พธม.เลื่อนแผนดาวกระจายเลี่ยงปะทะนปก.

"สุริยะใส"ระบุเตรียมแผนกดดันใหญ่ภายใน1- 2วันนี้ นปก.ขู่พธม.พ้นทำเนียบฯภายใน7วันไม่ออกระดมมวลชนกดดัน ผบช.ส.ระบุมีมือที่3 รอซ้ำสถานการณ์ให้เลวร้ายลง เฝ้าระวังเต็มที่วอนขอให้ผู้เอาปืนตำรวจไปนำมาคืน
นายสมศักดิ์โกศัยสุข แกนนำพธม.ให้สัมภาษณ์ว่า ขณะนี้แกนนำพธม.ยังไม่มีแนวคิดที่จะดำเนินการตามแผนดาวกระจาย 7 แผน เพราะต้องรอดูการประชุมร่วมสองสภาในวันนี้เสียก่อน รวมถึงรอให้เหตุการณ์การสร้างสถานการณ์ของนปก.หยุดก่อน หากเรากระจายตัวไปตามจุดต่างๆ อาจเกิดการปะทะ จึงอยากจะเลี่ยงความรุนแรง
เพราะขณะนี้ กลุ่มนปก. ยังไม่เลิกก่อความวุ่นวาย และมีแผนจะเผาเวทีพันธมิตรฯที่สะพานมัฆวาน เหมือนกับที่นปก.พยายามจะทำมาตั้งแต่วันที่ 30 สิงหาคม แต่กลุ่มพธม.รู้แผนเสียก่อน จึงจับตัวไว้ได้ และพวกนี้ก็รับสารภาพว่าถูกว่าจ้างมาหัวละ 2 พันบาท ตนจึงขอเตือนว่าอย่าได้ดำเนินการยั่วยุ หรือวางแผนก่อกวนใดๆ เพราะพธม.มีสายอยู่ทุกที่
"สุริยะใส"ระบุเตรียมแผนกดดันใหญ่ภายใน1- 2วันนี้
เมื่อเวลา 19.00 น. หลังเวทีที่สะพานมัฆวานฯ นายศิริชัย ไม้งาม ประธานสหภาพการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย และนายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรฯร่วมกันแถลงข่าว โดยนายศิริชัย กล่าวว่าวันพรุ่งนี้เวลา 14.00 น.สมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ จะนัดประชุมเพื่อหารือมาตรการตอบโต้รัฐบาลที่ใช้ควมรุนแรงในการปราบปรามผู้ชุมนุม โดยจะมีรัฐวิสาหกิจ เช่น ไฟฟ้า ประปา โทรศัพท์ การท่าเรือ การรถไฟ และ ขสมก. เข้าร่วมหารือ ในส่วนของ สร.กฟผ.มีมติให้พนักงานหยุดงาน และติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด กฟผ.เป็นหน่วยผลิตกระแสไฟ จึงทำอะไรมากไม่ได้ เพราะกระทบต่อประชาชนทั่วประเทศ แต่ในส่วนหน่วยงานอื่น ๆ อาจจะมีการประกาศหยุดงานและเข้าร่วมการชุมนุมหลายส่วน
นายสุริยะใส กล่าวว่า พันธมิตรฯไม่ได้คาดหวัง จะสามารถแก้ปัญหาบ้านเมืองได้ เพราะรัฐบาลใช้สภาเพื่อฟอกผิด มีการจัดทีมตอบโต้ ในทุกประเด็น โดยไม่มีท่าทีรับฟัง ข้อเสนอแนะ เพื่อมากอบกู้วิกฤติ จึงขอประณามการเปิดสภาของนายกฯ ทำเพื่อใช้สภาเป็นเครื่องมือ ต่ออายุให้ตัวเอง เชื่อว่าหลังจากนี้ประชาชนจะยิ่งรับไม่ได้ และพันธมิตรฯจะมีแนวร่วมมากขึ้น ขณะนี้ขอเรียกร้องให้ปิดสภาได้แล้ว เพราะพูดไปก็เสียดายค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าถ่ายทอดสด เพราะมีความชัดเจนว่า นายสมัคร จะไม่ลาออกซึ่งพันธมิตรฯ ได้เตรียมแผนกดดันใหญ่ไว้แล้ว ภายใน 1- 2 วันนี้ พันธมิตรฯจะเปิดเกมรุกที่เข้มข้นขึ้น
