ชวน"อภิปรายติ"สมัคร"ท้วงติงศาล "นิพิฏฐ์ ” จวก “ สมัคร” กี่ปีพฤติกรรมไม่เปลี่ยน จี้ลาออกกลางสภา เพื่อรักษาปชต. ด้าน “สุนัย” ปูด ท่อน้ำเลี้ยง 250 ล. ผ่านพรรคการเมือง
เมื่อเวลา 19.00น. นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ได้ลุกขึ้นอภิปรายท้วงติงญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปของนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ที่ระบุถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีความบานปลายแม้นสถาบันศาลก็ไม่สามารถแก้ปัญหาได้
นายชวนได้ระบุว่าศาลได้ทำหน้าที่อย่างสมบูรณ์แล้ว เป็นแต่เพียงปัญหาตามมาเป็นเพราะผู้ปฏิบัติ ดังนั้นการที่นายกรัฐมนตรีท้วงติงศาลเช่นนี้ถือว่าไม่ถูกต้อง ความจริงแล้วปัญหาที่บานปลายอยู่ทุกวันนี้ดำเนินมาก่อนที่นายสมัครจะเข้ามาทำหน้าที่เสียอีก
นอกจากนี้แล้วนายชวนยังได้อภิปรายถึงการทำหน้าที่สื่อของรัฐยังถูกแทรกแซงอยู่ อย่างไรก็ตามกระบวนการประชาธิปไตยดีกว่าก่อนนี้มาก
พร้อมกันนี้นายชวนยังได้กล่าวถึงความขัดแย้งในสังคมปัจจุบันนี้ว่า ความขัดแย้งไม่ได้เกิดจากธรรมชาติแต่เกิดจากการกระทำของคน ก่อนหน้านี้การเมืองก็ไม่ได้มีความขัดแย้งเป็นฝ่ายใครชนะก็เข้ามาบริหารประเทศก็เปลี่ยนกันไป แต่ปัจจุบันนี้ความขัดแย้งได้ขยายเป็นวงกว้างทุกระดับของสังคม ขณะเดียวกันรัฐบาลจะต้องพูดความจริง และอย่าใช้สภานี้โจมตีพันธมิตร
หลังจากนั้นนายสมัครได้ลุกขึ้นโต้แย้งการอภิปรายของนายชวนโดยเฉพาะอย่างยิ่งประเด็นการตั้งบุคคลในการบินไทยว่าเป็นข้อมูลที่ไม่ถูกต้องเช่นกัน
ขณะเดียวกันเมื่อเวลา 18.35 น. นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ส.ส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การประชุมสภาไม่สามารถแก้วิกฤตของประเทศได้ แต่กลับทำร้ายนระบบสภาด้วยมือของเราเอง วิกฤตเกิดจากตัวนายกฯ เป็นผู้สร้าง แล้วให้รัฐสภาเป็นผู้ฟอกตัวนายกฯ ทั้งนี้ นายกฯ เคยพูดว่าจะไม่แก้รัฐธรรมนูญ แต่จะแก้ก่อนครบวาระ 3 เดือน แต่ระหว่างนี้ก็พยายามจะแก้รัฐธรรมนูญ นายกฯ ก็พูดกลับไปกลับมา ซึ่งคงปฏิเสธไม่ได้ว่าไม่เคยพูด ปัญหาจึงเริ่มจากเหตุนี้ นอกจากนี้ ยังปล่อยให้มีการคว่ำกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญของศาลฎีกาว่าด้วยการพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ซึ่งรัฐบาลทำสิ่งที่ไม่มีเหตุผล
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างนี้นายสุนัย ได้ลุกขึ้นประท้วงกรณีการกล่าวหาว่ารัฐบาลคว่ำกฎหมายอย่างไม่มีเหตุผล โดยระบุว่าเป็นเอกสิทธิ์ของสมาชิกในการลงมติ รัฐบาลไม่เคยสั่งให้คว่ำกฎหมายดังกล่าว อย่างไรก็ตาม นายชัย ชิดชอบ ประธานรัฐสภา ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม ได้ไกล่เกลี่ยและให้นายนิพิฏฐ์ได้อภิปรายต่อ
