นปช.ดุ! เปิดศึกสื่อ

นปช.ดุ! แถลงเดือดทะเลาะสื่อ โดนจี้ถามใช้ความรุนแรงปะทะพันธมิตรฯ "สุชาติ" ของขึ้นกราดใส่ก่อนหยิบกล้องถ่ายรูปนักข่าวเรียงตัว อ้างเอาไปศึกษาว่าเป็นใครบ้าง "จรัล" ลั่นเลิกโว๊ย ส.ส.ร้อยเอ็ด บอกอยู่ต่อเดี๋ยวมีชก "เหวง" ไกล่เกลี่ยใช้คำ "ขอกันกิน"


เมื่อเวลา 13.30 น. ที่ห้องแถลงข่าวรัฐสภา  แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาชนต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.)

นำโดยนายจรัล ดิษฐาอภิชัย น.พ.เหวง โตจิราการ นายชินวัฒน์ หาบุญพาด และนายสุชาติ นาคบางไทร ได้ร่วมกันแถลงข่าวปฎิเสธว่า นปช.ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับความรุนแรงที่เกิดขึ้นในระหว่างการชุมนุมของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เมื่อวันอาทิตย์ที่ 25 พ.ค.ที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวรายงาน บรรยากาศการแถลงข่าวเป็นไปอย่างดุเดือด เมื่อผู้สื่อข่าวได้ซักถามนายจรัล ว่าเหตุใดจึงปฎิเสธความรับผิดชอบในเมื่อนายสุชาติ ซึ่งมาแถลงข่าวด้วยกันก็เป็นหนึ่งในผู้ปราศรัยบนเวทีต่อต้านพันธมิตรฯ โดย นายจรัล กล่าวว่าเป็นการกระทำส่วนบุคคลไม่ใช่ในนาม นปช. เพราะนปช.ไม่มีมติให้เคลื่อนไหว


จากนั้นนายสุชาติ ชี้แจงว่า ความจริงพวกตนเป็นกลุ่มผู้รักประชาธิปไตย คัดค้านเผด็จการ ไม่อยากไปชุมนุมใกล้พันธมิตร

แต่เมื่อพันธมิตรฯจะเดินขบวนไปทำเนียบรัฐบาล เราจึงมีมติเคลื่อนด้วย ผู้สื่อข่าวถามว่า การตั้งใจที่จะเดินขบวนประกบพันธมิตรฯส่อเจตนาว่าต้องการมีเรื่องใช่หรือไม่ นายสุชาติ ตอบว่า  เราไม่อยากมีเรื่อง เพราะตำรวจกั้นพวกเรากับพันธมิตรฯไว้ แต่คนของพันธมิตรฯ วิ่งมาตีพวกเราก่อน และมีการไล่ตีประชาชนที่รอรถเมล์อยู่บริเวณนั้นด้วย 


เมื่อถามว่าในฐานะที่เป็นแกนนำทราบหรือไม่ว่าในกลุ่มต่อต้านนั้นมีการพกพาอาวุธหลายชนิด ทั้งมีด และไม้หน้าสาม

เพื่อโจมตีกลุ่มพันธมิตรฯ นายสุชาติ ได้ย้อนถามผู้สื่อข่าวด้วยความไม่พอใจว่า ตนไม่เห็นอาวุธใดๆเลย ถ้ามีจริงให้เอาภาพถ่ายมายืนยัน และถามกลับว่า "คุณเห็นอะไรที่พันธมิตรบ้างหรือไม่" ผู้สื่อข่าวจึงตอบว่า ได้ทำข่าวการชุมนุมของกลุ่ม นปช.จึงเห็นความเคลื่อนไหวตลอด และช่วงหนึ่งมวลชนของนปช.เองได้มาขอร้องให้ตนช่วยถือไม้ไปตีพันธมิตรฯด้วย นายสุชาติ โต้ทันทีว่า "แสดงว่าคุณก็ใช้ความรุนแรง" ขณะที่ผู้สื่อข่าวบอกกลับไปว่ากลุ่มของ นปช.มาขอให้ถือแต่ตนไม่ได้ถือแต่อย่างใด



จากนั้นนายสุชาติ  กล่าวเหน็บแนมว่า “ขอบคุณมาก คุณทำหน้าที่เป็นนักข่าวให้กับ นปก.อย่างเดียวหรือไม่”  และถามว่าอยู่สำนักพิมพ์ไหน

เมื่อผู้สื่อข่าวปฏิเสธที่จะตอบ นายสุชาติ กล่าวว่า "ถ้าถามอย่างนี้ แสดงว่าจ้องแต่จะจับผิดเฉพาะ นปช. หรือไม่ หรือ หวังดีกับ นปช.  อะไรที่ผมไม่รู้ อย่ายัดเยียด ฉะนั้นพวกคุณชอบไปเขียนกันเองอยู่แล้ว จริงๆ แล้ว ผมไม่ได้ปรารถนาที่จะมาพูดต่อหน้าพวกคุณเลย และพวกคุณถามเรื่องนี้ทำไม" ผู้สื่อข่าวจึงแย้งว่า ในเมื่อมาแถลง ผู้สื่อข่าวก็มีสิทธิซักถาม ซึ่งท่านก็มีสิทธิที่จะตอบหรือไม่ตอบก็ได้ นายสุชาติ กล่าวอย่างมีอารมณ์ว่า "คุณถามมาผมก็ตอบไปแล้ว แต่ผมไม่อยากมาแถลงที่นี่  เพียงแต่นายจรัล พามา"


