่ายหรือกระสุนยาง ซึ่งอาวุธจริงจะไม่มาใช้บรรจุในการปราบจลาจล เพราะฉะนั้นไม่ใช่อาวุธปืนที่มีกระสุน แต่แม้จะเป็นปืนที่มีกระสุนหรือไม่ก็ตาม ปัญหาคือภาพที่ปรากฏ

"เรื่องนี้ต้องยอมรับว่ากิจกรรมของมนุษย์ที่มีการเคลื่อนไหวร่างกายในพื้นที่จำกัด ก็ทำให้มีโอกาสมีภาพลักษณะดังกล่าวออกมาได้ ซึ่งถ้าหากมีการติดตามการเคลื่อนไหวอีก 30 วินาที ก็จะมีความชัดเจนว่าภาพดังกล่าวเป็นการขู่ประชาชน หรือเป็นการเคลื่อนไหวของมือ เช่น การวาดปืนเข้ามาหรือชี้ปืนออกไป เพราะเชื่อว่าไม่มีตำรวจคนไหนที่จะเอาไปจ่อหัวอย่างนั้น เพราะตำรวจมีเพียงแค่สองมือ มีอุปกรณ์มากมายการเคลื่อนตัวในบางจังหวะก็อาจไม่ได้ตั้งใจให้เป็นอย่างนั้น อาจจะเกิดจากความไม่ตั้งใจ เพราะฉะนั้นยืนยันว่าจะต้องดูภาพรวมทั้งหมด ไม่ใช่เอาภาพเพียงจุดเดียวมาสร้างให้เกิดผลลบกับองค์กร ทั้งที่มีพยายามที่จะหลีกเลี่ยงการปะทะกันตลอดเวลา 96 วันที่มีการชุมนุม" พล.ต.ต.สุรพลกล่าว

เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์