คุณปลื้ม ถอนตัวผู้ว่าฯกทม.รับมวยรุ่นเล็กกว่า อภิรักษ์ เสี่ยชูวิทย์ เมินโพลฟุ้งมีทีเด็ด

"ม.ล.ณัฏฐกร เทวกุล" ตัดสินใจไม่ลงรับสมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. ยันไม่ได้ถอดใจ แต่ไม่พร้อม สู้ไปก็แพ้ "อภิรักษ์" อ้างมวยคนละรุ่น "ชูวิทย์" เมินผลโพล เชื่อมีทีเด็ดเอาชนะ ให้รอดูเซอร์ไพรส์ "ปลอดประสพ-ปานปรีย์" ถอยฉาก ไม่ลงในนามพปช.

เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม ที่ห้องรัตนโกสินทร์ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (กทม.) นายพงศ์ศักติฐ์ เสมสันต์ ปลัด กทม. ในฐานะผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำท้องถิ่นกรุงเทพมหานคร (ผอ.กต.ทถ.กทม.) เป็นประธานในการดำเนินการจัดซักซ้อมขั้นตอนการรับสมัครผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ที่จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 1-5 กันยายน เวลา 08.30-16.30 น. ณ ห้องรัตนโกสินทร์ ศาลาว่าการ กทม. เพื่อให้การปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่เป็นไปด้วยความความเรียบร้อย รัดกุม ถูกต้องทุกขั้นตอน

นายพงศ์ศักติฐ์เปิดเผยว่า กทม.ได้รับมอบหมายให้รับสมัครผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นผู้ว่าฯ กทม. จึงต้องมีการทดสอบขั้นตอนการปฏิบัติงานเหมือนสถานการณ์จริง ตั้งแต่การลงทะเบียนของว่าที่ผู้สมัครที่มาถึงสถานที่รับสมัครพร้อมกันก่อนเวลา 08.30 น. การจับสลาก ลำดับการยื่นใบสมัคร การตรวจเอกสารของเจ้าหน้าที่รับสมัคร การชำระค่าธรรมเนียม และการออกใบรับสมัครเลือกตั้ง เป็นต้น ทั้งนี้ จะเริ่มรับสมัครตั้งแต่เวลา 08.30-16.30 น. ผู้สมัครที่มาถึงก่อนเวลา 08.30 น. จะต้องลงทะเบียนเวลาไว้ก่อน ณ โต๊ะลงทะเบียนบริเวณหน้าห้องรัตนโกสินทร์ เพื่อแสดงความประสงค์ลงสมัครรับเลือกตั้ง ผู้สมัครมาลงทะเบียนก่อนเวลา 08.30 น. จะถือว่ามาถึงสถานที่พร้อมกันกับผู้สมัครคนอื่นๆ ทั้งหมด และเมื่อ ผอ.กต.ทถ.กทม.กล่าวเปิดการรับสมัครแล้ว จะเชิญผู้ประสงค์ลงสมัครที่ได้ลงทะเบียนไว้ก่อนเวลา 08.30 น. ทำความตกลงกันว่าผู้ใดจะสมัครก่อนหลัง หากตกลงกันไม่ได้ ผอ.กต.ทถ.กทม. จะเป็นผู้จับสลากเพื่อให้ทราบว่าผู้ใดจะเป็นผู้มีสิทธิจับสลากก่อนหลัง จากนั้นผู้สมัครจะจับสลากหมายเลขประจำตัวผู้สมัครเพื่อใช้ในการหาเสียง โดยภายหลังทราบหมายเลขประจำตัวผู้สมัครแล้ว ผู้สมัครจะยื่นใบสมัครและดำเนินการรับสมัครตามขั้นตอนต่อไป

นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ว่าที่ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.ในนามอิสระ กล่าวว่า เตรียมพร้อมเต็มที่สำหรับการลงสมัครรับเลือกเป็นผู้ว่าฯ กทม.ในครั้งนี้ ส่วนสาเหตุที่เลื่อนการแถลงนโยบายเมื่อวันที่ 29 สิงหาคมที่ผ่านมา เพราะสถานการณ์บ้านเมืองยังวุ่นวายเกรงว่าจะไม่เหมาะสม แต่จะแถลงหลังจากลงรับสมัครเรียบร้อยแล้วในวันที่ 1 กันยายน ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เพราะจบทั้งปริญญาตรี และโท ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