นายสุริยะใส กล่าวว่า การปิดสนามบินในภาคใต้ จะปิดต่อเนื่องไปจนกว่านายสมัครจะลาออก และจะรุกคืบ ไปอีกหลายสนามบิน พันธมิตรฯจะประสานไปยังจังหวัดต่าง ๆ เพื่อขยายมาตรการอายระขัดขืน ไปยังจังหวัดอื่น ๆ แต่จะระวังไม่ให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน แม้แต่การปิดสนามบินสุวรรณภูมิก็มีความเป็นไปได้ และอยู่ในแผน แต่จะทำหรือไม่ แกนนำ จะต้องหารือ กับ สมาพันธ์รัฐวิสาหกิจอย่างรอบคอบ แต่หากสถานการณ์จวนตัวและจำเป็นก็อาจจะต้องทำ
นายสุริยะใส กล่าวถึงการตั้ง พ.ต.ท.จงรัก จุฑานนท์ มารักษาการ ผบ.ช.น. ว่า มีความเป็นไปได้ ที่ตำรวจอาจสลายการชุมนุมด้วยความรุนแรง เพราะพันธมิตรฯแคลงใจกับบทบาทของ พ.ต.ท.จงรัก มาตลอด เพราะเอาใจระบอบทักษิณจนเกินงาม ต่างกับ พ.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ที่มีท่าทีอลุ่มอล่วย ประสานงานกับพันธมิตรฯตลอด 99 วัน ด้วยท่าทีที่เป็นมิตร อย่างไรก็ตามเมื่อสถานการณ์มาถึงขั้นนี้ หากพันธมิตรฯจะต้องอยู่ในทำเนียบต่ออีก 10 วัน ก็ต้องอยู่ให้ได้จนกว่ารัฐบาลจะลาออก
นายสุริยะใส กล่าวว่า ท่าทีนายสมัครตอนนี้เหมือนชักธงสู้ นายสมัคร หมดสภาพแล้ว แต่ยังไม่ยอมจำนน สถานการณ์บ้านเมืองขณะนี้ เปราะบางต่อการเกิดรัฐประหารมากกว่า 19 กันยาฯ พันธมิตรฯมีหน้าที่ ไล่ผีปอป ที่เข้าสิงอำนาจรัฐ เมื่อไล่ผีปอปออกไปแล้วก็เป็นหน้าที่ของประชาชนที่ต้องคัดเลือกบุคคลเข้าสู่อำนาจ ตนเชื่อว่าเมื่อถึงจุดหนึ่ง นายสมัครต้องประกาศ ภาวะฉุกเฉิน แต่ไม่รู้ว่าทหารจะเอาด้วยหรือไม่ ที่ผ่านมา นายสมัคร โกหกว่าเป็นผู้ประกาศให้ยุติการสลายการชุมนุม ซึ่งไม่เป็นความจริง เพราะนายสมัคร สั่งแล้ว ตำรวจสลายไม่ได้ และมีเจ้าหน้าที่ตำรวจบางส่วนเฉื่อยงาน เหตุการณ์ที่ผ่านมาชี้ว่า นายสมัคร สั่งการให้ใช้ความรุนแรงมาโดยตลอด แต่ทำไม่ได้ เพราะตำรวจไม่มีความสามารถจัดการกับฝูงชนจำนวนมาก
นปก.ขู่พธม.พ้นทำเนียบฯภายใน7วันไม่ออกระดมมวลชนกดดัน
เมื่อเวลา 18.00 น. ที่ท้องสนามหลวงได้มีกลุ่ม นปก.ได้จัดเวทีปราศรัยเป็นวันที่ 2 มีนายวิภูแถลง พัฒนภูมิไทย ได้ขึ้นเวทีสลับปราศรัยสลับกับแนวร่วมองค์กรอื่นๆ โดยมีเนื้อหาโจมตีกลุ่มพันธมิตรฯ และเอเอสทีวี รวมถึงพรรคประชาธิปัตย์