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงท้ายการแถลงข่าว นายสุชาติ ได้นำกล้องส่วนตัวขึ้นมาถ่ายรูปผู้สื่อข่าวหลายคนที่ตั้งคำถามต่อเนื่อง

จนผู้สื่อข่าวต่างรุมถามว่า ถ่ายรูปไปทำไม  นายสุชาติ กล่าวว่า “แค่ถ่ายรูปแค่นี้ คุณก็กลัวแล้วหรือ  ผมแค่ถ่ายรูปเพื่อดูหน้าพวกคุณคือใคร ผมจะได้ไปศึกษาท่าน”  ผู้สื่อข่าวถามว่า ศึกษาไปทำไม นายสุชาติ กล่าวว่า “มันเป็นสิทธิของผม และทีพวกคุณถ่ายผม ผมก็ไม่ได้ว่าอะไร” แต่ผู้สื่อข่าวชี้แจงว่า นายสุชาติเป็นผู้แถลงข่าวก็ต้องถูกถ่ายรูปทำข่าวได้


จากนั้นบรรยากาศเป็นไปอย่างโกลาหล ผู้สื่อข่าวขอให้นายจรัล ลบภาพรูปผู้สื่อข่าว ในกล้องของนายสุชาติ

แต่นายสุชาติ แย้งว่า “ทรัพย์สินของผม ใครอย่าแตะก็แล้วกัน” ผู้สื่อข่าวจึงถามว่า นายจรัลว่า ในฐานะที่พามาจะรับผิดชอบนายสุชาติได้ไหม เพราะพฤติกรรมเช่นนี้ เคยเกิดกรณีการคุกคามสื่อโดยให้ชายฉกรรจ์มาติดตามผู้สื่อข่าวมาแล้ว   แต่นายจรัล นิ่งเงียบ จากนั้นผู้สื่อข่าวถามต่อว่า ในฐานะเป็นอดีตกรรมสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ คิดอย่างไรกับประเด็นสิทธิเสรีภาพ และ ท่าทีของการคุกคามสื่อเช่นนี้ นายจรัล จึงกล่าวอย่างมีอารมณ์ว่า  “พวกคุณชอบใช้คำว่า  คุกคาม และผมก็เลิกนับถือสื่อมวลชนมานานแล้ว ก่อนจะตบไมค์ลงกับโต๊ะด้วยความไม่พอใจ พร้อมบอกว่า “เลิกโว๊ย” และลุกหนีไปทันที พร้อมด้วยนายสุชาติทันที โดยนายจรัล ได้เดินไปพูดคุยกับนายนิสิต  สินธุไพร ส.ส.ร้อยเอ็ด พรรคพลังประชาชน อดีตประธานกลุ่มคนรักทักษิณ ซึ่งร่วมชุมนุมอยู่ด้วยในคืนเกิดเหตุ และเป็นผู้นำคณะมาแถลงข่าวว่า “ผมต้องกลับก่อน อยู่ต่อเดี๋ยวอดใจไม่ไหว เดี๋ยวชกเอา”

ขณะที่น.พ.เหวง  พยายามยุติการตอบโต้โดยกล่าวว่าไม่อยากให้เสียบรรยากาศการแถลงข่าว เรื่องนี้เป็นเรื่องเล็ก ขอกันกินมากกว่านี้

แต่ผู้สื่อข่าวเรียกร้องให้อย่าใช้คำว่า “ขอกันกินมากกว่านี้” เพราะไม่มีนักข่าวคนไหนไปขอ นปช.กิน ทำให้น.พ.เหวง ต้องเปลี่ยนไปเป็นคำว่าล่วงล้ำกันบ้างก็ไม่เป็นไร และรับปากว่าหากผู้สื่อข่าวจะแจ้งความเอาไว้เป็นหลักฐานว่ามีการถ่ายรูปผู้สื่อข่าวจริงก็พร้อมจะเป็นพยานให้ หลังจากนพ.เหวง ได้ยื่นหนังสือถึง นายนิสิต  ขณะที่ตัวแทนคณะผู้สื่อข่าวรัฐสภา ได้เข้าไปแจ้งถึงพฤติกรรมการข่มขู่ผู้เสื่อข่าว ด้วยวาจาและการถ่ายภาพ และขอให้นายนิสิตรับรองว่า ถ้าจะมีการแจ้งความนายนิสิตต้องเป็นพยานว่าเป็นคนที่พาคนเหล่านี้มาจริง ซึ่งนายนิสิต รับปากว่าพร้อมไปให้การกับตำรวจ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากนั้นผู้สื่อข่าวทั้งหมดได้หารือร่วมกันและมีมติร่วมกันว่าจะดำเนินการแจ้งความไว้ที่ส.น.ดุสิต ไว้เป็นหลักฐานว่ามีเจตนาจะคุกคามสื่อ.


เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์