"แม้คะแนนจากโพลผมจะแพ้คุณอภิรักษ์ โกษะโยธิน อดีตผู้ว่าฯ กทม.แต่ผมก็ไม่กลัว เพราะมีทีเด็ดหลายอย่างที่เชื่อว่าจะจูงใจให้คน กทม.เลือกผมได้ อย่าลืมว่า หลายสิ่งหลายอย่างที่เราไม่คิดว่าจะเป็นจริง มันเป็นจริงมาแล้วหลายอย่าง และวันที่ 1 กันยายน นี้ผมมีเซอร์ไพรส์ รับรองว่าทุกคนจะชื่นชอบและตกตะลึง สำหรับสัญลักษณ์ประจำตัวที่ผมจะใช้ตลอดเวลา 1 เดือนกับอีก 5 วันสำหรับการหาเสียงครั้งนี้" นายชูวิทย์กล่าว

ม.ล.ณัฏฐกร เทวกุล อดีตผู้คิดสมัครผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่า พิจารณาแล้วตัดสินใจที่จะไม่ลงสมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ในครั้งนี้ แต่ไม่ใช่การถอดใจอย่างที่สื่อบางสื่อกล่าวหา แต่เป็นเพราะรู้สึกว่ายังไม่พร้อมสำหรับการเลือกตั้งครั้งนี้ และคิดว่าเลือกไปก็คงจะแพ้นายอภิรักษ์ ที่มีความพร้อมมากกว่า

"ผมไม่ต้องการจะเป็นสีสันให้ใคร และไม่อยากถูกน็อค ผมต้องการความพร้อมมากกว่านี้ ถ้าเปรียบผมกับคุณอภิรักษ์เหมือนนักมวย เขารุ่นเฮฟวี่เวท แต่ผมแค่เวลเตอร์เวท เท่านั้นเป็นมวยคนละรุ่น ถ้าลงแล้วผมต้องการชนะ ไม่ใช่แค่ลงไปหยั่งเสียงเท่านั้น" ม.ล.ณัฏฐกรณ์กล่าว

นายปิ่นสักก์ สุรัสวดี บุตรชายนายปลอดประสพ สุรัสวดี กล่าวว่า จากการพูดคุยกับนายปลอดประสพ ล่าสุด ทราบว่า ตัดสินใจไม่ลงสมัครแน่นอน ส่วนสาเหตุไม่ทราบ และเวลานี้นายปลอดประสพ เดินทางไปต่างประเทศตั้งแต่เมื่อคืนวันที่ 29 สิงหาคมที่ผ่านมา และมีกำหนดกลับวันที่ 8 กันยายนนี้ ซึ่งเลยกำหนดการรับสมัครเลือกตั้งไปแล้ว

สำหรับ นายปานปรีย์ พหิทธานุกร ที่ปรึกษา นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ที่ทางพรรคพลังประชาชน จะทาบทามเพื่อให้ลงสมัครในนามพรรคพลังประชาชนนั้น เพื่อนสนิทนายปานปรีย์คนหนึ่ง ให้สัมภาษณ์ว่า นายปานปรีย์ คงจะไม่ตอบรับคำเชิญของพรรคพลังประชาชนครั้งนี้ เพราะระยะเวลากระชั้นชิดเกินไป ไม่สามารถเตรียมตัวได้ทัน

นางลีนา จังจรรจา กล่าวว่า ตัดสินใจลงรับสมัครครั้งนี้แน่นอน เพราะมั่นใจว่าจะชนะการเลือกตั้งถึง 70% มากกว่าครั้งก่อน ที่มั่นใจแค่ 2% เท่านั้น โดยฐานเสียงครั้งนี้มาจากผู้หญิงใน กทม. ที่มีมากกว่า 3 ล้านคน มีสโลแกนประจำตัวว่า "หญิงต่อมชั่วน้อยกว่าชาย หญิงมีคุณธรรมมากกว่าชาย" วันสมัครนั้นจะมีทีมงาน ชาย 100 คน หญิง 100 คน โดยผู้ชายจะนุ่งโจงกระเบนสีเหลืองทอง ผ้าโพกศีรษะสีแดง ที่เลือก 2 สีนี้เพราะต้องการคะแนนเสียง 2 ฝ่าย ทั้ง นปก.และพันธมิตร

วันเดียวกัน สวนดุสิตโพลเผยผลสำรวจ "คนกรุงเทพฯคิดอย่างไรกับการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพฯปี 51Ž ปรากฏว่านายอภิรักษ์ ได้ร้อยละ 43.30, ม.ล.ณัฏฐกรณ์ ร้อยละ 13.16 นาย นายชูวิทย์ ร้อยละ 6.94 นอกจากนี้โพลยังได้ระบุคุณสมบัติของผู้ว่าฯ กทม.ที่ประชาชนต้องการว่า ร้อยละ 28.82 ต้องการผู้ว่าฯ กทม.ที่เป็นคนพูดจริงทำจริง สามารถปฏิบัติตามคำสัญญาที่ให้ไว้ได้  ร้อยละ 24.61 ต้องเป็นคนซื่อสัตย์ และเป็นคนดี ร้อยละ 15.08 ต้องรู้และเข้าใจปัญหาของ กทม.อย่างแท้จริง


เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์