นอกจากนั้นยังได้เรียกร้องให้กลุ่มพันธมิตรฯ ออกจากทำเนียบฯ ภายใน 7 วันหากไม่ออก ทางกลุ่ม นปก.ในพื้นที่ต่างๆ จะเดินทางมาสมทบที่สนามหลวงเพื่อทำการกดดันช่วยนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ให้ได้ไปนั่งทำงานในทำเนียบฯต่อไป ท่ามกลางประชาชนร่วมรับฟังปราศรัยหลักพัน โดยประชาชนที่มาร่วมส่วนใหญ่จะใส่เสื้อสีแดง และขาว
สันติบาลชี้มือที่3รอซ้ำสถานการณ์
ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.ธีระเดช รอดโพธิ์ทอง ผบช.ส. กล่าวถึงสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯและกลุ่มสนับสนุนรัฐบาลว่า ขณะที่มวลชนของทั้งสองกลุ่ม ได้เข้ามาเคลื่อนไหวในพื้นที่ กทม. โดยทราบกันดีว่ากลุ่มพันธมิตรอยู่ภายในทำเนียบรัฐบาล ส่วนกลุ่มสนับสนุนรัฐบาลขณะนี้รวมตัวอยู่ที่หน้ารัฐสภา ส่วนจำนวนกลุ่มผู้มาสนับสนุนรัฐบาล มีประมาณ 10,000 คนส่วนมากจะเป็นกลุ่มแท็กซี่ มอเตอร์ไซด์ และประชาชนในจังหวัดใกล้กรุงเทพ ส่วนประชาชนในพื้นที่ภาคอีสานยังไม่มีการเข้ามา เพียงแต่ชุมนุมอยู่ตามสวนสาธารณะในจังหวัดของตนเองเท่านั้น
พล.ต.ท.ธีระเดชกล่าวต่อว่า จากการข่าวเบื้องต้นทราบว่าเมื่อประชุมรัฐสภาเรียบร้อย กลุ่มผู้สนับสนุนจะเดินทาง ไปรวมกันที่ท้องสนามหลวง ส่วนการปะทะกันของทั้งสองฝ่ายคาดว่าโดยภาพรวมแกนนำทั้งสองฝ่าย คงไม่ต้องการให้มีการปะทะกัน แต่สิ่งที่เรากลัวคือมือที่3 ที่ยืนยันว่ามีแน่นอนคนกลุ่มนี้คอยที่จะสร้างสถานการณ์เพื่อให้ทั้งสองฝ่ายปะทะกันให้ได้ เพื่อให้เกิดจุดแตกหักขึ้นถือเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วง แต่อย่างไรก็ตามหน่วยข่าวของรัฐทุกหน่วยก็เฝ้าระวังอยู่แล้ว
พล.ต.ท.ธีระเดชกล่าวอีกว่า สำหรับปืนของทางราชการที่หายไปจำนวน 11 กระบอกเราได้มีการไปแจ้งความไว้แล้วต้องขอร้องว่าใครที่เอาไปช่วยกรุณานำมาคืนเจ้าหน้าที่ด้วย เพราะการใช้อาวุธจะยกฐานะเป็นการก่อการร้ายไม่ใช่การชุมนุมโดยสงบแล้ว และปืนที่หายไปส่วนใหญ่เป็นอาวุธปืนกลมือ เป็นปืนที่อานุภาพสูง คนที่นำไปมีความชำนาญในการใช้แน่นอน ซึ่งก่อนหน้าที่กลุ่มพันธมิตรจะยึดทำเนียบ ปืนส่วนใหญ่เราได้ทำการถอดชิ้นส่วนของปืนออกแล้ว ปืนส่วนใหญ่จึงใช้การไม่ได้ ส่วนที่มีกลุ่มแกนนำโจมตีว่าปืนตำรวจหายอยู่แล้วนั้นขอเรียนยืนยันว่า ปืนที่อยู่ในทำเนียบเป็นอาวุธประจำกายมีการตรวจเช็คทุกอาทิตย์ มีความจำเป็นต้องนำออกมาทำความสะอาดขออย่าให้มองคนในแง่ร้ายเกินไป


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์