นายนิพิฏฐ์ ได้อภิปรายต่อว่า เราตกหลุมดำทางการเมืองของนายกฯ แต่ตนจะไม่ยอมตกหลุมดำ เพราะเหตุการณ์ทั้งหมดเป็นพฤติกรรมของนายกฯ ทุกอย่างเกิดจากเหตุ ซึ่งต้องดับด้วยเหตุ การแก้ปัญหาของนายกฯ แตกต่างจากสมัยนายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ที่เป็นนายกฯ ในสมัยนั้น โดยเฉพาะการแก้ปัญหากลุ่มก๊อตอามี่บุกยึดโรงพยาบาลราชบุรี รัฐบาลนายชวนใช้สติในการแก้ไขปัญหาเพื่อรักษาอธิปไตย แต่ขณะที่ปัญหาของปราสาทพระวิหารรัฐบาลชุดนี้ยังทำสิ่งที่ส่อให้เสียอำนาจอธิปไตย นายกฯ ต้องมองให้ออกว่าสิ่งไหนอ่อนแอ สิ่งไหนเข้มแข็ง สิ่งไหนถูกต้อง นายกฯ เอาสมองส่วนไหนคิด ควรจะใช้ตาชั่ง ชั่งน้ำหนักว่าอันไหนถูกต้อง ถ้าทำไม่ได้ก็ไม่ควรเป็นนายกฯ ทำให้แก้ปัญหาไม่ได้ระบอบประชาธิปไตยจะไร้ผล และจะกลายเป็นประชาธิปไตยแบบโดยตรงคือ จะมีการชุมนุมประท้วงมากขึ้นกว่าเดิม
ทั้งนี้ ทำให้นายนิสิต สินธุไพร ส.ส.ร้อยเอ็ด พรรคพลังประชาชน ลุกขึ้นประท้วงขอให้ถอนคำพูดใช้สมองส่วนไหนคิด ซึ่งนายนิพิฏฐ์ก็ยอมถอนและอภิปรายต่อว่า นายกฯ บอกว่าวันนี้รัฐบาลจะฟังความคิดเห็นของสมาชิกรัฐสภา แต่นายกฯ ก็ตอบโต้ทุกครั้ง แล้วจะมาฟังความเห็นของสมาชิกทำไม ในอดีตมีนายกฯ คนหนึ่งลุกขึ้นยืนอย่างทะนงประกาศลาออกกลางสภา เพื่อให้กลไกของสภาแก้ปัญหาด้วยตัวของมันเอง อย่าระแวงหัวหน้าพรรคหรือระแวงพรรคประชาธิปัตย์ว่าเมื่อนายกฯ ลาออกแล้ว จะจัดตั้งรัฐบาลและเป็นนายกฯ เอง หากนายกฯ ยืนขึ้นลาออก ก็ยังมีพรรคร่วมรัฐบาลที่จะหาคนใหม่ได้ และหากโชคดีมีสมาชิกพรรคร่วมต้องการให้นายสมัครเป็นนายกฯ ต่อก็สามารถลงมติเลือกให้เป็นนายกฯ คนต่อไปได้ อย่าระแวงว่าพรรคประชาธิปัตย์จะชิงเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลไม่มีทางเกิดขึ้นแน่ ประชาธิปไตยจะสวยงาม วันนี้ชีวิตของท่านมีสิทธิจะรักษาประชาธิปไตยไว้ สิ่งเดียวที่จะทำให้ประชาธิปไตยสง่างามคือการลาออกของท่านนายกฯ วันนี้หากท่านลาออก พรุ่งนี้ไม่มีการชุมนุม แล้วจัดตั้งรัฐบาลภายใต้ 6 พรรคร่วมก็ได้ เพราะเชื่อว่าพฤติกรรมของนายสมัครจะไม่เปลี่ยน 30 ปีที่แล้วกับวันนี้ก็เหมือนกัน ขอให้ท่านยืนขึ้นแล้วลาออกเสีย เพื่อบ้านเมืองจะได้สงบ
นายสุนัย จุลพงศธร ส.ส.สัดส่วน พรรคพลังประชาชน กล่าวว่า ตนอยากให้ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ที่ไปพันธมิตรฯ บ่อยๆ อย่างนายบุญยอด สุขถิ่นไทย ส.ส.กทม. และคนนามสกุลนาย ธนาคารใหญ่ คือ คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช ส.ส.กทม. ช่วยพูดหน่อยว่าพันธมิตรฯ จะเอายังไง วันนี้ตนได้รับไปรษณียบัตร ระบุว่า ในการชุมนุมมีเงิน 250 ล้านบาท มาจากบริษัทการค้าใหญ่แห่งหนึ่ง น่าจะส่งผ่านกระบวนการประท้วงโดยผ่านพรรคการเมืองหนึ่ง ซึ่งตนกำลังตรวจสอบอยู่ ถ้าหลักฐานมีมูล ตนจะให้นายกฯ และ รมว.คลังไปตรวจสอบ เชื่อว่าเรื่องนี้จบแน่นอน
ด้านนายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล รองหัวหน้าพรรคชาติไทยชี้แจงว่า ที่พาดพิงถึงพรรคร่วมรัฐบาลนั้น การเปิดอภิปรายในวันนี้ไม่มีเจตนาที่จะใช้สภาฟอกตัวให้ใคร แต่เป็นการระดมความคิดของสมาชิกรัฐสภาเพื่อแก้ปัญหาของบ้านเมือง สภาไม่มีสิทธิฟอกใครให้สะอาด แต่จะเป็นการฟอกความขาวให้กับสังคมไทย ต้องยอมรับว่าขณะนี้ประเทศอยู่ในความมืดมน แต่สมาชิกไม่ร่วมแก้ไข ขอให้ใช้เวทีนี้ในการแก้ปัญหามากกว่าที่จะใช้เวทีนี้สร้างปัญหาต่อไป
ชวนชี้ความขัดแย้งเกิดจากการกระทำของคน
เครดิต : ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!